ไม่มีเกมแต่มีของ : ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท ไพ่เด็ดทีมชาติไทยชุดยู-23

By ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

19 เม.ย. 2024 , 07:53น.

ควันหลงจากเกมอุ่นเครื่องของ ทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ภายใต้การคุมทีมของ โค้ชหระ-อิสระ ศรีทะโร ถือว่าได้รับคำชมจากแฟนบอลอย่างมาก เนื่องจากมีแนวทางการเล่นอันน่าประทับใจ แถมฟอร์มของนักเตะแต่ละรายก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีความใจสู้ไม่ยอมแพ้ จนสามาาถตามตีเสมอทีมแกร่งอย่าง ซาอุดิอาระเบีย แบบสุดมัน 2-2

อย่างไรก็ตามระหว่างการเล่นในเกมดังกล่าว โฟแบร์-อนันต์ ยอดสังวาลย์ แนวรุกวัยแค่ 21 ปี จากสโมสร ลำพูน วอร์ริเออ โชคร้ายได้รับอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว โค้ชหระ เลยจำเป็นต้องใช้โควต้าเปลี่ยนตัวเป็นรายแรก ตั้งแต่เกมผ่านไปได้แค่ 35 นาทีเท่านั้น

ไพ่เด็ดที่ถูกส่งลงมา คือ แบงค์-ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท แนวรุกสาระพัดประโยชน์จากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งในปีนี้ยังไม่เคยลงเล่นในเกมลีกให้กับต้นสังกัดแม้แต่นัดเดียว เข้ามารับหน้าที่สร้างสรรค์เกมรุกแทนที่ของ อนันต์ แบบที่แฟนๆ คงประหลาดใจกันไม่น้อย

เพราะถ้าวัดกันที่ตำแหน่งตัวริมเส้นแท้ๆ ยังเหลือทาง ภัทร สร้อยมาลัย แนวรุกจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เนติธร แก้วเจริญ เด็กปั้นจากอะคาเดมี่ของ ชลบุรี เอฟซี ที่ถูกปล่อยตัวไปให้กับ สุพรรณบุรี เอฟซี ยืมตัวไปใช้งาน

ซึ่งทั้งคู่ได้ลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการมากกว่า ปุรเชษฐ์ ที่ได้ลงเล่นบอลถ้วยไปแค่สองนัด แล้วอาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

แต่ในเมื่อ โค้ชหระ ตัดสินใจเลือก ปุรเชษฐ์ หมายความว่า แนวรุกรายนี้ต้องมีอะไรดีสักอย่าง เลยสามารถแซงเอาชนะตัวเลือกอื่นๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งจากผลงานในสนาม แบงค์ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ชั้นเชิงการเล่นของเขานั้นไม่ธรรมดา ต่อกรกับผู้เล่นเขี้ยวๆ ของชาติเศรษฐีน้ำมันได้แบบไม่มีเกรงกลัว จนได้รับคำชมจากแฟนบอลไทยตามกลุ่มต่างๆ อยู่ไม่น้อย

ไฮไลต์เกมทีมชาติไทยยู 23 นัดล่าสุด

พื้นเพของ ปุรเชษฐ์ เป็นผู้เล่นที่ถูกสร้างมาจากสโมสรไหน สไตล์การเล่นและตำแหน่งถนัดของเขาคือที่ใด  ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ตำแหน่งและสไตล์การเล่น

ปุรเชษฐ์ เป็นเด็กปั้นจากอะคาเดมี่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด รุ่น 44 เดินทางมาคัดตัวจากอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากให้นึกภาพรุ่นพี่ที่แจ้งเกิดได้สำเร็จจากอะคาเดมี่ของ กิเลนผยอง ย่อมหนีไม่พ้น ฟร้องค์-ปรเมศย์ อาจวิไล เด็กปั้นรุ่น 41 ที่ก้าวไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพจำของเขาในการเล่นให้กับทีมชุดเยาวชน เมืองทอง มีคาแรกเตอร์ที่เด่นชัด คือ ถนัดเท้าซ้ายและชอบใส่ถุงเท้าแค่ครึ่งแข้ง คล้ายคลึงกับ แจ็ค กรีลิช ตัวรุกทีมชาติอังกฤษจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วที่เหมือนกันอีกอย่าง คือ ความกระหายบอล ชอบลงมาล้วงบอลต่ำๆ หากทีมไม่สามารถพาบอลขึ้นหน้าได้

โดย แบงค์ ได้พูดถึงเส้นทางที่ผ่านมาในอะคาเดมี่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด เอาไว้ว่า

“ผมเข้ามาเมืองทองตั้งแต่อายุ 12 ปี ในรุ่นของโค้ช คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่ อยู่ยาวมาตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้ ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้วมากมาย”

“ตำแหน่งแรกที่ผมได้ลงเล่นคือกองกลาง กลางรุกครับ พออายุมากขึ้นเป็น 14-15 ปี โค้ชก็ลองให้ไปเล่นหน้าต่ำ หลังๆ มานี้ก็ยืนปีกขวา เอาจริงๆ แล้วก็เล่นได้หมดครับ ทั้งกองกลางหน้าต่ำหรือตัวริมเส้น”

“สไตล์การเล่นของผมชอบลงมาล้วงบอลต่ำเพื่อสร้างสรรค์เกม แต่พอขึ้นมาชุดใหญ่ก็ต้องปรับตัวอาศัยทีมเวิร์คมากขึ้นกว่าชุดเยาวชน เนื่องจากมีสปีดบอลที่เร็วขึ้น”

ถ้าเปรียบเทียบภาพไฮไลท์เก่าๆ ของ แบงค์ ที่เล่นให้กับทีมอะคาเดมี่ จะเป็นกองกลางสายลากเลื้อยชอบตะลุยฝ่าดงแข้งของคู่แข่ง แต่พอโตขึ้นมาภาพที่เห็นในเกมกับทีมชาติไทยชุดยู-23 จะต่างออกไปเพราะเขาจะพยายามให้บอลง่ายๆ สร้างเกมให้ไหลลื่น เล่นแบบไม่ดื้อ ลดความเสี่ยงในเรื่องการเสียการครอบครองบอลให้น้อยลง

เส้นทางการค้าแข้ง

สมัยที่ยังเป็นผู้เล่นดาวรุ่ง ปุรเชษฐ์ เคยผ่านการคัดเลือกในโครงการชื่อดังอย่าง เอฟซี บาเยิร์น ยูธ คัพ ไทยแลนด์ รวมไปถึงเป็น 1 ใน 3 นักเตะเยาวชนไทยร่วมกับ สุรชัย จงประสิทธิ์ และ ภัทร สร้อยมาลัย ไปเข้าค่ายฟุตบอล โคปา โคคา โคล่า แคมป์ 2016 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสมาแล้ว

แม้ว่าจะเป็นตัวหลักของอะคาเดมี่รุ่น 44 ได้ลงเล่นเป็นขาประจำ แต่ใช่ว่าการจะก้าวขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่ของ กิเลนผยอง จะผ่านไปได้ง่ายๆ แบงค์ ต้องเผชิญชะตากรรมไม่ต่างจากรุ่นพี่ก่อนหน้านี้ ด้วยการถูกปล่อยไปเก็บประสบการณ์กับทีมในลีกรองของไทยอย่าง บางปะอิน อยุธยา เอฟซี ในฤดูกาล 2020/21

พอกลับมาสโมสรต้นสังกัดที่แท้จริง แบงค์ ก็ถูกทาง มาริโอ ยูรอฟสกี้ แจ้งให้มาซ้อมกับทีมชุดใหญ่แบบงงๆ ตามที่เจ้าตัวกล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า

“พอรู้ข่าวคืนนั้นก็นอนไม่หลับครับ ตื่นเต้นครับ ไม่ได้คิดว่าจะถูกเรียกตัวมาซ้อม ได้นอนอยู่บ้างแต่ไม่ค่อยหลับสนิท”

“ได้บอกพ่อกับแม่ไป แล้วที่บ้านก็ส่งกำลังใจให้สู้ๆ”

“ดีที่ตอนเช้ายังวิ่งไหวอยู่ตามคนอื่นๆ เค้าได้อยู่ แถมมีต้องเวทเทรนนิ่งต่ออีก ตอนอยู่อยุธยาไม่ได้เวทหนักขนาดนี้ หลังเสร็จเซสชั่นต่างๆ นี่ ยกช้อนกินข้าวยังลำบาก”

“ผมก็อยากทำให้มันเต็มที่ แล้วก็พิสูจน์ตัวเองให้กับโค้ชและแฟนบอลได้เห็น”

การลงสนามเกมแรกของ ปุรเชษฐ์ กับทีมชุดใหญ่ของ เมืองทอง เป็นตัวสำรองลงมาช่วงท้ายเกมในการเจอกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด อยู่ในสนามราว 5 นาที ผลจบลงที่ทีมของเขาสามารถเอาชนะไปได้ 3-1 ซึ่งเจ้าตัวให้สัมภาษณ์หลังจบเกมเอาไว้ว่า

“ตื่นเต้นมากเลยครับ ดีใจที่ได้รับโอกาส ความจริงผมก็คาดหวังจะลงสนามทุกนัด แต่มันก็อยู่ที่โค้ชว่าเขาจะให้ลงตอนไหน”

“โค้ชบอกว่าพยายามทำให้เต็มที่ โอกาสมาแล้ว พยายามยิงให้ได้ แต่ตัวผมมองว่ายังเล่นขาดๆ เกินๆ อยู่นิดหน่อย”

หลังจากนั้น แบงค์ ก็ต่อยอดผลงานของตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม ด้วยการยิงประตูแรกของตัวเองกับทีมชุดใหญ่ได้ในนัดที่พ่าย บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไป 1-2 ตื่นเต้นถึงขนาดลืมว่าทีมตามหลังอยู่ เลยไม่ได้รับเอาบอลกลับมาตั้งเล่นใหม่ แล้วก็พัฒนาฟอร์มการเล่นจนได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่เนืองๆ ทั้งในเกมลีกและบอลถ้วย

โดยเจ้าตัวได้กล่าวถึงประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่ของ กิเลนผยอง ซีซั่นแรกเอาไว้ว่า

“การเล่นใน ไทย ลีก มันแตกต่างจากสมัยที่ผมเล่นในที 3 อย่างมาก สปีดบอลเร็วขึ้น ทำให้ต้องคิดเร็วทำเร็ว การเอาชนะแนวรับก็ยากขึ้น เพราะกองหลังคู่แข่งเล่นได้แข็งแกร่งมาก”

“เกมที่ประทับใจที่สุดของผมเป็นการลงเจอกับ บีจี ที่ยิงได้ และมีส่วนร่วมกับเกมและทีมมากขึ้น”

“โค้ชก็พยายามบอกให้ผมกล้าเล่น เล่นเป็นตัวเอง เกมรุกเล่นไปเลยแบบอิสระ ไม่ได้กำชับอะไรมาก”

“ทัศนคติในการเล่นเล่นฟุตบอลก็เปลี่ยนไปด้วยพอขึ้นชุดใหญ่ มีความทุ่มเทมากขึ้น มาซ้อมเป็นคนแรกๆ เครื่องเกมส์เพลย์ 4 ก็ขายทิ้งไปแล้ว เพราะไม่มีเวลาได้เล่นเหมือนก่อน”

“สภาพร่างกายของผมก็ดีขึ้นกว่าเดิม ปรับตัวกับโปรแกรมซ้อมที่หนักขึ้นได้แล้ว”

“ผมเห็นด้วยกับคำว่า ฟุตบอลสมัยใหม่ ไม่มีคำว่าเด็ก ประมาณนั้น ต้องพยายามอย่างเต็มที่ทุกคน เพื่อให้ได้มีโอกาสลงสนาม”

“ผมเคยถูกแฟนบอลบอกว่าเล่นเหมือน แจ็ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น หรือ เมสัน กรีนวู้ด แต่ผมอยากเป็นตัวเอง เล่นฟุตบอลในแบบที่เป็นตัวผมเอง”

“ผมรู้สึกประทับใจเวลาแฟนบอลตามมาเชียร์ เลยมีการให้เสื้อหลังจบเกมกับแฟนบอลไปบ้าง แต่มีโควต้าแค่ปีละ 10 ตัว ที่เหลือต้องควักเอง ผมอยากแจกแต่ยังไม่ค่อยมีตังค์”

ผลงานกับเวทีทีมชาติ

ปุรเชษฐ์ เพิ่งจะมีชื่อในสารบบทีมชาติเมื่อตอนอายุ 18-19 ปีนี้เอง แต่การมาติดทีมชาติไทยชุดอายุต่ำกว่า 23 ปีในครั้งนี้ ยังโชคดีที่มีเพื่อนที่คุ้นเคยกันในสโมสรอย่าง เทป-โสภณวิชญ์ รักญาติ นายทวารมือหนึ่งของชุดนี้ มีชื่อติดเข้ามาเป็นเพื่อนด้วย

ตอนนี้ ยังไม่มีข่าวว่า อาการบาดเจ็บเกมแรกของ อนันต์ จะหนักแค่ไหน แล้วจะสามารถลงตัวจริงในเกมต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งตัวของ แบงค์ ก็มีโอกาสลุ้นสอดแทรกได้ลงสนามเป็นตัวจริงอยู่เช่นกัน หากตัดสินจากฟอร์มการเล่นในเกมที่ผ่านมา

แม้ว่า ปุรเชษฐ์ จะยังไม่มีผลงานที่จับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอัน แต่การส่งเขาลงเล่นในแนวรุก แฟนบอลคงได้เห็นกันแล้วว่า การเคลื่อนที่เข้าหาบอล และ การจ่ายบอลง่ายๆ ช่วยให้แนวรุกของทีม มีจังหวะการเล่นที่ไหลลื่น เหลือเพียงแค่การยิงประตูกับแอสซิสต์ ที่ต้องให้กำลังใจกันต่อไป ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าเขาจะทำสำเร็จได้ในเร็ววันนี้

นอกจากนั้นก็หวังว่า เขาจะสามารถต่อยอดผลงานที่ดีไปในระดับสโมสรได้ด้วย เพราะดีกรีที่ผ่านมาของ ปุรเชษฐ์ เคยมีข่าวลือว่า มีทีมจาก เจ ลีก ให้ความสนใจจะดึงตัวไปเล่นในประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://www.youtube.com/watch?v=ZNgyLg-jj2U

https://www.youtube.com/watch?v=e2jOUjOxP2Q

https://www.youtube.com/watch?v=mqdNfZ7Ugic

https://www.90min.com/th/posts/purachet-todsanit-thailand-scg-muangthong-united-japan-j-league-transfer-interest

https://www.transfermarkt.com/purachet-thodsanit/profil/spieler/747788