ว่ากันตามหลักการ : เป็นไปได้แค่ไหนที่ อัล-นาสเซอร์ จะได้เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ?

ว่ากันตามหลักการ : เป็นไปได้แค่ไหนที่ อัล-นาสเซอร์ จะได้เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ?
วิสูตร ดำหริ

ซาอุดิอาระเบียสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วยุทธจักรลูกหนัง หลังใช้พลังเงินดูดแข้งซูเปอร์สตาร์มากมายเข้ามาค้าแข้งในลีก พร้อมวางเป้าหมายขึ้นเป็นลีกแนวหน้าของโลกภายในปี 2030

นั่นทำให้พวกเขาวางแผนส่งทีมแชมป์ไปเล่นในถ้วยสโมสรยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึงขนาด สมาคมฟุตบอลซาอุดิอาระเบีย (SAFF) ได้พูดคุยกับ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) แล้ว แต่ข่าวก็เงียบหายไป

กระทั่งล่าสุดเรื่องดังกล่าวถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง หลัง อาลี อัล-ฮาร์บี นักข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่า ยูฟ่า กำลังพิจารณาในการส่งเทียบเชิญ อัล-นาสเซอร์ ต้นสังกัดของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2024/25 เพราะพวกเขาเป็นทีมที่ได้รับความนิยมติดท็อป 3 ของโลก และมีแฟนบอลในยุโรปเยอะมาก

แต่หากพิจารณาจากความเป็นจริงแล้ว มันเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่ทีมจากซาอุดิอาระเบียจะไปปรากฎตัวในถ้วยใบใหญ่ของยุโรป ? Think Curve - คิดไซด์โค้ง นำคำตอบมาเสิร์ฟให้กับผู้อ่านทุกท่านแล้ว

กำแพงด่านแรก

เหมือนกับการแข่งขันทุกรายการทั่วโลก ยูฟ่าเองก็มีข้อบังคับสำหรับทีมที่เข้าร่วมแข่งขันในถ้วยสโมสรยุโรปเช่นกัน ทุกทีมต้องผ่านการประเมินคุณสมบัติในด้านต่าง ๆ เพื่อให้อยู่ในมาตรฐานที่ ยูฟ่า กำหนดไว้ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “คลับไลเซนซิ่ง” (ใบอนุญาตยืนยันการเป็นสโมสรอาชีพ)

อย่างไรก็ดี การที่จะยื่นขอคลับไลเซนซิ่งของยูฟ่าได้นั้น สโมสรต้องอยู่ในลีกที่เป็นชาติสมาชิกของยูฟ่าก่อน ไม่อย่างนั้นก็เลิกคิดที่จะได้ลงแข่งทัวร์นาเมนต์ในยุโรปไปได้เลย

หากมองแค่ประเด็นนี้ สโมสรจากซาอุดิอาระเบียก็ไม่ผ่านเกณฑ์แล้ว ด้วยความที่พวกเขาสังกัดอยู่กับ สหพันธ์ลูกหนังเอเชีย (เอเอฟซี) จึงมีสิทธิ์ลงเล่นแค่ในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือไม่ก็ เอเอฟซี คัพ

นี่คือสิ่งที่สมาคมฟุตบอลซาอุดิอาระเบีย (SAFF) ตระหนักดี ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามเจรจากับผู้บริหารของยูฟ่า เพื่อขอโควตาพิเศษ (Wild Card) ในการเข้าร่วมศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แทน โดยอาจจะเสนอผลประโยชน์ก้อนโตเป็นสิ่งตอบแทน

แต่ต้องยอมรับตามตรงว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะยูฟ่าต้องถามความเห็นจากชาติสมาชิกก่อน ซึ่งแน่นอนว่าตัวแทนจากหลายชาติคงยกมือค้านแบบสุดตัว ในขณะที่สโมสรจากหลายชาติยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่นถ้วยใบใหญ่ของทวีปด้วยซ้ำ แต่อยู่ ๆ ยูฟ่าจะประเคนโควตาพิเศษให้กับแชมป์ลีกซาอุดิอาระเบีย มันเป็นการทำลายสปิริตของการแข่งขัน ซึ่งไม่ต่างจากโปรเจ็ค ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก ที่เคยถูกรุมถล่มจนล่มไม่เป็นท่า

ยิ่ง ยูฟ่า เคยรับบทเป็นหัวหอกออกมาโจมตีซูเปอร์ลีก พร้อมทั้งยังลงโทษทางวินัยกับทุกสโมสรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากพวกเขาเกิดรับลูก สมาคมฟุตบอลซาอุดิอาระเบีย ขึ้นมา คงไม่ต่างจากการถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง และมันก็ยังเป็นการเปิดช่องให้ซูเปอร์ลีกลับมาอีกด้วย

กำแพงด่านสอง

แค่กำแพงด่านแรก สโมสรซาอุฯ ก็ไม่มีทางก้ามข้ามแล้ว แต่ต่อให้พวกเขาได้รับโควตาพิเศษให้ลงเล่นในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2024/25 จริง ๆ สโมสรซาอุฯ ก็แทบจะไม่มีโอกาสลงแข่งอยู่ดี เพราะต้องโดนตรวจสอบบัญชีการเงิน

เป็นที่รู้กันว่า ทุกสโมสรต้องผ่านการประเมินรายรับรายจ่าย ถึงจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปได้ กฎนั้นก็คือ ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ ซึ่ง ยูฟ่า บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว เพื่อควบคุมการใช้จ่ายของสโมสรไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบมากเกินไป ประกอบด้วย

- สโมสรไม่สามารถใช้เงินได้มากกว่าความสามารถในการชำระหนี้

- สโมสรขาดทุนได้ไม่เกิน 30 ล้านยูโร ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาล

- สโมสรจ่ายค่าตัวนักเตะ, ค่าเหนื่อย, ค่าเอเย่นต์ ได้ไม่เกิน 70% ของรายรับทั้งหมด

เมื่อดูเม็ดเงินที่ทีมซาอุดิอาระเบียลงทุนไปกับการคว้านักเตะชั้นนำเข้ามาประดับทีม มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะควบคุมงบค่าใช้จ่ายให้อยู่ในข้อกำหนดของกฎการเงินได้ ต่อให้จะมีแฟนบอลตีตั๋วเข้ามาชมเกมเต็มความจุของสนามก็ตาม

ยกตัวอย่างเช่น อัล-ฮิลาล ใช้เงินในซัมเมอร์นี้ไปเหนาะ ๆ 268 ล้านยูโร (10,360 ล้านบาท) และรวมกับสองฤดูกาลก่อนหน้านี้ ยังไงงบดุลของพวกเขาก็ติดลบเกิน 30 ล้านยูโร

หรือในกรณีของ อัล-นาสเซอร์ กับ อัล-อิตติฮัด ที่ทุ่มจ่ายค่าเหนื่อยให้ คริสเตียโน โรนัลโด้ และ คาริม เบนเซมา รายละ 200 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งต้องเกินรายรับ 70% ของสโมสรแน่นอน เผลอ ๆ จะติดลบมากกว่า 100% ด้วยซ้ำ

ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ จึงยิ่งปิดตายโอกาสของสโมสรลีกซาอุดิอาระเบีย เพราะ ยูฟ่า คงไม่บ้ามากพอที่จะกล้าอนุโลมให้พวกเขาลงแข่ง โดยไม่สนใจงบการเงิน ไม่อย่างนั้นสโมสรอื่น ๆ ในยุโรป จะใช้เป็นข้ออ้างการในลงแข่งขันบ้าง เมื่อถึงตอนนั้นฟุตบอลในลีกยุโรปอาจจะพังทั้งระบบก็เป็นได้

เพราะฉะนั้นสรุปง่าย ๆ เลยว่า ต่อให้ สมาคมฟุตบอลซาอุดิอาระเบีย จะใช้ความพยายามในการเจรจาหรือล็อบบี้ ยูฟ่า ขนาดไหน พวกเขาก็ไม่มีทางได้สิทธิ์ลงเล่นในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยอุปสรรคที่ได้กล่าวมาข้างต้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :

เนย์มาร์ มาอีก 1 : ใครคือ 10 นักเตะที่ได้ค่าเหนื่อยแพงที่สุดในลีกซาอุ ตอนนี้ ?

เปิดแผนครองโลกของลีกซาอุฯ : เทงบ 7.5 แสนล้านบาท สู่ความยิ่งใหญ่ใน 7 ปี

หมากนอกสนามที่ทำให้ ซาอุฯ กำลังจะมีทั้ง เมสซี่ และ โรนัลโด้ ในลีกเดียวกัน

อ้างอิง :

https://www.corrieredellosport.it/news/calcio/calcio-estero/saudi-league/2023/08/15-111686909/clamoroso_gli_arabi_vogliono_giocare_la_champions_league

https://www.uefa.com/insideuefa/protecting-the-game/club-licensing/

https://twitter.com/alharbi_44

แชร์บทความนี้
ฟุตบอล, อนิเมะ, กาแฟ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ