พูดน้อยกว่า AI ? : ปรัชญาความคิดสะท้อนวิถีชีวิต Introvert แบบเอสโตเนีย
เอสโตเนีย ประเทศเล็กๆ ทางตอนเหนือของยุโรปที่เพิ่งเป็นเอกราชออกจากสหภาพโซเวียตได้เพียง 30 ปี แต่กลับเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มี GDP ต่อหัวสูงกว่าประเทศไทย 3 เท่า และมีรายได้ครัวเรือนสูงกว่าประเทศไทย 4 เท่า โดยมีขนาดเศรษฐกิจและความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูง โดยมีสตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง เช่น Skype, Bolt และ Wise รวมถึงบริษัทหุ่นยนต์อย่าง Starship หรือ Milrem Robotics ที่ผลิตหุ่นยนต์ทั้งในครัวเรือน ขนส่งสินค้า ไปจนถึงใช้ในสงคราม
เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บรุนแรงในฤดูหนาวที่ยาวนานนับครึ่งปี ประกอบกับการต่อสู้เพื่อเอกราชที่ยากลำบาก ชาวเอสโตเนียนจึงมีวิถีชีวิตและปรัชญาที่เน้นความเงียบสงบ และประสิทธิภาพการทำงาน มากกว่าการพูดคุยสนทนาโอภาปราศรัยกัน ในกลุ่มประเทศบอลติก 3 ประเทศ ลัทเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย มีคำค่อนขอดแกมแซะแบบ Stereotype (เหมารวม) ว่า ชาวเอสโตเนียนนั้นคือหุ่นยนต์ที่ผลิตหุ่นยนต์ได้ มาจากความไม่ช่างพูดช่างคุย หลักสูตรการเรียนของเอสโตเนียนั้นให้เขียนโปรแกรมตั้งแต่อยู่อนุบาล รวมถึงภาษาเอสโตเนียนที่ไม่มีเพศ ไม่ผันรูปอนาคต ทำให้ตรรกะความคิดของชาวเอสโตเนียนนั้นเข้าใจได้ง่ายและตรงไปตรงมา บางครั้งถึงกับถูกล้อเลียนว่า เอไอปัญญาประดิษฐ์อย่าง Bard หรือ ChatGPT ยังพูดมากกว่าชาวเอสโตเนียนเสียอีก!
การประชุมสภาและประชุมคณะรัฐมนตรีของเอสโตเนีย สามารถทำออนไลน์ได้ และใช้เวลาประชุมเฉลี่ยเพียง 30 นาทีต่อครั้งเท่านั้น โดยส.ส. หรือ รมต. ต้องทำการบ้านและเขียนอภิปรายในหัวข้อที่ตนเองต้องการเสนอมาก่อน แล้วให้กดลงมติในระบบคอมพิวเตอร์ เก็บข้อมูลเผยแพร่ทันที ระบบราชการทุกอย่างยกเว้นการหย่า สามารถทำออนไลน์ได้โดยไม่ต้องไปพบหน้าข้าราชการ และเสร็จสิ้นภายใน 15 นาที การทำระบบราชการให้เป็นดิจิตัลทั้งหมดนี้ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระบบบริหารรัฐลงถึง 20% นำมาจัดบริการขนส่งมวลชนและไวไฟฟรีให้ประชาชน
ด้วยความรักประสิทธิภาพและความสงบนี้ ทำให้เอสโตเนียถูกกล่าวชื่อลือชาว่าเป็นประเทศที่ Introvert ที่สุดประเทศหนึ่งในโลก นิตยสาร Estonian World ได้ให้แนวทางการปฏิบัติตนอย่างสุภาพในสังคมเอสโตเนียว่า
- อยู่ให้เงียบที่สุด
- อย่าทำเสียงดังไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
- หลบตาคนอื่นเสมอ
- ไม่ต้องถามว่าสบายดีไหม เป็นไงบ้าง ถ้าไม่ได้อยากได้คำตอบจริงๆ เพราะไม่ใช่คำทักทายของคนที่นี่
- มีนัดแล้วให้ตรงเวลา มาถึงไม่ต้องเคาะประตู เขาจะเปิดเองตามเวลา
- เว้นระยะห่างกันเยอะหน่อย
- ไม่จำเป็นไม่ต้องโทรหา อีเมลมาจะตอบตามกำหนด
และนี่คือเรื่องราวของชาว เอสโตเนีย ก่อนที่ทีมฟุตบอลของพวกเขาจะต้องเจอกับทีมชาติไทยในค่ำคืนนี้
ผู้เขียน : ธีรภัทร เจริญสุข