เปิดแผลแล้วหนึ่ง : เมื่อ สหรัฐอเมริกา วิ่งแบบมีสมองจนเผยให้เห็นจุดอ่อนของอังกฤษ

เปิดแผลแล้วหนึ่ง : เมื่อ สหรัฐอเมริกา วิ่งแบบมีสมองจนเผยให้เห็นจุดอ่อนของอังกฤษ
ชยันธร ใจมูล

เกมระหว่างอังกฤษเเละอเมริกาในฟุตบอลโลก 2022 รอบเเบ่งกลุ่มนัดที่สอง จบเกมกันไป 0-0

โอเค… ผลเสมอไม่ถือว่าเเย่เท่าไหร่ เเต่ปัญหามันอยู่ที่รูปเกมนี่สิ อังกฤษไปไม่เป็นเลย ทำเกมบุกไม่ได้เลย อเมริกาเหนือกว่าด้วยซ้ำ มีโอกาสเข้าทำมากกว่าอังกฤษ เเต่เเค่ยังไม่เฉียบคมพอ

เเละต้องขอบคุณแผงหลังอังกฤษทั้งสี่คนเพราะเล่นได้ดีเเละเเน่นมากๆ โดยเฉพาะ แฮร์รี่ เเมคไกวร์ ที่นัดนี้พี่เเกเก็บกินได้หมดจริงๆ ลูกกลางอากาศเขามีสถิติชนะเกือบ100% มันเลยทำให้น่าตั้งคำถามว่าทำไมเกมรุกถึงทำอะไรสหรัฐอเมริกาไม่ได้เลยทั้งๆที่หลังบ้านเเน่นขนาดนี้ เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าจุดอ่อนของอังกฤษอยู่ตรงไหน

อเมริกาของ เกร็ก เบอร์ฮอลเตอร์ มาในรูปแบบ 4-3-3 นำทัพมาโดยคริสเตียน พูลิซิสเเละทิโมธี เวอาห์ อเมริกาในยุคของ เบอร์ฮอลเตอร์ เป็นสไตล์เล่นบอลเพรสซิ่งอยู่เเล้ว เน้นเพรสกดดันเข้าใส่คู่ต่อสู้เเล้วเอาบอลกลับมาให้เร็วที่สุดเเล้วเข้าทำอย่างรวดเร็ว

Photo : ABC News

เวลาเข้าทำเน้นให้ฟูลเเบ็คออกทางด้านกว้าง ส่วนปีกจะหุบเข้าไปเล่นกับช่องว่างตรงพื้นที่ Half space (ช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์กับฟูลเเบ็ค) กองกลาง 3 คน จะขยับเป็นตัวเคลื่อนที่ซัพพอร์ทเพื่อนในตำเเหน่งต่างๆ เเต่ถ้าทำเร็วไม่ได้ก็จะหาทางเซ็ตบอลกันใหม่ กองหลังกับผู้รักษาประตูก็กล้าที่จะเซ็ตบอลใส่อังกฤษเเบบไม่มีกลัวเลย ถ้าใครนึกภาพไม่ออกให้นึกวิธีการเล่นของลิเวอร์พูลในปีที่เเล้ว อเมริกาเล่นคล้ายๆเเบบนั้น

ส่วนเกมรับ เบอร์ฮอลเตอร์ เขาให้ทีมยืนใกล้ ๆ เเคบ ๆ เกาะกลุ่มกันไว้ กันไม่ให้อังกฤษสามารถเอาบอลเข้ามาเล่นตรงกลางได้ง่ายๆ ปกติชอบเพรสซิ่งดุก็จริง เเต่วันนี้เขาเพรสซิ่งได้ฉลาดมาก ๆ เป็นโซนเพรสซิ่งที่สวยงามมาก ๆ เรียกได้ว่ามันคืองานศิลป์ของการเล่นเกมรับเลยก็ว่าได้

Deep-Lying Forward : การเปลี่ยนร่างจากสายถล่มประตูสู่จอมปั้นเพื่อนของ “แฮร์รี่ เคน” | คิดไซด์โค้ง
การเปลี่ยนตำแหน่งและวิธีการเล่นของ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมชาติอังกฤษ ในฟุตบอลโลก 2022

กองหลังไม่ได้ยืนสูงมาก กองหน้าก็ไม่ได้เพรสซิ่งสูงมาก มันจะทำให้ระยะห่างระหว่างกองหลังถึงกองหน้าของอเมริกานั้นเเคบเเละอึดอัด มีพื้นที่น้อยมาก เน้นปิดพื้นที่ตรงกลางสนาม (Mid block) ถ้าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟหรือผู้รักษาประตูอังกฤษได้บอลจะยังไม่เพรสซิ่ง เเค่ปิดช่องทางการส่งไปหากองกลางอย่าง ดีเเคลน ไรซ์ เละ จู๊ด เบลลิ่งแฮมหรือเเม้เเต่ เเฮร์รี่ เคน บังคับให้จ่ายบอลออก ซ้าย ขวา อย่างเดียว เเล้วเคลื่อนเปลี่ยนเเกนไปตามจังหวะของเกม ไปเริ่มเพรสซิ่งที่ฟูลเเบ็คหรือตำเเหน่งอื่นเเทน

Photo : Bloomberg

เเล้วการเพรสซิ่งคือไม่ได้บุ่มบ่ามเข้าไปแย่ง เเต่จะวิ่งเข้าไปกดดันให้ออกบอลลำบาก ดูเชิงก่อน เเล้วจะเข้าเเย่งบอลก็ต่อเมื่ออังกฤษทำบอลลั่นหรืออยู่ในท่าที่ไม่พร้อมจะเล่น อาศัยพลังงาน วินัย เเละความเข้าใจเกมของนักเตะสูงมาก กองกลางทั้งสามคนวิ่งซัพพอร์ทช่วยกัน ชิงจังหวะกลบออร่า จู๊ด เบลลิ่งแฮม กับ ไรซ์ หายเข้ากลีบเมฆไปเลย สิ่งเดียวที่อังกฤษทำได้คือโยนเข้าใส่หรือหวังจากลูกเซ็ตพีช

“การเพรสซิ่งไม่ใช่เเค่การวิ่งไล่บอลคืนมาอย่างเปล่าประโยชน์ เเต่มันคือการควบคุมพื้นที่ว่างในสนามให้เข้าทางเราได้ เราบังคับให้คู่ต่อสู้จ่ายบอลไปในพื้นที่ที่เราต้องการได้” อาร์ริโก้ ซาคคี่ ตำนานโค้ชชาวอิตาลีเคยให้ความหมายไว้

ถ้าเป็นหนังฮอลลีวูด อเมริกาก็เปรียบเหมือนพระเอกของเรื่อง ทำได้ดีตามตำราของซาคคี่เป๊ะๆ มีเเค่ แฮร์รี่ เเมคไกวร์ ที่เป็นตัวร้ายคอยขัดขวางหนทางสู่ชัยชนะของพวกเขา

เเละการเพรสซิ่งที่ดีของสหรัฐอเมริกา ทำให้เรามองเห็นจุดอ่อนในการเล่นของอังกฤษในฟุตบอลโลกครั้งนี้เลย ว่ามันคือการ “คิดช้า ทำช้า” ของผู้เล่นในเกมรุกเเละสตาฟฟ์โค้ช พอเจอระบบเพรสซิ่งที่ดี อังกฤษไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว

อย่างที่รู้ๆกันว่าฟุตบอลมันมีช่วงเวลาเเต่ละยุคของมัน มันเคยมียุครุ่งเรืองของ ติกิ-ตาก้า ยุคเเห่งเกมรับลึกจอดรถบัสไว้หน้าประตู ยุค 4-4-2 สลับปีก ตัดเข้าใน เเต่ตอนนี้ยุคนี้คือยุคของการเพรสซิ่ง สังเกตได้จากฟุตบอลโลกครั้งนี้ถ้าทีมไหนไม่มีระบบการเพรสซิ่งดีๆคือโดนถลุงอย่างเดียว

อังกฤษในนัดเเรกที่ไล่ถล่มอิหร่านได้ขนาดนั้นก็เป็นเพราะอิหร่านเพรสซิ่งไม่ดี ไม่มีวินัย ทำเเล้วทำไม่สุด ให้นักเตะอังกฤษมีเวลากับลูกบอลนานก็โดนลงโทษ เเต่นัดนี้สหรัฐอเมริกาไม่ให้เวลาตัวรุกอังกฤษกับลูกบอลนานเลย นับ 1 2 คือถึงตัวเลย พอโดนเพรสซิ่งดีๆเป็นระบบกลายเป็นว่าทำอะไรไม่ถูก ทุกอย่างดูติดขัดไปหมด ขึ้นเกมเเทบจะไม่ได้

Photo : ESPN

เเล้วถ้าถามว่างั้นถ้าทุกทีมหันมาเพรสซิ่งหนักๆ ก็จะชนะได้หรอ ทีมไหนโดนเพรสซิ่งหนักๆก็จบเห่สิ เล่นไม่ได้เเน่ๆ จริงๆมันก็มีวิธีการเเกะเพรสซิ่งที่เขาคิดค้นกันมาเเล้ว ยกตัวอย่างหลักๆคือ 1.คือการเล่นบอลจังหวะเดียวที่เเม่นยำมากขึ้น 2.ความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งทั้งสองอย่างเราไม่เห็นจากทีมชาติอังกฤษในนัดนี้เลย

1.การเล่นบอลจังหวะเดียว

ในเมื่อความเข้มข้นของเกมมันเพิ่มมากขึ้น โดนบีบเร็วก็ต้องออกบอลให้เร็วขึ้นเเต่ก็ยังต้องคงความเเม่นยำไว้เหมือนเดิมอีกด้วย เราจึงได้เห็นสโมสรใหญ่ๆที่ฟอร์มดีหลายๆทีม อย่างเช่น เเมนเชสเตอร์ ซิตี้เเละอาร์เซน่อล หรือถ้าในบอลโลกครั้งนี้ก็ทีมชาติสเปน ที่พยายามทำชิ่ง 1-2 หาจังหวะเข้าทำกันในพื้นที่สุดท้ายบ่อยๆ เพราะมันเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเเกะเพรสซิ่ง เเต่ถ้าไม่เเม่น ไม่เข้าใจกันก็จบเห่ ที่สำคัญคือต้องเร็วเเละน้อยจังหวะที่สุด

เเต่นักเตะอังกฤษในเกมรุกไม่มีใครคิดที่จะเล่นจังหวะเดียวหรือพยายามทำชิ่งเลย ทุกคนทำช้า คิดช้า จับบอลเเล้วเเต่ง จับบอลเเล้วคลึง ค่อยๆหาช่อง จังหวะของเกมรุกมันช้าไปหมด มันไม่ทัน มันโดนปิดหมดเเล้ว ถึงเวลาพยายามเล่นจังหวะเดียวก็ไม่เเม่นกลายเป็นทำบอลเสียไป คนที่หวังพึ่งได้อย่าง แฮร์รี่ เคน ก็โดนตัดออกจากเกม

2.ความสามารถเฉพาะตัวของนักบอล

ฟุตบอลไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป ในเมื่อต่อบอลเป็นระบบ เล่นกันเป็นทีม พยายามหาจังหวะเข้าไปทำเเล้วมันใช้ไม่ได้ งั้นก็ต้องเลี้ยงหลบเข้าไปยิง ต้องพึ่งความสามารถของนักบอลเเล้วล่ะ เขาถึงต้องมีนักบอลเก่งๆไว้ในทีมไง คนที่สร้างความเเตกต่างได้ด้วยตัวคนเดียว คนที่สามารถเอาชนะ สถานการณ์ดวล 1 ต่อ 1 เเล้วสร้างพื้นที่ให้กับทีมได้ ซึ่งอังกฤษมีคนเหล่านั้นอยู่บนม้านั่งสำรองเพียบ

Photo : WKT

ในเมื่อ บูกาโย่ ซาก้า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เเละเมสัน เมาท์ สร้างความต่างตรงนี้ให้ทีมไม่ได้ คุณมีโควตาเปลี่ยนได้ 5 คน ทำไมไม่รีบทำเปลี่ยน มีทั้ง ฟิล โฟเด้น มาร์คัส เเรชฟอร์ด เเจ็ค กรีลิช เเถม เจมส์ แมดดิสัน อีกคน พวกเขาเหล่านี้คือนักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงเเละเทคนิคที่ดีทั้งนั้น ทำไมไม่ลองให้โอกาสให้เร็วกว่านี้ กว่าจะเปลี่ยนตัวต้องรอถึงนาทีที่ 68 ซึ่งส่ง เเจ็ค กรีลิช ลงมาคนเดียวจากรายชื่อที่กล่าวมา ส่วนเเรชฟอร์ดลงมากช่วง 10 นาทีสุดท้าย ก็พอจะได้วูบวาบนิดหน่อย เเต่ก็ทำอะไรไม่ได้ มีเวลาในสนามน้อยไปที่จะเปลี่ยนโมเมนตัมของเกม

ถ้า เเกเร็ธ เซาธ์เกต ใจถึงๆหน่อย กล้าเปลี่ยนตัวเมื่อรูปเกมเป็นรอง อะไรๆอาจจะดีกว่านี้ ไม่เข้าใจจริงๆทำไมถึงเป็นคนที่เปลี่ยนตัวได้ช้าขนาดนี้ มันน่าหงุดหงิดจริงๆ คุณมีขุมกำลังที่เเข็งเเกร่งเเต่ไม่คิดจะใช้มันเเก้เกม ถ้าคุณไม่มั่นใจในตัวพวกเขา จะเรียกเขามาติดทีมชุดนี้ทำไม

ไม่ได้บอกว่าอังกฤษไม่ดี พวกเขายังเเข็งเเกร่งเเละเป็นทีมที่ดีเหมือนเดิม เเต่อเมริกาดีกว่าในนัดนี้ ทำการบ้านมาอย่างดีเเละเล่นงานจุดอ่อนอังกฤษได้ตรงจุดมากๆ ถ้าอเมริกาเห็น ผมก็เห็น จุดอ่อนอันนี้ มีหรอ ทีมที่จะเจออีกหลายๆชาติในบอลโลกจะไม่เห็น ถ้าไม่เเก้กันให้เร็วที่สุด ความฝันในการจะคว้าเเชมป์โลกสมัยที่ 2 มันก็ยังจะเป็นเเค่ฝันเหมือนเดิม It’s not coming home, mate.

ส่วนอเมริกาถือว่าทำได้ดีเเละน่าติดตามมากๆ เล่นได้ดีเเบบนี้ หากเข้ารอบไปเจอทีมชาติใหญ่ๆ น่าจะสู้ได้สนุกเลยทีเดียว อาจจะสร้างเซอร์ไพร์สที่พวกเราคาดกันไม่ถึง

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน อิหร่านเอาชนะเวลส์ไปได้ 2-0 เเละผลเสมอของอเมริกากับอังกฤษในนัดนี้ ทำให้ในนัดสุดท้ายที่สหรัฐอเมริกาจะเจอกับอิหร่าน อเมริกาต้องชนะอย่างเดียวถึงจะมีลุ้นเข้ารอบ อิหร่านห้ามเเพ้ถึงจะมีลุ้นเข้ารอบ กลายเป็นสงครามฟุตบอลความมันระดับ 5 ดาว เเน่นอน

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ