หงส์เหนือมังกร ? : บทพิสูจน์ความเป็นมือประสานสิบทิศของ “มาดามแป้ง”
การลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลไทยของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ถือเป็น 1 ในข่าวฮือฮาของวงการฟุตบอลไทย สาเหตุก็เพราะว่าเนื่องจากทีมงานที่เปิดโผและปรากฎตัวในครั้งนี้ทำเอาทุกสำนักรวมถึงแฟนบอลต้องตั้งคำถามว่า "แล้วใครจะสู้ได้ ?"
Better Together
มาดามแป้ง ใช้สโลกแกนว่า “Better Together : Team Thailand บอลไทยรวมใจ พัฒนาไปด้วยกัน”
หากว่ากันตามไลน์อัพ ชื่อเสียงและเกียรติประวัติของหลายคนในทีมงานของ มาดามแป้ง ก็คงต้องยอมรับว่าเป็นดังที่ทุกคนว่าจริง ๆ แต่ละคนอยู่กับฟุตบอลไทยมานาน และเป็นคนระดับบิ๊ก ๆ มีสิทธิ์มีเสียงในการตัดสินใจในองค์กรของตัวเองทั้งสิ้น
จากสิ่งนี้มองดูแล้วเหมือนกับ Avengers ทีม เลยก็ว่าได้เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่รวมเอาทุกขั้ว ที่บางขั้วอาจจะเคยมีเรื่องกระทบกระทั่งบาดหมางกันในอดีตในฟุตบอลไทยเข้ามาอยู่ในทีมเดียวกัน
แน่นอนนี่คือเรื่องดี เพราะทุกคนมีอำนาจในมือจริง ๆ สามารถพูดคุยและรับรู้ปัญหาของแต่ละส่วนเป็นอย่างดี ตามมุมมองของหลายฝ่าย และถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันได้จริง ๆ จะเป็นผลดีต่อฟุตบอลไทยเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละสโมสรมีอิทธิพลและศักยภาพสูงมาก
อย่างไรก็ตาม การรวมตัวกันของเหล่าผู้มีอำนาจในวงการฟุตบอลไทยนี้ก็มีข้อที่ควรต้องข้อสงสัยเช่นกัน
เพราะแม้การรวมตัวกันของเหล่า “บิ๊ก” ต่าง ๆ นั้นจะออกดูดีมาก ๆ ในแง่ของภาพรวม แต่ก็มีเรื่องที่ต้องน่าห่วงว่า การผสานความขัดแย้งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละสโมสรต่างก็เป็นสโมสรใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นการบ้านข้อใหญ่ของ มาดามแป้ง ในการบริหารงานในฐานะ “ผู้มีอำนาจสูงสุด”
เสียงค้านที่หายไป
การที่สลายขั้วและทำให้ทุกคนรวมกันเป็น 1 เดียวแบบนี้ ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีไปเสียหมด
เพราะอันที่จริงแล้วคำว่า "สลายขั้ว" นั้นไม่มีอยู่จริง คำว่า "ขั้ว" ไม่มีวันหมดไป ตราบใดที่ยังมีการเลือกตั้งอยู่ เรื่องนี้ใช้ได้กับทั้งสนามการเมืองใหญ่ และสนามการเมืองในฟุตบอลไทยด้วย
การสลายขั้ว = ไม่มีขึ้ว และการไม่มีขั้วนั้นส่งผลแน่นอน เพราะ จะไม่มีความเห็นที่แตกต่าง และมีคนที่คอยตรวจสอบการทำงานของผู้ชนะอย่างใกล้ชิด ชนิดจับผิดเป็นจุด ๆ เจาะลึกแบบจริงจัง
สิ่งที่เกิดขึ้นก็จะทำให้ประชาชนหรือผู้ไม่เกี่ยวข้องเสียโอกาสที่จะได้เห็นและรับรู้ข้อมูลอีก 1 แง่มุมไป
เนื่องจากในการเลือกตั้งนายก ส.บอลฯ นั้นผู้ชนะ = ชนะเด็ดขาด ขณะที่ผู้แพ้ ก็ไม่ได้กลายเป็นฝ่ายค้าน ที่คอยตรวจสอบและนำเสนอแง่มุมตรงข้าม เหมือนกับที่การเลือกตั้งสนามใหญ่มีด้วย … หรือต่อให้มีฝ่ายค้านจริง ๆ ก็ไม่มีใครที่มีบารมีใหญ่พอที่จะอยู่ในสถานะฝ่ายค้านได้เลย
บททดสอบสำคัญของมาดามแป้ง
ที่ผ่านมา มาดามแป้ง ถือเป็นบุคคลที่หลายฝ่ายให้การยอมรับในเรื่องการเป็นตัวกลาง ไล่ตั้งแต่ตอนฟุตบอลหญิง มาจนถึงการท่าเรือ เอฟซี ที่ตอนแรกก็มีแฟนๆ ตั้งคำถาม ก่อนจะพิสูจน์ตัวเองจนชนะใจได้
อย่างไรก็ดี การขึ้นมากุมบังเหียนเป็นประมุขฟุตบอลไทย ย่อมเป็นโจทย์ที่ยากกว่าที่ผ่านมาอีกหลายเท่า ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งมันจะเป็นบททดสอบสำคัญ ว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนที่เคยทำได้มาตลอด หรือจะต้องทิ้งชื่อเอาไว้ให้แฟนบอลสาปส่งเหมือนนายกสมาคมฟุตบอลคนก่อนๆ ที่ผ่านมา
มาดามแป้ง เองก็น่าจะเคยรับกับความกดดันจากแฟน ๆ และสื่อมาเเล้วในวันที่ทีมชาติไทย “ชุดอุ่นเครื่องยุโรป” แพ้เละเทะกลับบ้าน อีกทั้งผลงานเล่นในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกกับจีนที่เกิดเเรงกระเพื่อมครั้งใหญ่จน มาโน่ โพลกิง ต้องออกจากตำแหน่งก่อนหมดสัญญา
ดังนั้นหนนี้ มาดามแป้ง ได้บทเรียนสำคัญในการบริหารว่าหากเอาใจหรือเชื่อใจคนอื่น ๆ มากเกินไป สิ่งที่ตามมาคือการถูกโจมตีจากแฟน ๆ ที่ไม่มีใครหนีรอด และไม่มีใครช่วยใครได้...
ทุกคน ทุกฝ่าย ที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดนกันหมด ... มันจึงไม่คุ้มแน่หากมาดามแป้ง จะเลือกทำแบบเดิมอีกครั้ง หากได้เป็นนายกสมาคมฟุตบอลไทยครั้งนี้
สิ่งที่เธอจะต้องทำคือ เชื่อมั่นการตัดสินใจของตัวเอง ที่ได้ผ่านการวิเคราะห์และการทำงานของคนที่รู้และเชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องจริง ๆ เพื่อให้ได้ความเชื่อมั่นอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วการได้เห็นสโมสรยักษ์ใหญ่จับมือร่วมกัน ย่อมเป็นนิมิตรหมายที่ดี แต่ถึงอย่างไรก็ โจทย์เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่มาดามแป้งต้องเคลียร์ให้ได้
แน่นอนว่าตอนนี้ มาดามแป้ง อาจจะยังไม่ชนะการเลือกตั้ง แต่เราก็พอจะมองภาพออกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
ไม่ใช่ว่า ผู้สมัครคนอื่น ๆ อย่าง พยุริน "พอลลีน" งามพริ้ง อดีตประธาน "เชียร์ไทยพาวเวอร์" หรือ วรงค์ ทิวทัศน์ ที่เป็นอดีตเลขาไทยลีก เป็นแคนดิเดตที่ไม่มีความสามารถ เพราะแต่ละคนก็มีความเชี่ยวชาญในแต่ละส่วนของตัวเองเช่นกัน
ดังนั้นการทำงานที่เรียกว่า Better Together ที่แท้จริง หาก มาดามแป้ง ชนะการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ การทำงานร่วมกับผู้สมัครคนอื่น ๆ ก็จำเป็นไม่แพ้กัน เพราะการทำงานกับคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คนสนิทสำหรับนายกสมาคมเช่นกัน
หาก มาดามแป้ง หนักเเน่น และใช้สิทธิ์ ใช้อำนาจที่ตัวเองมีอย่างเต็มที่จริง ๆ หากชนะการเลือกตั้งมันก็จะเป็นการแสดงความสามารถของเธอที่จริงออกมา จะดีจะแย่ก็ว่ากันไปตามเนื้องาน
และนี่สิ่งที่รออยู่สำหรับงานช้างของ มาดามแป้ง เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า เธอคือ "หงส์เหนือมังกร" แบบที่ใครหลายคนคาดหวังและวาดภาพไว้ก่อนเลือกตั้งจริงหรือไม่…