‘เปลี่ยนต่างชาติ’ เพื่อ ‘เปลี่ยนชะตา’ ปัจจัยสำคัญพา บุรีรัมย์ ผงาดไทยลีกเลกสอง

‘เปลี่ยนต่างชาติ’  เพื่อ ‘เปลี่ยนชะตา’ ปัจจัยสำคัญพา บุรีรัมย์ ผงาดไทยลีกเลกสอง
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของตำแหน่ง ทริปเปิ้ล แชมป์ ในประเทศไทยเมื่อฤดูกาลก่อน อาจออกตัวในฤดูกาลนี้ได้อย่างกระท่อนกระแท่นในช่วงแรก เนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงในส่วนสำคัญหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้ฝึกสอนที่แยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ แล้วมอบหมายงานให้ทาง อาเธอร์ ปาปาส รับหน้าเสื่อคุมทีมแทนมาถึงตอนนี้

รวมไปถึงเรื่องของนักเตะต่างชาติที่มีการเสริมทัพเข้ามาในเลกแรก ซึ่งหากมองกันเรื่องของดีกรีของ รามิล เชย์ดาเยฟ และ นิโคเลา คาร์โดโซ่ ที่ผ่านเวทีการเล่นในลีก ยุโรป และ บอลถ้วย ระดับทวีปมาก่อน แฟนบอลต่างก็ใจฟูกันตั้งแต่ก่อนลีกเปิดเสียอีก

PHOTO : Buriram United

อย่างไรก็ตามผลงานของทัพ ปราสาทสายฟัา กลับไม่เป็นไปดังที่แฟนบอลและบอร์ดบริหารคาดหวัง ตกรอบบอลถ้วยชิงแชมป์สโมสรเอเชีย แถมบอลลีกเลกแรกก็มีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด เหมือนอาการจะน่าเป็นห่วง ทำได้แค่ประคองตัว เล่นดี ทรงบอลสวย แต่บางครั้งเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการไม่ได้

แต่ทางประธานสโมสรอย่าง ‘ลุงเน’ เนวิน ชิดชอบ ไม่เคยถอดใจ พร้อมประกาศกร้าวว่า เลกสอง ยังไงพวกเขาก็จะกลับมาครองบัลลังก์แชมป์ ไทย ลีก ได้แน่ แม้ว่าสถานการณ์ของทีมในตอนนั้นแทบยังไม่เห็นหนทางว่าจะแซงทัพ แข้งเทพ ที่กำลังแรงได้อย่างไร? ซึ่งใครจะไปรู้เลยว่าจุดเปลี่ยนของพวกเขา คือ ตลาดซื้อขายนักเตะรอบสอง ที่กล้าเสี่ยงเปลี่ยนตัวต่างชาติกลางซีซั่นอีกแล้ว!

ของแท้ไม่ต้องรอนาน

การเสริมทัพในเลกที่สองของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีผู้เล่นหลายราย ที่มีโปรไฟล์น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น เคนนี่ ดูกัลล์ กองกลางเชิงรับลูกครึ่ง ไทย-สก็อตแลนด์ ที่เคยติดทีมชาติออสเตรเลียชุดใหญ่มาแล้ว แถมยังผ่านเวทีการเล่นในลีกรองประเทศอังกฤษ ด้วยการสร้างชื่อเป็นตัวหลักให้กับสโมสร แบล็คพูล ที่เข้ามาในโควต้านักเตะไทยเพราะมีเชื้อสายโดยตรงจากฝั่งคุณแม่

PHOTO : Buriram United

รวมไปถึงสองคู่หูชาวบราซิลอย่าง ลูคัส คริสปิม และ กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ ที่เข้ามาเสียบในโควต้านักเตะต่างชาติของ เชย์ดาเยฟ และ คาร์โดโซ่ ที่ต้องแยกทางกับทีมไป เนื่องจากผลงานไม่ผ่านเกณฑ์ แล้วไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองในระยะเวลาที่ถูกกำหนดไว้ได้

PHOTO : Buriram United

ผีเท้าของ เชย์ดาเยฟ และ คาร์โดโซ่ คงไม่มีแฟนบอลคนไหนสงสัยเรื่องศักยภาพ เพราะจังหวะการเลี้ยงกินตัว, ความเร็ว และ ทักษะฟุตบอล ต่างคนต่างมีจุดเด่นสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึงความวูบวาบในจังหวะการเล่นเกมรุกให้เห็นกันอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตามถ้าว่ากันถึงความเฉียบคม และ ประสิทธิภาพในการผลิตสกอร์ ทั้งสองคนอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ตรงนี้มากเท่าไหร่นัก ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนของการทำแอสซิสต์หรือการผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู ก็ไม่ได้มากมาย เทียบกับอดีตนักเตะไทยขวัญใจแฟนบอลอย่าง ‘ แบงค์-ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา’ ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ

PHOTO : Buriram United

แต่แล้วเมื่อเข้าเลกที่สองกลับมีตัวต่างชาติรายใหม่คนหนึ่ง โชว์ผลงานได้น่าสนใจตั้งแต่เกมแรก นั่นก็คือ บิสโซลี่ ที่เปิดตัวด้วยการยิงประตูใส่ ลำพูน วอร์ริเออ ได้ทันทีเมื่อมีโอกาสออกสตาร์ทเกมแรก ซึ่งถ้ามันจบอยู่แค่นั้น คงไม่มีใครมองว่าเขาเป็นของแท้ได้ไวขนาดนี้ สองเกมต่อมากับ สุโขทัย เอฟซี และ ตราด เอฟซี ดาวยิงชาวแซมบ้า ก็แผลงฤทธิ์ยิงเพิ่มไปอีก 3 ลูกแบบไม่พัก

นั่นอาจยังไม่เพียงพอสำหรับแฟนบอลบางส่วนที่ยังคงมีความเคลือบแคงสงสัย บิสโซลี่ เลยจัดให้ในเกมเปิดบ้านต้อนเอาชนะ โปลิส เทโร ขาดลอย 6-2 ด้วยการเหมายิงคนเดียว 4 ประตู ทำแฮตทริกแรกในสีเสื้อ ปราสาทสายฟ้า และในศึก ไทย ลีก ได้สำเร็จ จากการใช้เวลาเพียงแค่ 4 เกมเท่านั้น

นับมาถึงตอนนนี้ บิสโซลี่ คือ คีย์แมนที่พา บุรีรัมย์ กวาดชัยชนะรวดในเลกที่สองติดต่อกันมาแล้ว 4 เกมติด แถมเจ้าตัวยังยิงไม่พัก 4 นัด กดไป 8 ลูก ค่าเฉลี่ยยิงนัดละสองลูก เชื่อเหลือเกินว่า อีกไม่นานเกินรอแฟนบอลจะตั้งฉายาให้เขาเป็น ‘เงาดิโอโก้’ หรือ ‘ดิโอโก้สอง’ ตามรอยตำนานกองหน้าของทีมอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ที่กดประตูบนเวที ไทย ลีก ไปกว่า 100 ลูกอย่างแน่นอน

แต่บางที บิสโซลี่ อาจเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่แรงกว่าก็เป็นได้ เพราะว่ากว่า ดิโอโก้ จะใช้เวลายิงใน ไทย ลีก ได้ถึง 8 ประตู ดาวยิงตำนานเมืองเซาะกราว ก็ต้องใช้เวลานานถึง 9 เกมเลยทีเดียว

เอเย่นต์ ‘ดิโอโก้’ ผู้อยู่เบื้องหลัง

จะว่าเป็นเรื่องบังเอฺิญก็คงไม่ใช่ เพราะความเป็นจริงแล้ว ดิโอโก้ และ บิสโซลี่ มีความคุ้นเคยกันมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากพอแขวนสตั๊ด ดิโอโก้ ก็ผันตัวไปทำอาชีพแมวมอง แล้วนักเตะในเครือข่ายของเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก บิสโซลี่ ดังนั้นหากจะใช้คอนเนคชั่นอันแน่นแฟ้นกับสโมสรในประเทศไทย ที่เขารักและผูกพันธ์ พร้อมนำเอานักเตะมาทดสอบฝีเท้าได้ทันที คงจะเป็นทีมไหนไปไม่ได้นอกจาก ‘บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด’

ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับ ดิโอโก้ แล้วได้ยิงคำถามเกี่ยวกับประเด็นนี้ไปว่า เขาคือคนที่นำสองนักเตะนี้มาเล่นให้กับทัพ ปราสาทสายฟ้า หรือไม่? ก็ได้คำตอบมาตามตรงแบบไม่อ้อมค้อมว่า ใช่ เขานี่แหละที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังดีลนี้ พร้อมกับให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า

“บิสโซลี่ เป็นผู้เล่นที่ดีมาก เขาเป็นนักเตะที่ดีจริงๆ แล้วเพิ่งได้รับโอกาสครั้งใหญ่ที่จะได้แสดงศักยภาพให้กับ บุรีรัมย์ และ ไทย ลีก ได้เห็นกัน นอกจากนั้นเขายังเป็นคนนิสัยดี ผมมีโอกาสแนะนำเขาคุยกับเขา เรื่องของการศึกษาวัฒนธรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง"
“เขาต้องศึกษาวัฒนธรรมของสโมสรนี้อย่างถ่องแท้ ต้องเข้าใจมันว่าเขาจะทำยังไงให้ทำผลงานของตัวเองออกมาได้ดีที่สุด เขาจะผ่านอะไรมามันไม่สำคัญ แค่ต้องมุ่งเป้ากับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ต้องก้าวต่อไป ผมบอกเขาไปแล้วว่า บุรีรัมย์ เป็นสโมสรที่ดี มีสิ่งรอบตัวดีๆ มากมาย สิ่งอำนวยความสะดวกก็พร้อม พวกเขามีพร้อมทุกอย่าง เพื่อรองรับการเล่นฟุตบอลที่ดีได้ ผมพูดแบบนี้ไปกับเขา”

ไม่ว่าปลายทางฤดูกาลนี้ บุรีรัมย์ จะจบด้วยการเป็นแชมป์สมดังใจหวังหรือไม่? อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็สามารถการันตีได้อย่างหนึ่งว่า บิสโซลี่ จะกลายเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมสู้ศึกในอนาคตได้อย่างไม่กลัวใครแน่นอน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การชมเกมถ่ายทอดสด

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ