ก่อนถึงอันเก้ : 8 กุนซือคุมทีมเอเชียก่อนประสบความสำเร็จในยุโรป

ก่อนถึงอันเก้ : 8 กุนซือคุมทีมเอเชียก่อนประสบความสำเร็จในยุโรป
มฤคย์ ตันนิยม

อันเก้ ปอสเตโคกลู เปิดตัวเป็นกุนซือคนใหม่ของ ท็อตแนมป์ ฮ็อตสเปอร์ เป็นที่เรียบร้อย หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ กลาสโกว์ เซลติก ด้วยการพาม้าลายขาวเขียว คว้า 3 แชมป์ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่แฟนบอลชาวไทยจดจำเขาได้มากที่สุด คือการพาโยโกฮามา เอฟ มารินอส ของ ธีราทร บุญมาทัน คว้าแชมป์เจลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ในฤดูกาล 2019

ทั้งนี้ อันเก้ ก็ไม่ใช่กุนซือรายแรกที่เริ่มต้นจากการคุมทีมในเอเชีย ก่อนจะไปทำผลงานโดดเด่นในยุโรป หรือแม้แต่ระดับโลก ส่วนจะมีใครอีกบ้างนั้น ติดตามไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้งได้ที่นี่

Photo : AFP

อาร์เซน เวนเกอร์ (นาโงยะ แกรมปัส)

กุนซือระดับตำนานของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เคยมีประสบการณ์ในญี่ปุ่นเกือบสองปี หลังบินข้ามโลกไปรับงานที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างเซอร์ไพรส์ ในฐานะกุนซือคนใหม่ของ นาโงยา แกรมปัส ทีมดังจากจังหวัดไอจิ ในปี 1995

แม้ว่า เวนเกอร์ จะอยู่กับแกรมปัสแค่ช่วงสั้นๆ แต่เขาก็ได้สร้างคุณูปการให้แก่สโมสรและวงการญี่ปุ่นมากมาย โดยเฉพาะรูปแบบการบริหารทีมที่ทันสมัยอย่างมืออาชีพที่แท้จริง ที่ทำให้เขายังคงได้รับการยกย่องจากแฟนบอลญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้

Photo : AFP

ปาเชตา (ราชบุรี เอฟซี)

แม้ว่ากุนซือชาวสเปน จะเริ่มชีวิตการคุมทีมในบ้านเกิด แต่เขาก็เคยมาฝากฝีไม้ลายมือในไทยลีก ในตำแหน่งเฮดโค้ชของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อยู่เกือบ 2 ปีเต็ม ในช่วงปี 2016-2017 พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ (ร่วม) และเข้าชิงโตโยต้า ลีกคัพ

ก่อนที่หลังจากนั้น ปาเชตา จะไปสร้างชื่อกับ เอลเช หลังพาทีมที่อยู่ในเซกุนดา ดิวิชั่น (ลีกระดับ 2) เลื่อนชั้นสู่ลาลีกา ลีกสูงสุดได้สำเร็จในปี 2020 และเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีของสโมสร ทว่าหลังจากนั้นเขาก็ลาออกไปรับงานกับ อูเอสกา ที่อยู่ในลีกเดียวกัน

Photo : AFP

คาร์ลอส อัลแบร์โต ปาร์ไรรา (ทีมชาติคูเวต, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดิอาระเบีย)

แม้ว่าอดีตกุนซือของฟลูมิเนเซ จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หลังพาบ้านเกิด บราซิล ผงาดคว้าแชมป์โลกในปี 1994 ทว่า ในช่วงแรกของการเป็นโค้ช เอเชีย คือทวีปที่เขาได้มาสั่งสมประสบการณ์

ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติคูเวต ที่เขาพาทีมคว้าแชมป์เอเชียนคัพในปี 1980 หรือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ได้คุมถึงสองครั้งในช่วงปี 1985-1988 และ 1990-1991 รวมถึงซาอุดิอาระเบีย ในปีช่วงปี 1988-1990 ที่พาทีมคว้าแชมป์เอเชียในปี 1988

ทั้งนี้ หลังคว้าแชมป์โลก เขาได้ย้ายไปคุมสโมสรในยุโรปเป็นครั้งแรกกับ บาเลนเซีย ในลาลีกา ก่อนจะมาประสบความสำเร็จกับ เฟเนร์บาห์เช ในลีกตุรกี ด้วยตำแหน่งแชมป์ลีกในฤดูกาล 1995-1996

Photo : AFP

สลาวิกา โยวาโนวิช (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

“ย็อคกา” สลาวิกา โยวาโนวิช ถือเป็นอีกหนึ่งเฮดโค้ชฝีมือดี ที่เคยมาคุมทีมในไทยลีก ในฐานะกุนซือของเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2012-2013 และฝากผลงานด้วยตำแหน่งแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 พร้อมกับสถิติไร้พ่ายตลอดทั้งฤดูกาล

หลังจากนั้น เขาก็ไปสร้างชื่อด้วยการพาวัตฟอร์ต ขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในฤดูกาล 2014-2015 ทว่า ต้องแยกทางกับทีม หลังสัญญาใหม่ไม่ลงตัว

แต่ถึงอย่างนั้น ย็อคกา ก็ได้หวนสู่ฟุตบอลอังกฤษอีกครั้งในช่วงปลายปี 2015 ในตำแหน่งเฮดโค้ชคนใหม่ของ ฟูแลม ทั้งนี้ เขาไม่เพียงพาฟูแลมรอดพ้นจากการตกชั้นไปลีกวันในซีซั่นดังกล่าว แต่ยังพาทีมขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดใน 2 ฤดูกาลถัดมา หลังเอาชนะ แอสตัน วิลลา ในเกมเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์

Photo : AFP

ดราแกน สตอยโควิช (นาโงยะ แกรมปัส)

อดีตเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติยูโกสลาเวีย เป็นหนึ่งในแข้งดังจากยุโรป ที่มาแขวนสตั๊ดในเจลีก หลังอยู่กับ นาโงยะ แกรมปัส ในช่วงปี 1994-2001

แม้ว่าชีวิตหลังเลิกเล่นของเขา จะเริ่มต้นในตำแหน่งผู้บริหาร ทั้งการเป็นประธานสมาคมฟุตบอลเซอร์เบีย และประธานสโมสร เรดสตาร์ เบลเกรด แต่ในปี 2008 เขาก็ได้มีโอกาสจับงานคุมทีมครั้งแรกกับ แกรมปัส แถมยังพาทีมผ่านเข้าไปเล่นใน เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จในปีดังกล่าว ก่อนพาทีมคว้าแชมป์เจลีกได้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรในปี 2010

หลังจากนั้น เขายังได้มีโอกาสคุมทีมในไชนีส ซูเปอร์ลีก ในฐานะ เฮดโค้ชกวางโจว อาร์แอนด์ เอฟ ก่อนจะถูกแต่งตั้งให้เป็นกุนซือทีมชาติเซอร์เบีย ในปี 2021 และสามารถพาบ้านเกิดเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ

Photo : AFP

ชาบี้ (อัล ซาดด์)

ดาวเตะระดับตำนานบาร์เซโลนา ตัดสินใจปิดฉากช่วงท้ายของการเป็นนักฟุตบอล ด้วยการย้ายมาเล่นกับ อัล ซาดด์ ทีมดังในลีกกาตาร์ พร้อมออฟชั่นช่วยโปรโมตกาตาร์ที่จะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022

อย่างไรก็ดี ชาบี้ กลับทำมากกว่านั้น เมื่อหลังแขวนสตั๊ด เขายังรับงานคุมทีมอัล ซาดด์ และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์กาตาร์ สตาร์ลีกในฤดูกาล 2020-2021 รวมถึงกาตาร์คัพ 2 สมัยในปี 2020 และ 2021

ก่อนที่สุดท้าย เขาจะกลับมาสู่ถิ่นคัมป์นู ขณะที่บาร์ซากำลังเผชิญวิกฤติทั้งในและนอกสนามในปี 2021 และเปลี่ยนโฉมทีม “เลือดหมูน้ำเงิน” ให้กลับมาคว้าแชมป์ลาลีกาได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นแชมป์ลีกแรกของสโมสรในรอบ 3 ปี เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

Photo : AFP

ซิโก้ (คาชิมา อันท์เลอร์ส)

ตำนานทีมชาติบราซิล ไม่เพียงแต่ได้รับการนับถือในบ้านเกิด แต่ที่ญี่ปุ่น เขาก็ได้รับการบูชาเยี่ยงพระเจ้า หลังย้ายมาเล่นให้คาชิมา อันท์เลอร์ส ในช่วงปี 1991-1994

วินัย พรสวรรค์ และความเป็นมืออาชีพของเขาเข้ากันได้ดีกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทำให้เขาหลังแขวนสตั๊ด เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือของ อันท์เลอร์ส ในปี 1999 และก้าวขึ้นไปเป็นเฮดโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นในปี 2002 พร้อมพาซามูไรบลู คว้าแชมป์เอเชียในปี 2004

กระทั่งในปี 2006 ซิโก้ ก็ได้ย้ายมาคุมทีมในยุโรป ในฐานะกุนซือของเฟเนร์บาห์เช และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ทันทีในปีแรกที่มาถึง รวมถึงแชมป์ซูเปอร์คัพของตุรกีในปี 2007

Photo : AFP

หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี (อัล ชาบับ, อัล ควาดิสซิญา, อัล อาลี, จูบิโล อิวาตะ)

อดีตเฮดโค้ชเชลซี มีเส้นทางที่ค่อนข้างคล้าย คาร์ลอส อัลแบร์โต ปาร์ไรรา โดยเฉพาะการมีประสบการณ์คุมทีมในเอเชียมาก่อน ก่อนที่จะพาบ้านเกิดคว้าแชมป์โลก

สโคลารี ถือเป็นผู้ช่ำชองในลีกเอเชีย เมื่อเขาผ่านงานคุมสโมสรในตะวันออกกลางมามากมาย ทั้งสองทีมในลีกซาอุดิอาระเบียอย่าง อัล ชาบับ และ อัล อาลี , อัล ควาดิสซิญา ในลีกคูเวต รวมถึงทีมชาติคูเวต และจูบิโล อิวาตะ (ญี่ปุ่น) ในช่วงทศวรรษที่ 1980s และ 1990s

ก่อนที่เขาจะมาสร้างชื่อในยุโรป ด้วยการพาโปรตุเกส เข้าชิงชนะเลิศ ยูโร 2004 ทว่าน่าเสียดายที่สุดท้ายพ่ายให้กับกรีซ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และนั่นก็เป็นความสำเร็จครั้งท้ายๆของเขาบนเวทียุโรป

แชร์บทความนี้
ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ