ขาสั้น เดอะ ซีรีส์ : 3 ดาวรุ่งเจ้าสัวน้อย กับภารกิจทวงเบอร์หนึ่งบอลขาสั้น!
“เจ้าสัวน้อย” ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี หนึ่งในตักศิลาลูกหนังเมืองไทย ที่ผลิตนักฟุตบอลขึ้นสู่ระดับไทยลีก และทีมชาติไทยมาแล้วอย่างมากมาย
แต่ในขวบปีที่ผ่านมา อาจจะเป็นปีที่กร่อยๆ สำหรับสถานศึกษาดังย่านหมู่บ้านเศรษฐกิจ หลังไม่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลกรมพลศึกษา 18 ปี ก. รวมไปถึงผลงานในรายการฟุตบอลเยาวชนที่ไปไม่ถึงแชมป์ในหลายรายการ
แต่สำหรับปีการศึกษาใหม่ พลพรรคเจ้าสัวน้อย หมายหมั่นปั้นมือจะหยิบแชมป์รายการนี้ให้ได้ เพื่อทวงศักดิ์ศรีจ้าวลูกหนังขาสั้นให้ได้อีกครั้งให้ได้ กับขุมกำลังที่เป็น ‘เจ้าสัวน้อยสไตล์’ ที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นระบบที่ส่งต่อมาอย่างต่อเนื่องนับสิบปี
ความพร้อมจากปากโค้ช : กิตติพงษ์ สมมาตร
อดีตแข้งอัสสัมชัญธนบุรี รุ่นเดียวกับ ธีรศิลป์ แดงดา และธีราทร บุนมาทัน ตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลในวัยไม่ถึง 30 ก่อนเบนเข็มสู่เส้นทางโค้ชให้กับอู่ข้าวอู่น้ำเดิม โดยรับไม้ต่อดูแลรุ่นนี้สืบต่อจาก ธร สอระภูมิ โดยในยุคของ “โค้ชเชาว์” เจ้าสัวน้อยผงาดแชมป์รายการนี้เพียงสมัยเดียว คือปี 2565 แน่นอนว่านี่จะเป็นอีกหนของโค้ชเชาว์ในการล้างตาเพื่อพาทีมคว้าแชมป์ให้จงได้
“เรามีเด็กเก่าชุดอันดับ 3 ปีที่แล้วอยู่ครึ่งหนึ่งและมีรุ่นน้อง ปี ‘50 ขึ้นมา เพราะตัวหลักที่เป็นรุ่น ‘49 ก็จบ ม.6 ไปหลายคน แต่ก็ยังมีแกนอยู่ ยิ่งเรามีการเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง เชื่อผลงานปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว”
“ฟุตบอลนักเรียนสมัยนี้มันเท่ากันหมด ไม่ว่าทีมเล็กหรือทีมใหญ่ มันอยู่ที่การเตรียมทีม และสถานการณ์ในวันแข่งขันว่าจะเป็นอย่างไร” กุนซือทัพเจ้าสัวน้อยให้ทัศนะถึงฟุตบอลนักเรียนในยุคนี้
น่าสนใจว่า เด็กรุ่น 2550 ของ อัสสัมชัญธนบุรี ทีมีหลายรายติดธงนักเรียนไทย และ ทีมชาติไทยในระดับเยาวชน จะน่าจับตาสักแค่ไหนในศึกใหญ่หนนี้!
ดาวเด่น
หากดวงตะวันโพล่พ้นขอบฟ้าที่ทิศตะวันออกฉันใด อัสสัมชัญธนุบรี ก็มิเคยขาดแคลนแข้งเก่งประดับทีมชาติไทยฉันนั้น คำนี้กล่าวไม่เกินจริงเลย
จากประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยในยุคหลัง 2009 มีผู้เล่นไม่ต่ำกว่า 20 รายที่ติดทีมชาติไทยและเป็นศิษย์เก่า ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี สะท้อนให้เห็นว่าสถานศึกษาแห่งนี้เป็นหนึ่งในด้านคุณภาพของแหล่งผลิตแข้งดังสู่อุตสาหกรรมฟุตบอลไทย
เช่นเดียวกันกับศึกฟุตบอลกรมพลศึกษา 18 ปี ก 2567 หนนี้ ที่พลพรรคเจ้าสัวน้อย เพียรพยายามสร้างผู้เล่นโดยเฉพาะแข้งในรุ่นปี 2550 ที่จะก้าวมาเป็นกำลังหลักในปีการศึกษานี้ และนี้คือ 3 ดาวเด่นของ อัสสัมชัญธนบุรี ที่เราคัดมาฝาก
นภัทร สกุลจันทร์
นายทวารวัย 18 ปี จากภูเก็ต เจ้าของความสูง 185 เซนติเมตรรายนี้ นอกจากรูปร่างที่ถือว่าเป็นลูกผสม ของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และ ปฏิวัติ คำไหม สองรุ่นพี่จากรั้วเจ้าสัวน้อย นายทวารรายนี้ ยังมีเซนส์ในการอ่านบอลที่ดี และกล้าได้กล้าเสียในการออกมาตัดบอลได้
หนที่แล้ว เจ้าบูม มีโอกาสลงสนามใน 2-3 เกมแรกของรายการนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าอาจจะมีคลีนซีตที่ไม่มากนัก แต่เรื่องของจุดเด่นข้างต้น เป็นสิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นไม่น้อย จากผลงานอันดับ 3 ในรายการนี้เมื่อปีที่แล้ว พ่วงกับเป็นมือ 1 ชุดแชมป์ไทยแลนด์ ยูธ ลีก U16 ให้กับอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ด้วยฝีมือแบบนี้ ในปีสุดท้ายของเขา น่าติดตามว่ามือกาวรายนี้จะมีดีแค่ไหนกัน
ภครพล หมัดอะดัม
นี่คืออีกหนึ่งกองหลังที่ อัสสัมชัญธนบุรี ภูมิใจนำเสนอ ด้วยรูปร่าง, การออกบอล และการป้องกัน เขาคนนี้มีครบทุกอย่างในคนๆ เดียว
ย้อนกลับไปในสถิติช่วงที่เขาเล่นทีม U16 นี่คือนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในไทยแลนด์ ยูธ ลีก และอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะการป้องกันที่ทำได้ดี และความแข็งแกร่งในการเข้าปะทะ
ยิ่งกับการได้ใส่ปลอกแขนกัปตันทีมมาโดยตลอด จึงไม่แปลกใจว่าเขาคือผู้เล่นอีกรายที่น่าจับตามองว่าจะเป็นว่าที่กองหลังไทยในอนาคต
พงศ์เพชร เอี่ยมสะอาด
อีกหนึ่งกองกลางของทีม ที่มีดีกรีติดทีมชาติไทยในรุ่น U17 รายนี้มีดีที่เรื่องความดุดันในการตัดเกมที่ใช้ได้ รวมไปถึงการเชื่อมเกมแดนกลางที่ทำได้ดีที่เดียว และเป็นตัวหลักของรุ่นที่เติบโตมาและสุกงอมพร้อมใช้งานในทัวร์นาเม้นต์นี้พอดี
แน่นอนว่าด้วยศักดิ์ศรีของอัสสัมชัญธนบุรี รายการฟุตบอลกรมพลศึกษา 18 ปี ประเภท ก หนนี้ จึงเป็นรายการที่พลพรรคเจ้าสัวน้อย จะพลาดเสียไม่ได้ แต่ผลลัพธ์จากนี้จะออกเป็นอย่างไร ในสนามแฟนบอลคงต้องไปติดตามกันหลังจากนี้!