เปลือยใจ “เดอะตุ๊ก” : จากผู้อาสานั่งนายกบอลไทย สู่การเป็นทีมงานของ มาดามแป้ง
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับทีมงานของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ที่จะลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในการเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
เมื่อเห็นหน้าค่าตาสภากรรมการของ "มาดามแป้ง" ทั้ง 18 คน ที่เต็มไปด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอล ผู้บริหารสโมสรใหญ่ในไทยลีก รวมถึงบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในทุกแขนง หลายฝ่ายจึงพร้อมใจกันยกให้ "มาดามแป้ง" เป็นเต็งหนึ่งทันที
หนึ่งในสภากรรมการที่ได้รับความสนในลำดับต้น ๆ ก็คือ "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานดาวยิงผู้ยิ่งใหญ่ของทีมชาติไทย เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยเสนอตัวลงชิงเก้าอี้นายกบอลไทย แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจมาร่วมเป็นทีมงานของ "มาดามแป้ง"
และในงานแถลงข่าวเปิดตัวนี้เอง Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้มีโฮกาสพูดคุยกับ "เดอะตุ๊ก" ถึงเรื่องนี้ ทั้งที่มาที่ไป เบื้องหน้าเบื้องหลัง และเป้าหมายที่อยากจะเข้ามาพัฒนาฟุตบอลไทย ติดตามได้จากบทสัมภาษณ์พิเศษชิ้นนี้
Q) เข้ามาร่วมทีมงานของ มาดามแป้ง ได้อย่างไร ?
- ก่อนอื่นต้องขอบคุณ มาดามแป้ง ที่ให้เกียรติผมเข้ามาเป็นหนึ่งในสภากรรมการ ความจริงคือ มาดามแป้งติดต่อผมมา บอกว่าอยากให้ผมมาร่วมพัฒนาฟุตบอลไทย ผมก็ยินดี ผมเก่งเรื่องฟุตบอล มาดามแป้งเก่งเรื่องบริหาร ผมเลยยินดีที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องฟุตบอล
Q) ขอบข่ายการทำงานเป็นอย่างไร ?
- เรายังไม่ได้คุยกัน แต่นี่คือสมาคมฟุตบอล และผมก็อยู่กับฟุตบอล เพราะฉะนั้นขอบข่ายงานของผมคงเกี่ยวกับฟุตบอลนี่แหละ พัฒนาตั้งแต่เด็ก 8 ขวบ ไปจนถึงทีมชาติไทย ทุกองคาพยพ ทีมชาย ทีมหญิง โค้ช และการพัฒนาผู้ตัดสิน ที่มันตรงกับส่วนที่เราสามารถทำได้ รวมทั้งการพัฒนาฟุตบอล T3, T2, T1 ระบบต่าง ๆ ที่ยังอิรุงตุงนังอยู่ทุกวันนี้
Q) ทำไมถึงเปลี่ยนใจไม่ลงเลือกตั้ง และมาร่วมเป็นทีมงานของ มาดามแป้ง ?
- แรกเริ่มจะสมัครเอง เพราะไม่มีใครสมัครเลย พวกเขาอาจจะรอเวลาหรืออะไรบางอย่าง แต่ผมรอไม่ได้ ในเมื่อทุกคนเงียบ ผมเลยเสนอตัว เพราะว่าต้องการหาทางออกที่จะพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างจริงจัง ตัวผมก็อยู่กับฟุตบอลไทยมา 48 ปีแล้ว มีความรู้ในเรื่องของฟุตบอลพอประมาณ อยากพัฒนาฟุตบอลไทย ก็เลยลงสมัคร แต่หลังจาก มาดามแป้ง แจ้งว่าจะลง ตัวผมศรัทธา มาดามแป้ง ที่มีความโปร่งใสและเป็นคนรักฟุตบอลอยู่แล้ว ผมเลยขอถอนตัวโดยไม่ลังเล หลังจากนั้นมาดามแป้งก็ชวนให้ผมเข้ามาร่วมพัฒนาฟุตบอลไทย ผมเองก็ยินดี
Q) ในสายตาคิดว่าทีมงานของ มาดามแป้ง แข็งแกร่งแค่ไหน ?
- ในอดีตที่ผ่านมา ผู้บริหารและคนในวงการฟุตบอลจะคล้าย ๆ นักการเมือง ผมพูดตรง ๆ เลย คือบางทีไม่ถูกกันอ่ะ ฝั่งนี้ค่ายนี้ ฝั่งนู้นค่ายนู้น แต่ มาดามแป้ง สามารถรวมคนทุกหมู่ทุกเหล่าเข้ามาอยู่ด้วยกันได้ ไม่มีแล้วใครเสื้อสีไหน ทีมอะไร เราแค่ต้องการพัฒนาฟุตบอลไทย ด้วยความรักความสามัคคี และต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถ ผมก็มีความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการรวมผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลทุกค่ายเลยก็ว่าได้ มาดามแป้ง เชิญคนจาก T3, T2, T1, ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงคนที่มีความรู้ในทุกแขนง ถือเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะได้เดินหน้าไป
Q) ฟุตบอลไทยตอนนี้ยังขาดอะไร ? และอยากเข้ามาพัฒนาจุดไหนบ้าง ?
- ผมต้องประชุมวางแผนกับ ดร.ชาญวิชญ์ ผลชีวิน ก่อน จากนั้นก็จะไปคุยกับผู้บริหารทั้งหลาย เพื่อดูว่าคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ หรือว่ารุ่นปัจจุบัน ขาดอะไรไป เราจะกางข้อมูลและนำมารวมเป็นเนื้อเดียวกัน และออกมาเป็นนโยบายของสมาคมฯ
Q) เล็งดึงใครมาร่วมงานบ้าง ?
- โค้ชที่จบโปรไลเซนซ์ เอไลเซนซ์ บีไลเซนซ์ และซีไลเซนซ์ ผมต้องเอาพวกท่านมาใช้งาน รวมถึงอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยด้วย เราทำงานคนเดียวไม่ได้ มันก็เหมือนกับฟุตบอลที่เล่นกันเป็นทีม เน้นระบบทีมเวิร์ค เราก็ต้องหาคนที่มีคุณภาพหลากหลายเข้ามาช่วยงาน ผมเองก็ต้องใช้ทีมเวิร์ค ทำคนเดียวคงไม่ประสบความสำเร็จ
Q) ทาบทามใครไว้แล้วบ้าง ?
- อดีตนักเตะทีมชาติ โค้ชทีมชาติ แล้วก็พวกที่เรียนจบโปรไลเซนซ์ที่ตกงานกันเยอะ พวกเราใช้พวกคุณแน่ เตรียมตัวไว้ได้เลย
Q) เป้าหมายหลักคืออะไร ?
- ผมขอพูดเลยว่า ในยุคของ มาดามแป้ง ทีมชาติไทยต้องมีโค้ชกองหน้า ผมจะหาโค้ชกองหน้ามาสอน จะเชิญกองหน้าระดับโลกมาให้ความรู้นักเตะและโค้ช ฉะนั้นต่อไปฟุตบอลไทยจะมีแต่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ผมจะไปเชิญอดีตกองหน้าอย่าง พิพัฒน์ ต้นกันยา, ศรายุทธ ชัยคำดี หรือ เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ มาคุยกัน เพื่อดูว่าจะพัฒนากองหน้าไทยแบบไหน มันเป็นสิ่งที่เราต้องทำ เพราะเราขาดอยู่ นี่คือเป้าหมายที่ผมอยากจะทำ การพัฒนากองหน้าทีมชาติไทย
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาดามแป้ง เปิดตัวทีมงานชิงนายกบอลไทย, ก้าวลงจากตำแหน่งประธานท่าเรือ