ฟังจากปากคลินส์มันน์ : ทำไม เกาหลีใต้ จึงเลือก เวียดนาม เป็นคู่ต่อสู้ก่อนลุยศึกใหญ่ ?

PHOTO : KFA

เกมฟีฟ่าเดย์ระหว่าง เกาหลีใต้ พบ เวียดนาม กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง โดยเฉพาะฝั่งสื่อเกาหลีใต้ที่ดูจะไม่พอใจกับการจัดโปรแกรมคราวนี้ เพราะมองว่าทีมไม่ได้รับประโยชน์ จากการเจอกับคู่แข่งที่ห่างชั้น

นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี ที่เกาหลีใต้เปิดบ้านต้อนรับชาติจากอาเซียน ในการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ และเป็นหวนกลับมาเจอ เวียดนาม ในรอบเกือบ 20 ปี ครั้งล่าสุดที่ทั้งสองทีมพบกันต้องย้อนไปถึงเกมฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2004 ซึ่งวันนั้นทีมโสมขาวบุกไปชนะด้วยสกอร์ 2-1

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ ยังมีแฟนบอลบางส่วนที่เข้าใจการตัดสินใจของ สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ (KFA) ในเมื่อต้องเจอกับ ไทย ในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก และ มาเลเซีย ในฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม ดังนั้นการดวลแข้งกับ เวียดนาม ซึ่งเป็นชาติจากอาเซียนเหมือนกัน ดูเป็นอะไรที่สมเหตุสมผล

อย่างไรก็ดี เยอร์เก้น คลินส์มันน์ กุนซือของทัพ "แทกุก วอร์ริเออร์" มองไปไกลกว่านั้น เพราะเขาคิดว่ามีโอกาสได้เจอกับ เวียดนาม ในเกมคัดบอลโลก รอบสาม หรือแม้แต่เอเชียนคัพรอบน็อคเอาท์ (อยู่ในสายที่ไขว้มาเจอกัน) เพราะฉะนั้นการเจอกันตั้งแต่ตอนนี้ จึงถือเป็นการศึกษาคู่แข่งล่วงหน้าไปในตัว

"ผมไม่คิดว่าเวียดนามเป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอแม้แต่น้อย หากดูการวางสายของเอเชียนคัพ พวกเขาอาจจะเป็นคู่แข่งของเราในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และเรายังสามารถโคจรมาพบกันได้ในเกมคัดบอลโลก รอบสาม เราจึงสามารถศึกษาวิธีการรับมือกับพวกเขา และเตรียมทีมล่วงหน้าเมื่อต้องเจอกับคู่แข่งทีมนี้ได้" โค้ชชาวเยอรมัน กล่าว

ฝั่ง ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ โค้ชของทีมชาติเวียดนาม แสดงความเห็นถึงเกมนี้ว่า "เราเตรียมทีมหนักมากสำหรับการเผชิญหน้ากับทีมระดับโลกอย่าง เกาหลีใต้ พรุ่งนี้ผมจะไม่ใช้คำว่าทดลองนักเตะ แต่นี่คือโอกาสที่พวกเขาจะได้ทดสอบตัวเองและแข่งขันกับคู่แข่งที่อยู่ในระดับโลก"

สำหรับเกมคู่นี้จะมีขึ้นที่ ซูวอน เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม ในวันอังคารที่ 17 ตุลาคมนี้ เวลา 18.00 น. (ตามเวลาในประเทศไทย)

อ้างอิง : https://sportalkorea.com/news/view.php?gisa_uniq=2023101617334471

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด