เปิดสเปคเฮดโค้ชคนใหม่ ‘ทีมชาติเกาหลีใต้’ ต่างชาติหรือคนในมีลุ้นมากกว่า?
ผลงานอันน่าผิดหวังของ เจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ ในการคุมทีมชาติเกาหลีใต้ ไปไม่ถึงฝั่งฝันในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศกาตาร์ จากการจอดป้ายแค่รอบรองชนะเลิศ ด้วยการพ่ายให้กับ ทีมชาติจอร์แดน 0-2 ส่งผลให้เขาถูกยกเลิกสัญญาตะเพิดออกจากตำแหน่ง พร้อมรับเงินชดเชยราว 7.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ไปเมื่อไม่นานมานี้
คาดกันว่าตอนแรก สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ จะหาเฮดโค้ชรักษาการณ์เข้ามาคุมทีมเป็นการเร่งด่วน หลังมีโปรแกรมสำคัญในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กับ ทีมชาติไทย รอยู่ในวันที่ 21 และ 26 มีนาคม แล้วค่อยหาคนที่เหมาะสมเข้ามารับตำแหน่งเป็น ‘ตัวจริง’ ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปีนี้
อย่างไรก็ตามจากตารางการแข่งขันของ ทีมชาติเกาหลีใต้ ที่แน่นขนัด คณะกรรมการทีมชาติ ตัดสินใจเปลี่ยนแผนอย่างเร่งด่วน ด้วยการตั้งเป้าจะตามหาเฮดโค้ชรายใหม่เข้ามารับตำแหน่งเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมทั้งประกาศแย้มสเปคโค้ชที่ตามหาเอาไว้อย่างชัดเจน
โค้ชแบบใดที่ทัพ ‘โสมขาว’ กำลังตามหา? โค้ชต่างชาติหรือคนในชาติมีลุ้นมากกว่ากับตำแหน่งนี้? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
เข็ดกับโค้ชพาร์ทไทม์
ชัดเจนว่าปัญหาของ คลิ้นสมันน์ ตลอดระยะเวลาที่เขารับตำแหน่งเฮดโค้ช ทีมชาติเกาหลีใต้ คือ เรื่องของระยะเวลาการทำงาน ที่ไม่ต่างกับพนักงานที่ Work From Home เป็นส่วนใหญ่ เพราะชอบบินกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐเอมริกาเป็นประจำ ช่วงเวลาที่เขาจะกลับมาทำหน้าที่มักจะใกล้เข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ เท่านั้น
ดังนั้นคราวนี้ ชุง เฮ-ซุง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารทีมชาติเกาหลีใต้ ประกาศชัดเจนในงานแถลงข่าว ณ ที่ทำการสมาคมฟุตบอล กรุงโซล ว่า เฮดโค้ชคนต่อไปของพวกเขา จำเป็นต้องเป็นคนที่สามารถทำงานได้แบบเต็มเวลาเท่านั้น เพื่อการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับทีมชาติในระยะยาว
อย่างไรก็ตามเสียงของคณะกรรมการยังคงแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ กลุ่มที่มองว่าสามารถใช้โค้ชรักษาการณ์แบบชั่วคราวไปก่อนได้ เพราะเกมสองนัดกับ ‘ทีมชาติไทย’ ไม่ใช่งานที่น่ากังวลนัก กับอีกกลุ่มที่มองว่าควรหาเฮดโค้ชตัวจริงเข้ามารับงานแบบทันท่วงที เนื่องจากทีมชาติมีโปรแกรมการแข่งขันที่สำคัญ รอคิวอยู่เพียบในปีนี้ แล้วโค้ชคนใหม่ก็ควรมีระยะเวลาในการบริหารจัดการทีมที่เหมาะสม แถมยังมีปัญหาที่ยังถกกันไม่จบกับประเด็นที่ว่า
“คณะกรรรมการหลายคน ต้องพบกับปัญหาที่ว่า ไม่มีโค้ชคนไหนต้องการเข้ามารับงานคุมทีมชั่วคราวแค่สองเกม เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นแค่สองเกมแรงกดดันหนักหน่วงก็จะถาโถมเข้าใส่คนที่มารับตำแหน่งอยู่ดี เราเลยยังเปิดกว้างสำหรับการหาเฮดโค้ชคนใหม่ที่จะเข้ามารับงานแบบเต็มเวลา”
นอกจากนี้เสียงของคณะกรรมการก็ยังแตกออกเป็นสองฝั่งในประเด็นการเลือกระหว่าง “โค้ชต่างชาติ” และ “โค้ชชาวเกาหลีใต้” อีกด้วย
ต่างชาติก็ดี แต่คนเกาหลีถือแต้มต่อ
หลังจากใช้โค้ชชาวต่างชาติมาสองรายติด แล้วไปประสบความสำเร็จทั้ง เปาโล เบนโต้ และ คลิ้นสมันน์ ต่อให้คณะกรรมการยังคงเปิดโอกาสในการจ้างโค้ชต่างชาติต่อ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะเทน้ำหนักกลับไปใช้โค้ชชาวเกาหลีใต้คนบ้านเดียวกันมากกว่าเสียแล้ว
เนื่องจากทางคณะกรรมการได้กำหนด คุณสมบัติ ที่เฮดโค้ชคนใหม่จำเป็นต้องมี ออกมาชัดเจนเป็นจำนวน 8 ข้อ ยกตัวอย่างเช่น มีการวางแท็คติกที่เฉียบคม, มีศักยภาพในการพัฒนาผู้เล่นเยาวชน, สถิติและโปรไฟล์การคุมทีมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี, ผ่านการคุมทีมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่, มีความสามารถในการถ่ายทอดและสื่อสารกับนักเตะได้ตรงประเด็น และ มัทักษะการเป็นผู้นำ เป็นต้น ดังนั้นโค้ชที่เป็นแคนดิเดตอยู่ในตอนนี้ต้องเข้าข่ายตามคุณสมบัติที่มีการกำหนดออกมา ตามที่กล่าวไว้ว่า
“เฮดโค้ชคนใหม่ของเรา ต้องมีศักยภาพในการสร้างรูปแบบการเล่นของทีมที่เหมาะกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ มากที่สุด แล้วต้องมั่นใจด้วยว่านักเตะทีมชาติจะสามารถเล่นตามแผนของเขาได้”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับโค้ชคนใหม่ คือ การเก็บผลการแข่งขันที่เราต้องการได้ เมื่อเราตัดสินใจมอบงานนี้ให้กับเขา หลังจากผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่กำหนดไว้”
แน่นอนว่าเมื่อแย้มข้อมูลออกมามากขนาดนี้ ชุง ไม่มีทางหนีพ้นคำถามจากเหยี่ยวข่าวว่า โค้ชคนไหนที่เป็นตัวเต็งกันบ้าง?
แคนดิเดตใน เค ลีก
เมื่อมาถึงคำถามสำคัญว่า คณะกรรมการ กำลังเล็งโค้ชในกลุ่มไหนไว้บ้าง? สำหรับคนที่เป็นตัวเต็งมาสานงานต่อจาก คลิ้นสมันน์ ซึ่งทาง ชุง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารทีมชาติเกาหลีใต้ ก็มีการแย้มข้อมูลสำคัญเอาไว้ว่า
“ตอนนี้มีโอกาสที่ ทีมชาติเกาหลีใต้ จะลงเอยกับโค้ชใน เค ลีก คนไหนก็ได้ ต่อให้เขาคนนั้นจะยังมีสัญญาผูกมัดอยู่กับสโมสรก็ตาม ฤดูกาลใหม่ของลีกในประเทศจะเริ่มต้นในวันที่ 1 มีนาคม แต่เหล่าสโมสรก็มีสิทธิ์ที่จะเสียโค้ชของพวกเขาก่อนเปิดฤดูกาล”
“ถ้าเราจำเป็นต้องดึงตัวโค้ชจากสโมสรไหนมาก็ตาม เราจะมีการติดต่อไปเพื่อทำการเจรจาพูดคุยในเรื่องนี้ เพื่อขอความร่วมมือเป็นการส่วนตัว”
โชคดีที่เฮดโค้ชคนใหม่ของ ทีมชาติเกาหลีใต้ จะไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาความไม่ลงรอยกันของสองสตาร์อย่าง ซน ฮีง-มิน และ อี คัง-อิน ที่ต่างฝ่ายต่างเคลียร์ใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายกสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้อย่าง ชุง มอง-กยู มองถึงการแก้ปัญหาระยะสั้นห่อนหน้านี้ไว้ ด้วยการอาจไม่เรียกผู้เล่นตัวหลักบางรายจากชุดชิงแชมป์เอเชีย มาติดทีมในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตามล่าสุด ชุง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารทีมชาติเกาหลีใต้ ยืนยันว่า การตัดสินใจเรียกตัวผู้เล่นมาติดทีมชาติในนัดที่ต้องดวลกับ ทีมชาติไทย สิทธิ์ขาดจะขึ้นอยู่กับ ‘เฮดโค้ช’ ในเวลานั้นแต่เพียงผู้เดียว เป็นคนตัดสินใจว่าจะเรียกใครมาหรือไม่เรียกใครมาบ้าง?
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : ’https://en.yna.co.kr/view/AEN20240221009200315