'อาซาโด' : รู้จักวัฒนธรรม 'ย่างเนื้อ' เบื้องหลังระดับแชมป์โลกของอาร์เจนตินา

การที่ทีม ๆ หนึ่งจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง นักเตะต้องพร้อมทั้งกายและใจ ไม่หวั่นไหวไปกับอุปสรรคระหว่างทาง ส่วนโค้ชก็ต้องมีแผนการเล่นที่ยืดหยุ่น ปรับใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ที่สำคัญต้องดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของลูกทีมออกมาให้ได้ และยังต้องภาวนาให้เทพีแห่งโชคยืนข้างพวกเขาในโมเมนต์สำคัญของเกม

ตัวอย่างที่ยกมาเป็นเพียงปัจจัยในสนาม แต่การจะขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของเกมฟุตบอล ปัจจัยนอกสนามก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเคมีระหว่างนักเตะในทีม หากพวกเขามีความสมัครสมานสามัคคี ทีมก็จะมุ่งไปหาเป้าหมายอย่างมั่นคง โอกาสประสบความสำเร็จก็มีมากขึ้น

นี่คือการบ้านของผู้จัดการทีมที่ต้องสร้างบรรยากาศแห่งความกลมเกลียวให้เกิดขึ้น ซึ่งแต่ละทีมก็จะมีวิธีการแตกต่างกันไป และวันนี้เราจะโฟกัสไปที่ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ได้นำวัฒนธรรมการกินของชาติเป็นสื่อกลางเชื่อมทุกคนเข้าหากัน

อาร์เจนตินาพกความหวังมากาตาร์เต็มพิกัด ในฐานะเต็ง 2 ของรายการ พวกเขากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ ไม่แพ้ใครมา 36 เกมติดต่อกัน อีกอย่างทีมชุดนี้ยังมีความกระหายที่จะคว้าแชมป์โลก เพื่อเป็นของขวัญให้กับ ลิโอเนล เมสซี ที่เหลือเวลาในทีมชาติไม่มากแล้ว

สภาพทีมของฟ้าขาวจัดว่าพร้อมรบสุด ๆ ขุมกำลังสมบูรณ์ทุกตำแหน่ง แกนหลักจากชุดแชมป์โคปา อเมริกา 2021 ยังอยู่กันครบ แม้ว่าต้องเสียสองแนวรุก ฮัวคิน คอร์เรอา กับ นิโก้ กอนซาเลซ ที่เจ็บไปก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม แต่ทั้งคู่ไม่ใช่ผู้เล่นตัวจริง จึงไม่ได้กระทบทีมมาก

เมื่อเรื่องในสนามหมดห่วง ทีนี้ก็ต้องโฟกัสเรื่องนอกสนาม อาร์เจนตินาทำการบ้านอย่างหนักในทุกรายละเอียด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทีม ไล่ตั้งแต่การเดินทาง สนามฝึกซ้อม และฐานที่มั่นระหว่างทำศึกที่กาตาร์

ในขณะที่ทีมชั้นนำอย่าง บราซิล, อังกฤษ, เยอรมัน และฝรั่งเศส เลือกพักโรงแรมหรู แต่ อาร์เจนตินา กลับเลือกพักในมหาวิทยาลัยกาตาร์ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อต้อนรับทีมฟ้าขาวโดยเฉพาะ ประกอบด้วยห้องพัก 90 ห้อง, ฟิตเนสที่มีอุปกรณ์พร้อมสรรพ, สระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิคและสนามฝึกซ้อมความจุ 10,000 ที่นั่ง

แม้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกจะสู้โรงแรมระดับ 5 ดาวไม่ได้ แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความสะดวกในการเตรียมทีม พวกเขาไม่ต้องฝ่าการจราจรในกาตาร์ออกไปซ้อม แค่ลงมาจากห้องพักก็จะเจอสนามซ้อมที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ เหนือสิ่งอื่นใด ที่นี่มีพื้นที่เอาท์ดอร์ไว้สำหรับจัด ‘ปาร์ตี้เนื้อย่าง’ วัฒนธรรมการกินของชาวอาร์เจนตินา หรือที่เรียกกันว่า ‘Asado’ ซึ่งหาไม่ได้จากโรงแรมหรู

‘อาซาโด (Asado)’ มีความหมายครอบคลุมทั้งเทคนิคการย่างเนื้อและการจัดปาร์ตี้เนื้อย่าง มันคือวัฒนธรรมการกินที่อยู่ในสายเลือดของชาวอาร์เจนตินา ซึ่งหากให้เล่าจริง ๆ ต้องย้อนไปถึงตอนที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจชื่อก้องโลก เดินทางมายังทวีปอเมริกา เมื่อ 500 ปีก่อน

โคลัมบัสเป็นคนนำวัวตัวแรกจากยุโรปเข้ามา และด้วยพื้นที่ของอเมริกาใต้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว การเพาะพันธุ์วัวจึงได้ผลดีมาก ๆ สร้างรายได้เม็ดงามให้กับประเทศ การทำปศุสัตว์จึงเฟื่องฟูและกลายเป็นอาชีพหลักของคนในภูมิภาคนี้ในที่สุด หนึ่งในก็นั้นคืออาร์เจนตินา

และผลพวงจากการทำอาชีพปศุสัตว์ คนอาร์เจนตินาก็ซึมซับวัฒนธรรมการกินเนื้อไปด้วย กระทั่งฝัง

ลึกอยู่ใน DNA ของพวกเขา ทุกครั้งที่ถึงโอกาสเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันปีใหม่ หรือวันคริสต์มาส คนอาร์เจนตินาก็จะมารวมตัวกันเพื่อกินเนื้อย่าง มันกลายเป็นสัญลักษณ์แทนความสุขของคนที่นี่

นี่คือเหตุผลที่ทีมชาติอาร์เจนตินาเลือกพักที่มหาวิทยาลัยกาตาร์ ซึ่งได้มีการสร้างพื้นที่ย่างเนื้อให้พวกเขาจัดปาร์ตี้โดยเฉพาะ นักเตะและสตาฟฟ์จะได้ใช้เวลาร่วมกันในมื้อแห่งความสุข ที่สำคัญพวกเขาจะได้รู้สึกว่าเหมือนอยู่บ้าน ในเวลาที่ต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอันเป็นที่รัก และพุ่งสมาธิไปกับเกมในสนามอย่างเต็มที่

“เราเข้ามาดูในมหาวิทยาลัยแห่งนี้หลายรอบและตัดสินใจเลือกที่นี่ เพราะนอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ที่นี่ยังมีพื้นที่เอาท์ดอร์ให้เราได้จัดปาร์ตี้เนื้อย่าง (Asado) ด้วย” แหล่งข่าวของสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา กล่าวผ่าน Daily Mail

“มันสำคัญมาก ๆ สำหรับนักเตะและคนอาร์เจนตินา มันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเรา เราต้องการให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่บ้านในระหว่างอยู่ที่กาตาร์ และวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำแบบนั้นได้ คือการให้พวกเขาได้ลิ้มรสชาติที่คุ้นเคยจากบ้านเกิด ในขณะที่ต้องโฟกัสไปที่เกมฟุตบอล”

“คุณพูดได้ว่าทีมอื่นเลือกที่พักหรูและมีระดับกว่านี้ แต่ทีมของเราคือทีมที่ดีที่สุดในโลก และสมควรได้กินเนื้อที่ดีที่สุดในโลก เป้าหมายของเราคือการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ไม่ใช่คุณภาพของโรงแรมที่เราเลือกพัก”

เนื้อของอาร์เจนตินานั้นโด่งดังไปทั่วโลก หลายคนยกขึ้นหิ้งให้เป็นเดอะเบสต์แห่งวงการเนื้อ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนอาร์เจนตินาจะติดอกติดใจในรสชาติ ยิ่งถ้าปรุงด้วยวิธี Asado ตามแบบฉบับด้วยแล้ว บอกเลยฟินกับความอร่อยกันถ้วนหน้า และจะเป็นพลังขับเคลื่อนชั้นดีให้ทีมฟ้าขาวไล่ล่าถ้วยแชมป์โลก

ทฤษฎีของอาร์เจนตินาไม่ใช่สิ่งที่มโนขึ้นมาเอง แต่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วในฟุตบอลโลก 1986 ทีมชาติอาร์เจนตินาชุดนั้นนำทัพโดย ดิเอโก้ มาราโดนา ตำนานแข้งฟ้าประทาน ที่สร้างความมหัศจรรย์ครั้งแล้วครั้งเล่าในทัวร์นาเมนต์ จนสุดท้ายพาทีมก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกได้สำเร็จ

แน่นอนว่า มาราโดนา คนเดียวไม่สามารถแบกอาร์เจนตินาไปถึงจุดนั้นได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจของทุกคนในทีม ซึ่งได้มาจากการใช้เวลาร่วมกันในปาร์ตี้เนื้อย่างแสนสุข บรรยากาศในทีมจึงเต็มไปด้วยความชื่นมื่น และส่งผลถึงฟอร์มในสนามไปด้วย

ลิโอเนล สกาโลนี นายใหญ่ทีมชาติอาร์เจนตินา จึงเป็นอีกคนที่สนับสนุนแนวคิดเลือกที่พักที่จัดปาร์ตี้เนื้อย่างได้ และลงทุนขนเนื้อหลายร้อยกิโลกรัมข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากอาร์เจนตินา เพราะเขาต้องการสร้างบรรยากาศแห่งความกลมเกลียวให้เกิดขึ้นในทีม ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาพวกเขาไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลก เหมือนอย่างทีมของ ดิเอโก้ มาราโดนา ในปี 1986

“เนื้อย่าง (Asado) คืออาหารจานโปรดของผม แต่ที่มากกว่านั้น มันยังช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความกลมเกลียวและเคมีระหว่างทุกคนในทีม มันเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของเรา และของอาร์เจนตินาที่ไม่เหมือนใคร” สกาโลนี กล่าว

“ในช่วงเวลานั้น (ปาร์ตี้เนื้อย่าง) เราจะได้พูดคุยกัน หัวเราะร่วมกัน และสื่อถึงกัน เนื้อไม่ใช่สิ่งสำคัญ แม้ว่าเราจะชอบมันก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือการได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม และความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นในกลุ่มนักเตะ”

จะเห็นได้ว่า สำหรับชาวอาร์เจนตินา ‘ปาร์ตี้เนื้อย่าง’ ไม่ได้เป็นเพียงอาหารมื้อหนึ่ง แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีรวยล้นฟ้า หรือ เจ้าของร้านขายของชำธรรมดา ทุกคนล้วนปรารถนาที่จะพาตัวเองไปอยู่ใน ‘ปาร์ตี้เนื้อย่าง’ เพื่อสัมผัสมวลแห่งความสุขที่พุ่งตลบอบอวล ณ ขณะนั้น

แหล่งอ้างอิง

https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-11443847/Argentina-Uruguay-ship-staggering-900-KILOS-meat-World-Cup-bases.html?fbclid=IwAR2J31IZ19YxWJ4r-AEChBr2dkpLEjxjmO3eanvbw0vCWARGNv8bXVA8YG4

https://jornada.nmsu.edu/bulletin/history-criollo-america

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด