ฝรั่งเศส 0-1 เซเนกัล : เบื้องหลังนัดเปิดสนามที่พลิกล็อคที่สุดในประวัติศาสตร์บอลโลก | คิดไซด์โค้ง
ซาอุดิอาระเบีย สร้างวีรกรรมช็อคโลก โค่นทีมเต็งแชมป์อย่างอาร์เจนตินา 2-1 แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ในฟุตบอลโลก ที่ผ่านมามีทีมที่ถูกมองว่าเป็นไม้ประดับสร้างเซอร์ไพรส์มาแล้วนักต่อนัก
อย่างไรก็ตาม หากเล่าย้อนกลับไปยังอดีตไม่มีเกมเปิดสนามนัดไหนช็อคเท่ากับปี 2002 อีกเเล้ว เมื่อฝรั่งเศส เเชมป์โลกในปี 1998 ขนเอาผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุด และได้รับการยกย่องให้เป็นเต็ง 1 ... ต้องเจอกับ เซเนกัล ทีมที่เพิ่งเคยมาแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า เซเนกัล หักปากกาเซียนพลิกล็อกชนะฝรั่งเศสไปได้ 1-0 ... แต่คุณรู้หรือไม่เหตุผลที่ทำให้เกม ๆ นี้มีผลสกอร์พลิกล็อกที่สุดในประวัติศาสตร์เกมเปิดสนามฟุตบอลโลกคืออะไร ? ... นี่คือเบื้องหลังที่นักเตะทั้ง 2 ทีมเอามาเล่าย้อนความเมื่อ 20 ปีก่อนให้ฟัง ติดตามที่นี่
เรื่องธรรมดาของคนกำลังดัง
ฝรั่งเศส มาแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 ในฐานะแชมป์เก่า มีนักเตะกว่าครึ่งที่จากชุดแชมป์โลกปี 1998 เป็นส่วนหนึ่งในทีมชุดนี้ และหลายคนกำลัง "พีก" ยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ เธียร์รี่ อองรี กลายเป็นดาวยิงที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกยุคนั้น, ซีเนอดีน ซีดาน เป็นนักเตะที่แพงที่สุดในโลก พาทริก วิเอร่า เป็นจอมทัพแถมแถวหน้าของโลก และ โคล้ด มากเกเลเล่ ถูกยกย่องให้เป็นเบอร์ 1 ของตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ... นี่คือการยกตัวอย่างความแข็งแกร่งของฝรั่งเศสชุดนั้น
ดีกรีที่กล่าวมาทำให้สื่อในประเทศหรือแม้แต่ทั่วโลกมองว่าฝรั่งเศสมีโอกาสที่จะป้องกันเเชมป์ได้ ในฐานะเต็ง 1 ของรายการ ทุกคำเยินยอแน่นอนว่าได้ยินไปถึงหูนักเตะฝรั่งเศสหลายคน และพวกเขาก็ยอมรับว่าคำยกยอที่ไหลมาเทมา ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มเสียสมาธิ ก่อนเกมนัดเปิดสนามกับ เซเนกัล จะเริ่มขึ้น
"ผู้เล่นหลายคนเป็นที่จับตามองของสื่อเป็นอย่างมากหลังจากคว้าเเชมป์โลกปี 1998 สปอนเซอร์ เข้ามาสนับสนุนทีมเราเพียบ จริง ๆ เราควรโฟกัสกับงานของเรากับเรื่องในสนาม แต่พวกเราต้องไปออกงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ท่ามกลางการห้อมล้อมของผู้คนที่บอกว่าพวกเราเก่งที่สุด และเราจะแพ้ไม่ได้ นั่นทำให้เราสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปเหมือนกัน" ยูริ จอร์เกฟฟ์ นึ่งในสมาชิกชุดเเชมป์โลก 1998 และปี 2002 กล่าว
ว่ากันว่าพวกเขาอยู่กันอย่าราชา มีการเลี้ยงอาหารค่ำสุดหรู และอาจจะมีนักเตะบางกลุ่มที่ใช้เวลาเที่ยวกลางคืนในช่วงนั้นโดยใช้ช่องทาง "ลิฟต์ลับ" ในการเข้าออกที่พัก ... จะจริงหรือไม่นั่นแค่คำเล่าอ้าง... ไม่มีใครรู้ความจริง
แต่ที่แน่ ๆ ฝั่งคู่ต่อสู้ของฝรั่งเศส นั้นมุ่งมั่นตรงกันข้าม... เซเนกัล เตรียมพร้อมจะเจอกับฝรั่งเศสตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเม้นต์จะเริ่มเเล้วด้วยซ้ำ
แผนล้มยักษ์
เซเนกัล ไม่เคยมาเล่นฟุตบอลโลกมาก่อน และการได้เจอกับเเชมป์โลกทำให้พวกเขาเนื้อเต้นและรู้ตัวทันทีว่านี่คือโอกาสพลิกชีวิตของพวกเขาเลยก็ว่าได้หากสามารถพลิกผลการแข่งขันได้ ... พวกเขาคือชาติที่เคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส แม้กระทั่งในทีมชาติฝรั่งเศสก็ยังมีนักเตะเชื้อสายเซเนกัลอยู่ไม่น้อย ขณะที่นักเตะทีมชาติเซเนกัล ชุดฟุตบอลโลก 2002 ก็ค้าแข้งในลีกของฝรั่งเศสถึง 21 จาก 23 คน ... พวกเขาต้องการการปลดเเอกแสดงความสามารถตัวเอง ตั้งแต่วันที่การจับฉลากแบ่งสายแล้ว
"ผมจำได้ก่อนเกมจะเริ่มพวกเรานั่งคุยกันอยู่ ก่อนที่ บรูโน่ เม็ตซู (กุนซือ เซเนกัล) จะเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวและรวบผมของเขาไว้ด้านหลังอย่างที่เขาทำประจำ เขากระแอมเล็กน้อยและเริ่มพูดสิ่งที่อยากจะบอกกับพวกเราทุกคน" เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ที่ ณ เวลานั้นเล่นให้ ล็องส์ เริ่มเล่า
"เอาล่ะ วันนี้ผมจะพูดอะไรกับพวกคุณได้อีกไหมผมไม่แน่ใจ ? ... แต่เอาเป็นว่าผมรู้จักพวกคุณเป็นอย่างดี พวกคุณเป็นกลุ่มนักเตะที่โคตรจะเจ๋งที่สุดเเล้ว ผมรู้ว่าหลังจากที่เกม ๆ นี้จบลง ผู้ทั้งโลกจะเอ่ยชื่อและพูดถึงพวกคุณ ... ทีนี้ลุกขึ้นมาซะ แสดงออกมาให้โลกเห็นว่าพวกคุณทำอะไรได้บ้าง"
"พอ เม็ตซู พูดจบแบบนั้นมันเหมือนกับจุดไฟพรึบให้พวกเราเลย ไม่ต้องพูดอะไรมากกว่านี้ เขามองมาที่เรา และดูจากสายตาก็รู้ว่าเขาเชื่อว่าเราจะชนะฝรั่งเศสได้จริง" อดีตดาวยิงของ ลิเวอร์พูล เล่าย้อนความ
ขณะที่ตัวของ เม็ตซู ก็มาเล่าทีหลังผ่านสื่ออย่าง เดอะ การ์เดี้ยน ว่า เขาและลูกทีมไม่เคยปล่อยเวลาแม้แต่วินาทีเดียวในการซ้อมให้เสียเปล่า แม้กระทั่ง 1 ชั่วโมงก่อนเเข่ง เขาก็ให้นักเตะซ้อมเพื่อให้รับรู้ถึงสัมผัสของพื้นสนาม แตกต่างกันกับของฝรั่งเศสที่ โรเฌร์ เลอแมร์ กุนซือของทีมชุดนั้นบอกให้ยกเลิกการซ้อมเบา ๆ ก่อนเเข่ง เพราะไม่มีประโยชน์และกลัวว่านักเตะจะเจ็บ
ขณะที่ฝรั่งเศส กลัว เซเนกัล เดินหน้าเต็มกำลัง และเมื่อเกมเริ่มขึ้นโลกก็ได้เห็นว่า เซเนกัล เล่นแบบไม่กลัวฝรั่งเศสเลยแม้แต่น้อย ดิยุฟ ไล่ลอกหลอนแนวรับฝรั่งเศส ร่วมกับ คาลิลู ฟาดิก้า ... และจากนั้นคือประวัติศาสตร เซเนกัล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก ปาปา บูบา ดิย็อป(ปัจจุบันเสียชีวิตเเล้ว) กองกลางตัวรับของทีม และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นั้น
"เราเดินกลับไปที่ห้องแต่งตัวและเราไฮไฟว์กันด้วยความสะใจ แต่ เม็ตซู เดินมาตวาดและบอกพวกเราว่า ไอ้น้องใจเย็น เรายังไม่ชนะ ยังมีเวลาอีก 45-50 นาที ตอนนี้เรายังไม่ได้ผลการแข่งขัน เลิกตีมือ ชนอก กันได้เเล้ว ... ถ้าอยากทำแบบนี้จริง ๆ ก็ออกไปวิ่งสู้ฟัดให้เต็มที่แล้วทำแบบนี้ด้วยกันหลังเสียงนกหวีดยาว"
การเตือนสติเด็ก ๆ ที่กำลังลอยไปไกลทำให้ เซเนกัล กลับมาอยู่ในรูปในรอย ฟุตบอลที่วิ่งเข้าปะทะพร้อมกันทั้งทีม ตั้งรับและสวนกลับด้วยความเร็วและความคล่องตัว เล่นงานแชมป์โลกปี 1998 เสียอยู่หมัด และสุดท้าย เซเนกัล ก็คว้าชัยชนะนัดที่พลิกล็อกที่สุดในประวัติศาสตร์นัดเปิดสนามฟุตบอลโลกในท้ายที่สุด
ขณะที่นักเตะของ เซเนกัล ชุดนั้นดังเป็นพลุแตก ด้วยการพาทีมไปเล่นถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย นักเตะอย่าง ดิยุฟ, ดิย็อป, ซาลีฟ ดิเยา และคนอื่น ๆ ได้ย้ายไปเล่นในลีกใหญ่ ๆ ของยุโรปกันมากขึ้น และจะบอกว่าทีมชุดนี้คือทีมชุดสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมชาติ เซเนกัล ชุดปัจจุบันก็คงไม่ผิดนัก
... นี่คือสเน่ห์ของฟุตบอล ไม่สำคัญว่าคุณจะอยู่ในอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งอันดับที่เท่าไหร่ แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณมอบทุกอย่างในการแข่งขัน คุณเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคู่แข่ง และคุณมั่นใจว่าคุณจะสามารถเอาชนะได้ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ เซเนกัล ชุดฟุตบอลโลกปี 2002 ทำได้สำเร็จอย่างน่าชื่นชม
แหล่งอ้างอิง