อันเดรส ตูเญซ กับเรื่องราวสุดระห่ำก่อนเป็นตำนานไทยลีก
แฟนบอลไทยรู้จัก อันเดรส ตูเญซ มานาน นานเสียจนบางคนอาจจะลืมไปแล้วว่าก่อนที่เขาจะมาค้าแข้งในไทยลีกเขาเป็นใครมาจากไหน ?
นี่คือเรื่องสุดระห่ำผ่านการเล่าเรื่องจากปากของ ตูเญซ ตั้งแต่ลืมตาดูโลกในดินแดนที่คุณอาจลงไปคุยกับรากมะม่วงได้เพียงเพราะนาฬิกาข้อมือเรือนเดียว
จนกระทั่งถึงเรื่องราวกับการที่เขาผิดใจกับกุนซือทีมชาติสเปน และ บาร์เซโลน่า ยุค MSN ครองโลกอย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ... โย่ว! และนี่คือเสียงจาก อันเดรส ที่แข็งแรงเหมือนกับคุณเอาเหล็กงัด ติดตามอ่านบทความเต็ม ๆ ที่นี่
เวเนซูเอล่า... ถึงจะรักแต่อยู่ไม่ได้
ไม่ว่าจะยากดีมีจน จะอันตรายจนหลายคนที่ได้ฟังเรื่องราวคาดไม่ถึง ... แต่ที่สุดแล้วบ้านก็คือบ้าน การที่เราโตมาจากสถานที่แห่งหนึ่งและได้สัมผัสประสบการณ์รวมถึงสร้างความทรงจำไว้มากมาย คุณย่อมได้เห็น "บ้านเกิด" ของคุณแตกต่างจากคนทั่วไป
"ผมรักเวเนซูเอล่า... นี่คือประเทศที่สวยงาม ถ้าจะให้เปรียบกับที่ประเทศไทย บ้านของผมก็คงคล้าย ๆ กับเชียงใหม่นั่นแหละ" ตูเญซ เริ่มเล่าถึงบ้านเกิดของเขาเมือง การากาส เมืองหลวงของประเทศ เวเนซูเอล่า
พ่อของเขา ซินญอร์ ตูเญซ เป็นชาวสแปนิชจากแคว้นกาลิเซีย ก่อนจะย้ายไปทำงานและสร้างครอครัวที่กรุง การากาส ซึ่ง ตูเญซ ลืมตาดูโลกที่นั่น และขึ้นชื่อว่า DNA อเมริกาใต้ ... ถ้าคุณไม่เล่นกีฬา มันเหมือนกับว่าคุณคงจะแตกต่างกับคนอื่นจนเป็นการดูแปลกแยก และที่ เวเนซูเอล่า กีฬายอดนิยมของพวกเขาคือ "เบสบอล"
"ผมเริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ กีฬาชนิดแรกที่ผมเล่นคือ เบสบอล ก่อนที่พ่อของผมจะจับผมเล่นฟุตบอล เพราะด้วยความที่เป็นคนที่มีเชื้อสายสแปนิช ฟุตบอลคือสังคมของเรา เด็ก ๆ แถวบ้านผมก็เล่นฟุตบลมากกว่า"
"ที่บ้านผมมีวัฒนธรรมฟุตบอลที่เบ่งบาน เรามีช่วงเวลาที่จะรวมตัวกันดูฟุตบอลลา ลีกา สเปน คนเหล่านี้ก็มักจะเปิดชมเกมคู่เดปอร์ติโบ ลากอรุนญ่า กับ เซลต้า บีโก้ 2 ทีมดังประจำแคว้น มันก็ทำให้ผมชื่นชอบพวกเขาไปโดยอัตโนมัติ”
“ผู้คนที่นั่นมีหลายเชื้อชาติ แต่ต่างก็ชอบฟุตบอล และก็เป็นแฟนบอลบราซิลกันซะเป็นส่วนใหญ่ด้วย ผมก็ คือ หนึ่งในนั้น ผมจำได้เลยว่าฟุตบอลโลก 1994 ในจังหวะที่โรแบร์โต บาจโจ สืบเท้าเข้าไปยิง แล้วปรากฏว่าบอลข้ามคาน และบราซิลได้แชมป์โลก ผู้คนออกไปเต้นรำกันตามท้องถนน กระโดดเฮลั่น… ทำไมพวกเขาถึงเชียร์บราซิลงั้นเรอะ? ก็อาจเป็นเพราะประเทศเราไม่ได้เก่งฟุตบอลนักมั้ง (หัวเราะ)”
ถ้าคุณถามว่าสิ่งที่ ตูเญซ พูดมาทั้งหมดมันดูอันตรายอย่างที่จั่วหัวไว้ตรงไหน ? ... นี่คือสิ่งกำลังจะเกิดขึ้นซึ่งส่งผลอย่างมากในการใช้ชีวิตของครอบครัวคนธรรมดา และมันทำให้ ตูเญซ ต้องเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ของเขาเลยทีเดียว
ในช่วงต้นยุค 90s หรือยุคที่ ตูเญซ ยังอยู่ในช่วงวัยเด็กนั้น เวเนซูเอล่า มีปัญหาเรื่องการพยายามก่อรัฐประหารถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีปัญหาการธุรกิจมากมาย ในปี 1993 ประธานาธิบดี คาร์ลอส อันเดรส เปเรซ ออกจากตำแหน่งหลังถูกจับข้อหายักยอกเงินสาธารณะ จากนั้นปีเดียวพวกเขาเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีอัตราเงินเฟ้อสูง การหดตัวของเศรษฐกิจ และการล่มสลายของธนาคารใหญ่หลายแห่ง
จนสุดท้ายก็กลายเป็นความยากจนที่เข้ามาแทนที่ความมั่งคั่ง มันเหมือนกับการที่คุณถือเงินแบงค์พันไว้กับตัว แต่หลังจากผ่านไป 2-3 ปี เงินจำนวนหนึ่งพันบาท กลับมูลค่าตกลง 3-4 เท่า จากที่เคยซื้อของในซูเปอร์มาเก็ตได้เต็มถุงช็อปปิ้ง คุณอาจจะได้แค่ข้าวสารเพียงไม่กี่กิโลกรัมเท่านั้น นี่คือการเปรียบเทียบโดยง่าย
เมื่อถึงยุคข้าวยากหมากแพง อาชญากรรมก็เริ่มเกิดบ่อยขึ้นในหลายพื้นที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านเกิดของ อันเดรส ตูเญซ ด้วย
"วันหนึ่งเมื่ออาชญากรล้นเมือง พวกเขาฆ่าคุณได้ เพียงเพื่อนาฬิกาข้อมือเรือนเดียว มันก็เป็นอะไรที่บ้าคลั่ง และอันตรายเกินไป” ตูเญซ พูดถึงบ้านเกิดที่ลึกๆ แล้วตัวเองก็เสียดายที่ต้องจากมา… เขาย้ายไปที่สเปนบ้านเกิดของพ่อตอนที่เจ้าตัวอายุได้ 7 ขวบ และนั่นคือการเปิดโลกสำหรับเส้นทางฟุตบอลอาชีพของเขา
เรียกผมว่าตัวตึง
ตูเญซ ย้ายกลับไปอยู่ที่ ซานติอาโก เด กอมโปสเตลา เมืองหลวงของแคว้นกาลิเซีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ที่นี่มีสวยงามและน่าอยู่คล้ายกับ การากาส บ้านเกิด เพียงแต่มันปลอดภัยและให้ชีวิตที่ดีกว่าเขาและครอบครัวได้
ตูเญซ เริ่มเล่นฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน และจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ คือการที่พ่อของเพื่อนเขาทำทีมฟุตซอลอยู่ ตูเญซ มีผลงานเข้าตา จึงถูกชวนไปเล่นฟุตซอล โดยในช่วง 10 ขวบ นั้นตูเญซ เล่าว่าในแถบนั้นเรียกเขาว่าตัวตึงก็คงไม่ผิดนัก เขาเป็นผู้เล่นตัวรุก และผู้ใหญ่แถวนั้นก็ตั้งฉายาให้เขาว่า โตซินโญ (Toxinho)
ตูเญซ เเข็งแกร่งขึ้นจากโต๊ะเล็ก ก่อนจะได้ขยับขยายลองเล่นในฟุตบอลสสนามใหญ่ขึ้น ซึ่งสิ่งที่ขยายใหญ่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่สนาม เพราะจำนวนประตูของเขาก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน "สมัยก่อนผมเล่นกองหน้า ผมยิงเยอะเลยล่ะ ผมเคยยิงสูงสุดนัดเดียว 9 ประตูในเกมฟุตซอล ส่วนฟุตบอลเคยมีทีนึงยิงไป 5 ลูกคนเดียว ทีมของเราเป็นทีมที่ดีที่สุดของเมือง บางทีชนะ 15 - 0 หรือ 20 - 0 ก็มี” ตูเญซ เล่า
“ผมตัวใหญ่ แข็งแกร่ง ยิงหนักมาตั้งแต่เด็ก อื้ม… ถ้าถามว่าผมมีสไตล์เหมือนๆใคร? ก็ เรนาน มาร์เกส ของชลบุรี(ปี 2017) นั่นแหละ ไม่ได้เร็ว ไม่ได้คล่อง แต่อาศัยความใหญ่เบียดบังเอาชนะ และยิงประตูคู่แข่งได้"
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร หรือจะเป็นเพราะบ้านของเขาประกอบธุรกิจร้านอาหารก็ได้ ที่ทำให้เขาได้กินของดี ๆ มีร่างกายแข็งแรงและตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุด ซึ่งอย่างที่เรารู้กันในสเปน นักฟุตบอลตัวใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่มีให้เห็นบ่อย ๆ นัก
ดังนั้นในเมื่อ ตูเญซ ตัวใหญ่กว่าเด็กรุ่นเดียวกันมากโข อีกทั้งยังมีทักษะติดตัวไม่น้อย เขาจึงได้รับการจับตาจากสโมสร เซลต้า บีโก้ หนึ่งในทีมดังชื่อคุ้นหูชาวไทยติดต่อเขามา เพียงแต่สิ่งที่โค้ช โรซาริโอ เด กาสโตร มองเห็นเขา ไม่ใช่ความโดดเด่นในการเล่นกองหน้า แต่เขามองลึกไปว่า ตูเญซ ต้องเป็นกองหลังจึงจะเหมาะที่สุด ซึ่ง ตูเญซ ก็เผยว่าแค่ได้ยินว่า เซลต้า บีโก้ เรียกตัวไปจะตำแหน่งไหนเขาก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น ตูเญซ เซย์เยส! และเริ่มลุยบนเส้นทางเด็กยักษ์ในแบบฉบับของเขา
“ตอนคุณเป็นเด็กคุณไม่สนหรอกว่าคุณจะเล่นตำแหน่งอะไร คุณแค่ต้องการลงไปเล่น ถ้าคุณรักฟุตบอลคุณก็เล่นมันหมดนั่นแหละ ไม่ว่าตำแหน่งอะไร ที่แน่ๆ ไม่มีใครอยากจะเล่นในตำแหน่งตัวสำรอง...
"ผมตัวใหญ่ และผมเข้าใจเกม เข้าใจแทคติกได้ง่าย สำหรับตอนเด็กๆ ยิ่งเล่นกองหลัง มันยิ่งง่ายเลย เพราะคู่แข่งกลัวผม คิดดูซิ คู่แข่งตัวเล็กๆ แบบชนาธิป (สรงกระสินธ์) เจอผมเข้าไปตอนเด็ก ๆ จะเป็นยังไง (หัวเราะ)” ตูเญซ เสริมต่อ
นั่นแหละคือต้นเหตุความโหด ตูเญซ ลงเล่นด้วยสไตล์แบบนั้นมานาน และถือเป็นดาวรุ่งที่สโมสรพยายามจะดันไปยังระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อนร่วมรุ่นของเขาที่คุ้นหูคนไทยหน่อยก็น่าจะเป็น ยาร์โก้ อาสปาส อดีตกองหน้าของ ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันก็เล่นให้กับ เซลต้า บีโก้ อยู่ ซึ่ง ตูเญซ ก็เผยความลับเล็ก ๆ ว่าทำไม อาสปาส จึงไม่ประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล ด้วย
"เขาเป็นคนที่ติดบ้านมาก และนั่นเป็นเหตุที่ทำให้เขาเล่นไม่ออกตอนไปอยู่กับลิเวอร์พูล เขาเจอโรคโฮมซิก ตอนเขาไปลิเวอร์พูล ผมพูดกับคนรอบข้างผมแล้วว่า เขาเล่นไม่ออกที่ลิเวอร์พูลแน่ๆ เขาเป็นโรคติดบ้านมากๆ ทั้งภาษา, อาหาร, อากาศ และก็ติดเพื่อนกับครอบครัวอีก” ตูเญซ พูดถึง อาสปาส เพื่อนซี้ของเขา
ทางแยกของอาชีพ
ตูเญซ ขยับระดับขึ้นมาเล่นอย่างรวดเร็ว เผลอแว้บเดียวเขาก็ไต่มาจนถึงทีมรุ่นยู19 ของ เซลต้า บีโก้ แล้ว อีกไม่กี่ก้าวเขาก็จะได้เป็นสมาชิกของทีมชุดใหญ่แล้ว แต่แน่นอนว่าชีวิตคนเรานั้นคงไม่มีใครราบรื่นตั้งแต่นับ 1 จนถึงตอนจบ ซึ่งตัวของ ตูเญซ ก็ต้องรับบททดสอบนั้นเช่นกัน เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากการที่หัวเข่ากระแทกกับเสาประตู และมันทำให้เขาต้องพักรักษาตัว 1 ปีเต็ม
ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อเรื่องนี้สำคัญมาก นักเตะจะต้องมีเกมลงเล่นที่เหมาะสม ได้พักผ่อน ได้เรียนรู้ศาสตร์ฟุตบอล ได้เอาสิ่งที่ฝึกซ้อมมาใช้ในสนามจริงเพื่อเก็บประสบการณ์ แต่ ตูเญซ ทำได้แค่นั่งดูเท่านั้น ... นั่นคือสิ่งที่เขาเจ็บใจาก
“ความจริงแล้วผู้คนในทีม ต่างพูดกันว่าปีนั้นผมกำลังจะได้ขึ้นชุดใหญ่ของเซลต้า บีโก แล้ว แต่ผมพลาดไป เพราะอาการบาดเจ็บครั้งนั้น" ตูเญซ กล่าว
ครั้นพักรักษาตัวครบ 1 ปี ตูเญซ ก็ยังเกิดอาการที่เรียกว่า "แหยง" หรือไม่กล้าใส่เต็มที่เพราะกลัวเจ็บอีกครั้ง เขาต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่สลัดความกลัวนั้นได้และกลายเป็น ตูเญซ "ตัวตึง" คนเดิม
"ตอนผมกลับมาใหม่ๆ ผมไม่กล้าเข้าสกัดหนักๆ เหมือนหัวสมองมันพร่ำบอกว่ายังเจ็บๆ จนกระทั่งวันหนึ่งผมพยายามไม่คิดถึงอาการบาดเจ็บนั้น และหวนใส่คู่แข่งเต็มๆสักตั้ง...เฮ้ย มันไม่เจ็บแล้วนี่หว่า" เขาเล่า
การสลัดความกลัวและกลับมาฟุตร่างกายนั้นทำให้ ตูเญซ กลับมาอยู่บนเส้นทางที่รกร้างไป 1 ปีอีกครั้ง ปี 2008 ในวัย 22 ปี ตูเญซ ได้โอกาสลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกด้วยการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกม โกปา เดล เรย์ เจอกับ บียาเรอัล ทีมเเกร่งของยุคที่นำโดยนักเตะดังอย่าง โรแบร์ ปิแรส, มาร์กอส เซนน่า, จูเซปเป้ รอสซี่, ซานติ กาซอร์ล่า, ดิเอโก โกดิน และโฆน กัปเดบิล่า ลงสนาม .... และนั่นคือเกมที่ ตูเญซ จดจำไปตลอดชีวิตของเขา เพราะเขาผ่าน บียาร์เรอัล ได้สำเร็จ
“การชนะบียาร์เรอัล มันยอดเยี่ยมมากๆ” ตูเญซ บรรยายถึงเรื่องนี้สั้นๆ ... แต่เรื่องราวความสุดยอดยังไม่จบในเกมรอบต่อมา (8 ทีมสุดท้าย) ตูเญซ ได้ลงสนามอีกครั้ง และหนนี้เป็น แอตฯ มาดริด ที่นำโดยนักเตะอย่าง ดิเอโก ฟอร์ลัน, กุน อเกวโร่, ซิเมา ซาโบรซ่า, อันโตนิโอ เรเยส, หลุยส์ เปริอา, และดาบิด เด เคอา ขณะที่ เซลต้า ส่งนักเตะที่โตจากระบบอคาเดมี่ของสโมสรลงสนามในเกมนั้นถึง 7 คนรวมถึงตัวเขาด้วย
“ถ้าคุณได้ดูเกมนี้ล่ะก็… ผมขอบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดสำหรับพวกเรา... เราต้องเจอกับผู้เล่นดีๆ มากมาย อย่างฟอร์ลัน ใครก็รู้ว่าลูกยิงแต่ละลูกของเขายอดเยี่ยมแค่ไหน อย่าให้บอลออกจากเท้าของเขาเชียว ส่วน กุน (อเกวโร่) หมอนี่มันยังเด็ก แต่ขาทั้งสองข้างแกร่งชะมัด ผมจำได้ว่ามีจังหวะหนึ่งเพื่อนร่วมทีมของผม พยายามจะกระโดดแทคเกิ้ลเหมือนรักบี้ แต่เขาไม่ล้มและยังไปต่อไป” เขาเล่าย้อนกลับไป
แม้จะพยายามสู้อย่างเต็มที่แต่ควาผิดพลาดครั้งเดียวในเกมนั้น เปิดช่องให้ ฟอร์ลัน หลุดเดี่ยวเข้าไปสังหารประตู ตูเญซ ยังกล่าวติดตลกถึงลูกนั้นว่า "บอกก่อนนะว่าคนทำพลาดคือเพื่อนของผม ไม่ใช่ผมสักหน่อย แล้วนักเตะอย่างฟอร์ลัน พอคุณหลุดไปแบบนั้น เขาก็ปิดบัญชีคุณแน่นอนอยู่แล้ว"
ดูเหมือนว่าเขาจะได้โอกาสมากขึ้น ลงเล่นเกมใหญ่มากขึ้น จนไม่มีวี่แววจะได้ย้ายมาค้าแข้งในแดนไกลอย่างไทยลีกเลย ... แต่เรื่องมันเปลี่ยนก็เพราะมีกุนซือคนใหม่เข้ามา นั่นคือ หลุยส์ เอ็นริเก้ ตำนานแข้งของ บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติสเปน ... ทุกคนรู้ว่าปลายทางของ เอ็นริเก้ หลังจากนั้นรุ่งเรืองขนาดไหน เขากลายเป็นกุนซือที่พา บาร์เซโลน่า กวาดแชมป์มากมาย และกลายเป็นกุนซือใหญ่ทีมชาติสเปน ... แล้วตูเญซล่ะ ? เกิดอะไรขึ้นกับเขา
วันหนึ่งที่ไม่ ตูเญซ ไม่เคยคาดคิด ... หลุยส์ เอ็นริเก้ เดินมาบอกกับเขาอย่างตรงไปตรงมาที่ สนามซ้อมของเซลต้า บีโก ประโยคนั้นเอ็นริเก้ บอกว่า เขาอยากจะให้ ตูเญซ ออกจากสโมสรแห่งนี้
มันเป็นคำที่ตูเญซ ตกใจไม่น้อย แต่สุดท้ายเขาก็เข้าใจได้ เพราะเอ็นริเก้ดึงตัว อันเดรอู ฟอนตาส จากบาร์เซโลน่า เบ เข้ามา เขาเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟที่เล่นคล้ายๆ กับตูเญซ เท้าซ้ายเหมือนกัน นั่นจึงไม่แปลกหากเอ็นริเก้ ต้องการจะใช้ผู้เล่นที่เขาเลือกมาเล่นแทน และขับไสคนเก่าออกไป
ตอนแรก ตูเญซ ต้องการจะไปล่นกับ เรอัล ซาราโกซ่า แต่บอร์ดบริหารปฎิเสธเพราะไม่ต้องการให้เขาไปเล่นให้ทีมคู่แข่ง และตั้งใจจะปล่อยให้ทีมนอกลีกยืมตัว ... นั่นยิ่งเป็นการสร้างความแตกหักกับ เซลต้า บีโก้ ของ ตูเญซ อย่างสิ้นเชิง
ตูเญซ ยอมรับว่าเขาแยกทางกับ เซลต้า แบบไม่ดีนัก นาทีนั้นเขาโมโหและพร้อมจะย้ายไปทีมไหนก็ได้ ซึ่งดันเป็นช่วงเวลาที่ อเลฆานโดร เมเนนเดซ อดีตกุนซือของเขาในทีมเซลต้า บีโก เบ โทรศัพท์ชักชวนเขาย้ายมาที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด “ผมบอกโอเคไปแบบไม่ลังเลเลย” ตูเญซ พูดถึงจังหวะตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิต
ตูเญซ ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับฟุตบอลไทยแม้แต่น้อย เขาเริ่มค้นคว้าข้อมูล และตกใจเล็กน้อยที่ไม่คิดว่าเมืองไทยจะมีสนามฟุตบอลดี ๆ แบบที่เขาค้นเจอในอินเตอร์เน็ต สุดท้ายเขาก็ย้ายมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปี 2014 (เลกที่ 2)
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ “ปราสาทสายฟ้า” ยังใช้เหล่าแข้ง “สแปนิชคอนเนคชั่น” ได้แก่ ดาบิด โรเชล่า, การ์เมโล กอนซาเลซ, และฆาเบียร์ ปาตินโญ่ นั่นยิ่งทำให้เขาเข้ากับเมืองไทยได้ง่าย เขาโชว์ฟอร์มแกร่ง, ดุดัน, น่าเกรงขาม จนแฟนบอลเริ่มคิดกันได้ว่าบุรีรัมย์ได้ตัวแทนออสมาร์ อิบันเญซ จริงๆเสียที แม้ว่าอเลฆานโดร เมเนนเดซ แยกทางกับปราสาทสายฟ้าไปแล้วก็ตาม โดยปีนั้นบุรีรัมย์คว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ
ที่เหลือคือตำนาน
หลังจากเริ่มต้นออกสตาร์ทที่ไทยลีก ตูเญซ ประกาศตัวในฐานะกองหลังทีดีที่สุดในไทยลีกหลายซีซั่นติดต่อกัน ปกติแล้ว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเปลี่ยนนักเตะโควต้าต่างชาติตลอด แต่สำหรับ ตูเญซ เขาคือคนสำคัญที่อยู่ยงกับทีมและร่วมคว้าความสำเร็จมากมาย
จนกระทั่งในปี 2016 เกิดเรื่องใหญ่อีก 1 เรื่องคือแม่ของเขาเสียชีวิตและนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ ตูเญซ เสียหลัก เขายอมรับว่าเขาสับสนกับหลายเรื่อง มีหลายสิ่งที่เขาต้องทำและต้องกลับไปที่สเปน ตูเญซ จึงลาจาก บุรีรัมย์ ไป 6 เดือน โดยย้ายไปเล่นกับ เอลเช่ ด้วยสัญญายืมตัว
ช่วงเวลาที่กลับไปสเปน ตูเญซ ได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อก้าวข้ามช่วงเวลาที่เลวร้าย ทบทวนหลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และทุกเรื่องไม่ว่าจะแย่แค่ไหน แต่สักวันเราจะผ่านมันไปได้ ซึ่ง ตูเญซ ก็ผ่านเรื่องราวนั้นได้สำเร็จ และเขากลับมาค้าแข้งในไทยลีกอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เหลือคือตำนานแบบไม่ต้องอธิบายกันต่อ อันเดรส ตูเญซ คือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยลีกด้วยซ้ำ เขามีทุกอย่างที่คุณอยากจะเรียกร้องจากกองหลังคนหนึ่ง ทักษะเชิงบอล, ทัศนคติที่ดี, การอยู่ร่วมและเป็นส่วนหนึ่งกับทีม และกลายเป็นผู้บัญชาการในแนวรับที่ทำให้ทุกคนรอบ ๆ ตัวเก่งขึ้น เมื่อมีเขาลงสนาม
ความเป็นผู้นำของ ตูเญซ ถูกบอกเล่าผ่านความสำเร็จมากมายหลายรายการ แม้กระทั่งจะย้ายจากบุรีรัมย์ ไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เขาก็ยังสุดยอดไม่เปลี่ยนแปลง ... จนกระทั่งวันนี้ที่เป็นทางแยกชีวิตของเขาอีกครั้ง
ตูเญซ ในวัย 36 ปี ได้รับปัญหาบาดเจ็บรบกวนตลอดปีที่ผ่านมา และถึงเวลาที่เขาได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าหลังจากจบเกมนัดชิง รีโว่ ลีก คัพ กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขาจะแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ
มันไม่สำคัญว่าคุณจะตัวใหญ่แค่ไหน แต่สิ่งทีเกิดขึ้นกับ ตูเญซ สะท้อนให้เราเห็นว่านักเตะต่างชาติที่มีคุณภาพจริง ๆ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นคนที่เก่งอย่างเดียว แต่จะต้องเป็นคนที่สร้างประโยชน์มหาศาลต่อทีม ดังเช่น อันเดรส ตูเญซ ทำจนถึงวันที่เขาประกาศแขวนสตั๊ด... นั่นเอง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก
คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ
เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว
เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?
บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้
คุณสมบัติอะไรที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ?
ศุภณัฏฐ์ นำทัพ : 6 วันเดอร์คิดเอเชียที่ติดอันดับโลกปี 2019 ทุกวันนี้เป็นอย่างไร ?W
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR