คนเวียดนามยังอาย : เหตุใดหญ้าที่สนาม "หมีดิ่งห์" จึงมีคุณภาพแย่ ?
ทีมชาติไทยผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์ศึกลูกหนังชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ อิเล็คทริค คัพ 2022 หลังเปิดสนามกีฬาธรรมศาสตร์เอาคืน ทีมชาติมาเลเซีย แบบทบต้นทบดอก 3-0 รวมผลสองชนะ 3-1 และคู่แข่งที่ยืนรออยู่ในรอบชิงก็เป็นคู่ปรับเก่าอย่างเวียดนาม
ทีมช้างศึกจะบุกไปเยือนพลพรรคดาวทองก่อนในวันศุกร์ที่ 13 มกราคมนี้ นอกจากสไตล์การเล่นดุดันแบบถึงลูกถึงคนที่ต้องระวัง และแรงกดดันมหาศาลจากแฟนบอลเจ้าถิ่น สภาพสนาม หมีดิ่งห์ คืออีกหนึ่งอุปสรรคใหญ่ที่ลูกทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง ต้องฝ่าฟันไปให้ได้
สภาพสนามหมีดิ่งห์ถูกวิจารณ์มาตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ เพราะคุณภาพหญ้าจัดว่าแย่มาก ทั้งแห้งกร้าน สีซีด หลุดเป็นหย่อม ๆ ราวกับว่าไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าภาพแม้แต่น้อย ทำเอาทีมชาติอินโดนีเซีย คู่แข่งในรอบรองชนะเลิศของเวียดนาม ถึงกับส่ายหน้าและโพสต์ภาพลงโซเชียลมีเดียให้ทุกคนเห็นเลยทีเดียว
ไม่ใช่เพียงทีมคู่แข่งที่เอือมระอากับสภาพหญ้าที่สนามหมีดิ่งห์ เพราะ บุย ฮวง เวียต อันห์ กองหลังทีมชาติเวียดนามชุดนี้ ยังออกมาบ่นสนามของตัวเองเลยว่า “ผมคิดว่าพื้นหญ้าที่สนามหมีดิ่งห์ไม่ดีเอาเสียเลย พื้นสนามมันลึกกว่าสนามซ้อมของสมาคมฟุตบอลเวียดนามเสียอีก”
ขนาดแฟนบอลเวียดนามที่รักทีมแบบสุดลิ่มทิ่มประตู และจะออกปกป้องทีมเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ยังพร้อมใจกันรุมสับสมาคมฟุตบอลเวียดนามแบบไม่มีชิ้นดี เพราะรู้สึกอับอายที่ทีมชาติต้องมาเล่นในสนามที่แย่ ๆ แบบนี้
“ดูสนามกีฬาแห่งชาติของเราสิ มันน่าอับอายสิ้นดี ถ้าคุณไม่บอก หลายคนคงคิดว่าเป็นสนามกีฬาระดับตำบล” แฟนบอลเวียดนามรายหนึ่ง แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อในประเทศอย่าง Dong Phuong
ส่วนแฟนบอลอีกรายมองว่า มันส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ การแข่งขันรายการนี้ควรเป็นสะพานดึงคนในอาเซียนเข้ามาเที่ยวเวียดนาม แต่กลับกลายเป็นว่าไปสร้างความไม่ประทับใจให้กับพวกเขาแทน
“เวียดนามเสียคะแนนในเรื่องความงดงามให้กับเพื่อนในต่างแดน ตอนนี้เราพูดถึงวิธียกระดับการท่องเที่ยว และทัวร์นาเมนต์กีฬาอย่างฟุตบอล AFF เป็นหนึ่งในสะพานเชื่อมกับเพื่อน ๆ ในอาเซียนและทั่วโลก เวียดนามจะได้เป็นจุดหมายปลางยทางของโลกเสียที”
นี่คือฟีดแบ็คของนักเตะและแฟนบอลต่อสภาพสนามหมีห์ดิ่ง ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่ามันไม่ควรถูกเลือกให้จัดเกมระดับนานาชาติ ด้วยสภาพผิวหญ้าที่ไม่เหมาะกับการเล่นฟุตบอล แต่สมาคมฟุตบอลเวียดนามกลับมองอีกอย่าง พวกเขาเชื่อว่าสนามหมีห์ดิ่งดีพอสำหรับการจัดเกม AFF
ดัง ฮา เวียต ผู้ว่าการกีฬาของเวียดนาม ยืนยันว่า สนามหมีห์ดิ่งได้รับการดูแลและทำนุบำรุงอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ และที่สำคัญผ่านเกณฑ์มาตรฐานของสหพันธ์ลูกหนังอาเซียนแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องผิดที่พวกเขาเลือกสนามนี้
“สนามหมีห์ดิ่งได้รับการดูแลและทำนุบำรุงอยู่เสมอ และสหพันธ์ลูกหนังอาเซียนก็ตรวจสอบแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าสนามนี้ดีพอสำหรับจัดเกมแข่งขัน” ดัง ฮา เวียต กล่าว
อย่างไรก็ดี ดัง ฮา เวียต ยอมรับว่า ผิวหญ้าที่สนามหมีห์ดิ่งไม่ได้เขียวขจีเหมือนกับในสนามมาตรฐานอื่น ๆ เนื่องจากเวียดนามอยู่ในฤดูหนาวที่มีแสงแดดน้อย เป็นเหตุให้หญ้าในสนามขาดแสงแดดในการสังเคราะห์แสง
“ตลอดเดือนที่ผ่านมา แสงแดดในฮานอยไม่เพียงพอต่อหญ้าที่จะใช้สังเคราะห์แสง ดังนั้นหญ้าในสนามจึงไม่ได้เป็นสีเขียวอย่างที่เราต้องการ” ดัง ฮา เวียต กล่าวต่อ
ไม่รู้ว่าสิ่งที่ ดัง ฮา เวียต พูดมาจะส่งผลต่อสภาพหญ้าในสนามหมีห์ดิ่งจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ นับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา อุณหภูมิในกรุงฮานอยเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ลดเหลือเพียง 18-23 องศาเซลเซียสเท่านั้น
ถ้าเป็นทีมในยุโรปที่มีความพร้อมทั้งในด้านเทคโนโลยีและทุนทรัพย์ พวกเขาจะใช้ทั้งฮีตเตอร์ให้ความร้อน, เครื่องกำจัดหมอก และติดหลังคากันหิมะ เอาไว้ดูแลพื้นสนามแข่งโดยเฉพาะ ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร พื้นสนามก็จะอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานเสมอ
ผิดกับเวียดนามที่ยังขาดศักยภาพในด้านนั้น สภาพอากาศจึงเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม อย่างไรก็ดี แม้ว่าสีหญ้าในสนามจะดูไม่สมบูรณ์ แต่ ดัง ฮา เวียต ยืนยันว่า พื้นสนามหมีห์ดิ่งไม่เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ เพราะได้รับการรดน้ำจนนิ่ม ซึ่งต่างจากการลงเล่นในสนามพื้นแข็ง
“ผมไม่คิดว่าสนามเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ปกติแล้วนักเตะจะเจ็บถ้าพื้นสนามแข็ง แต่เรารดน้ำบนพื้นสนามมากขึ้นและยังใช้ลูกกลิ้งเกลี่ยหญ้าให้มีความแน่นขึ้นด้วย” ดัง ฮา เวียต ทิ้งท้าย
แม้สนามมีห์ดินจะถูกคนส่วนใหญ่มองว่ามีคุณภาพแย่ แต่ทีมชาติเวียดนามกลับทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อได้ลงเล่นในสังเวียนแห่งนี้ พวกเขาลงเล่นฟุตบอล AFF 2022 ที่นี่ไปแล้ว 3 เกม ปรากฎว่า เก็บชัยชนะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิงคู่แข่งไป 8 ประตู และไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว
หมายความว่า สภาพสนามหมีห์ดิ่งไม่มีผลต่อการเล่นของทีมชาติเวียดนามเลย มีการวิเคราะห์กันว่า ฟุตบอลที่เน้นการจ่ายบอลสั้นและใช้ความเร็วจะมีปัญหาถ้าเล่นในพื้นสนามแบบนี้ แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับทีมที่เล่นบอลช้าและใช้บอลไดเร็คต์เป็นหลักแบบเวียดนาม
นี่จึงถือเป็นจุดสำคัญที่ทีมชาติไทยต้องระมัดระวังและแก้ลำให้ได้ ไม่อย่างนั้นเกมนัดชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ อิเล็คทริค คัพ 2022 อาจจะจบลงตั้งแต่ยกแรกที่สนามหมีดิ่งห์ในกรุงฮานอยก็เป็นได้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง