เปิดตำนาน "เซเรโซ โอซาก้า" สโมสรแรกในญี่ปุ่นที่เริ่มใช้ "นักเตะต่างชาติ"

เปิดตำนาน "เซเรโซ โอซาก้า" สโมสรแรกในญี่ปุ่นที่เริ่มใช้ "นักเตะต่างชาติ"
ชยันธร ใจมูล

ฟุตบอลเจลีก ณ ปัจจุบันมีนักเตะต่างชาติลงเเข่งขันมากมายจากหลากหลายทวีป ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย, แอฟริกา, ยุโรป หรือ อเมริกาใต้

หากมองปัจจุบันนี่ถือเป็นเรื่องที่ปกติไม่ได้มีอะไรพิเศษนัก เพราะใคร ๆ ก็ใช้นักเตะต่างชาติกันทั้งนั้น แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสัก 60-70 ปีก่อนล่ะ ? การใช้นักเตะต่างชาติในญี่ปุ่นครั้งแรกเกิดขึ้นได้ยังไง ? เท่านี้น่าสนใจพอหรือยัง ?

#FootballisOurEngine รู้จักตำนาน เซเรโซ เพิ่มเติมคลิกที่รูปได้เลย

จุดเริ่มต้นจากพนักงาน 14 คน

เดิมทีก่อนที่จะเป็นลีกฟุตบอลอาชีพนั้นสโมสรฟุตบอลในญี่ปุ่นจะใช้ชื่อขององค์กรที่สนับสนุนทีมมาเป็นชื่อทีมไปเลย และ เซเรโซ โอซาก้า ก็เป็นเช่นนั้น

ก่อนจะชื่อ เซเรโซ โอซาก้า พวกเขาใช้ชื่อเดิมว่า ยันมาร์ ดีเซล เนื่องจากบริษัทยานยนต์ชื่อดังอย่าง "ยันมาร์" เป็นผู้ก่อตั้งสโมสรขึ้นมาในปี 1957

โดยเป้าหมายเพราะฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของคนทั่วโลก ทำให้คนทั่วโลกรู้จักยันม่าร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ทำให้บริษัทพัฒนา​ โดยจุดเริ่มต้นเริ่มจากพนักงาน 14 คน และค่อย ๆ เริ่มขยับขยายให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้สโลกแกน Football is our engine หรือ "ฟุตบอลคือแรงขับเคลื่อนของเรา"

Photo : Yanmar

ยันมาร์ ให้การสนับสนุนด้านฟุตบอลมาตั้งแต่สมัยที่ฟุตบอลญี่ปุ่นยังไม่มีลีกอาชีพ และย้อนกลับไปตอนนั้นฟุตบอลยังเป็นกีฬาที่มีความนิยมเป็นอันดับ 2 ของประเทศเท่านั้น (รองจากเบสบอล) ปลายทางที่พวกเขาต้องการคือการทำทีมฟุตบอลให้โลกรู้จัก และแน่นอนว่าการจะทำแบบนั้นได้ พวกเขาต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้านำสิ่งใหม่ ๆ มาสู่วงการฟุตบอลญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาก็ทำแบบนั้นจริง ๆ นั่นคือการเกิดแนวคิด "ใช้นักเตะต่างชาติ"

กล้าสร้างสิ่งใหม่

เดิมที ยันมาร์ ดีเซล เป็นทีมที่ใช้พนักงานของพวกเขาลงไปแข่งกับทีมอื่น ๆ ซึ่งผู้เล่นของทีมจะต้องทำงานให้เสร็จในช่วงเช้า ก่อนจะมาลงซ้อมในช่วงบ่ายของแต่ละวัน

แต่ละคนจะได้รับเบี้ยเลี้ยงพิเศษ หากได้ลงเเข่งขันในช่วงสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีการอำนวยความสะดวกเรื่องการฝึกซ้อมแบบเต็มรูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นองค์กรที่เริ่มจริงจังกับฟุตบอลเป็นทีมแรก ๆ ในญี่ปุ่นก็คงไม่ผิดนัก

Photo : Yanmar

ยันมาร์ ดีเซล ไม่ได้หยุดแค่การยกระดับฝีเท้าของนักเตะสมัครเล่นที่มาจากภายในองค์กรเท่านั้น เพราะเมื่อมาถึงจุดหนึ่งพวกเขาขยับเพดานบินสูงขึ้นอีกด้วยการ "ใช้บริการนักเตะต่างชาติ" ซึ่งในยุคนั้นถ้าจะให้พูดถึงฟุตบอลแล้ว ไม่มีชาติไหนที่จะมีชื่อเสียงมากกว่า "ชาวบราซิล" อีกเเล้ว

ยันมาร์ ดีเซล ผลักดันการใช้นักเตะต่างชาติในช่วงต้นยุค 60s โดยใช้การทำงานแบบองค์กรอยู่เบื้องหลัง กล่าวคือพวกเขาจะส่งพนักงานจากสาขาแม่(ญี่ปุ่น) ไปทำงานและเล่นฟุตบอลที่ประเทศบราซิล และการดึงเอาพนักงานบริษัท ยันมาร์ สาขา บราซิล แลกเปลี่ยนมาทำงานและเล่นฟุตบอลในญี่ปุ่น

Photo : Japan Forward

การทำแบบนี้ไมได้หวังผลเพียงเรื่องของฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังทำให้พนักงานในองค์กรสามารถแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากพนักงานที่มาจากชาติอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อให้ได้เปิดโลกทัศน์และเห็นมุมมองใหม่ ๆ จากผู้คนที่มาจากหลากหลายประเทศ ซึ่งที่สุดแล้วผลประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นกับทุก ๆ สิ่งที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเรื่องการพัฒนาคุณภาพของเกมฟุตบอล หรือแม้กระทั่งการขับเคลื่อนองค์กรสู่ระดับโลก

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น

การมาถึงของนักเตะจากชาติที่มีความรู้ ความเข้าใจ และคุ้นเคยกับฟุตบอลมากกว่าอย่าง บราซิล มีผลสำคัญมาก ๆ กับวงการฟุตบอลญี่ปุ่น หลังจากกลุ่มนักเตะต่างชาติของ ยันมาร์ ดีเซล เข้ามาและสร้างความแตกต่างได้ มันทำให้แต่ละทีมรับรู้ว่าการได้เรียนรู้และศึกษาจากคนที่เก่งและมีประสบการณ์มากกว่าถือเป็นสิ่งที่สมควรทำ หากอยากจะเดินหน้าไปให้ถูกทาง

เรื่องนี้ยืนยันได้จากการสร้างลีกฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อปี 1992 เคยเกิดวาระแห่งชาติระหว่าง ญี่ปุ่น และ บราซิล ขึ้น ย้อนกลับไปตอนนั้น เฟร์นันโด คอลเลอร์ เดอ เมลโญ ประธานาธิบดีของ บราซิล ได้ขอให้ "ซิโก้" ตำนานนักเตะชุดเเชมป์โลกของบราซิล ที่แขวนสตั๊ดไปแล้ว 2 ปี กลับมาเตะฟุตบอลอีกครั้งในประเทศญี่ปุ่น

เป้าหมายก็เพื่อต้องการให้ซิโก้ไปช่วยวางรากฐานให้กับฟุตบอลญี่ปุ่นนั่น เหตุผลที่ทาง บราซิล ต้องช่วยญี่ปุ่นก็เเป็นเพราะความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศที่มีมาตั้งแต่ในช่วงยุคปลายเมจิ (ค.ศ. 1868-1912)

หลังจากนั้นฟุตบอลญี่ปุ่นก็เริ่มวางรากฐานกันแบบมีอาชีพ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย จนกลายเป็นลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในเอเชีย ซึ่งนักเตะต่างชาติที่ย้ายมาเล่นในเจลีกหลาย ๆ คนก็กลายเป็นเหมือนครูของนักเตะท้องถิ่น พวกเขาเข้ามาสร้างแรงบันดาลใจครั้งใหญ่ และปลุกกระแสให้ฟุตบอลกลายเป็นที่นิยมในวงกว้าง เหนือสิ่งอื่นใดองค์ความรู้จากเหล่านักเตะต่างชาติ ก็ช่วยสร้างนักเตะญี่ปุ่นหลายคนให้มีความฝันในการออกไปค้าแข้งในต่างประเทศ จนทุกวันนี้ 11 นักเตะตัวจริงของทีมชาติญี่ปุ่น ล้วนค้าแข้งในลีกดัง ๆ ของโลกแทบทั้งสิ้น

จุดเริ่มต้นการใช้นักเตะต่างชาติของ ยันมาร์ ดีเซล หรือ เซเรโซ โอซาก้า คือหนึ่งในจุดเปลี่ยนของวงการฟุตบอลญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

Photo : Yanmar

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้ ส่วนหนึ่งจะเกิดขึ้นโดยพนักงานบริษัท "ยันม่าร์" เพียง 14 คนเท่านั้น พวกเขาสร้างความเปลี่ยนแปลงทางแนวคิดครั้งใหญ่ให้กับวงการฟุตบอลญี่ปุ่น

และถ้าคุณยังอยากติดตามเรื่องราวทั้งหมดของ เซเรโซ โอซาก้า ที่ตอกย้ำสโลแกน #FootballIsOurEngine ของ ยันม่าร์  เรามีเรื่องราวตั้งแต่วันเริ่มต้นจนถึงวันนี้มาฝาก

อ่านตำนานของ เซเรโซ โอซาก้า เพิ่มเติมที่นี่ https://hi.switchy.io/EaVv

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ