‘คริสติย็อง โกมิส’ แนวรับพันธุ์แกร่งแห่ง ‘บีจี’ และโลกโซเชียล

‘คริสติย็อง โกมิส’ แนวรับพันธุ์แกร่งแห่ง ‘บีจี’ และโลกโซเชียล
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

ผลงานอันยอดเยี่ยมของขุนพลนักเตะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านถล่มสโมสรดีกรีแชมป์ บุนเดสลีก้า เยอรมัน อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ขาดลอย 4-0 จนกลายเป็นปรากฎการณ์ที่สื่อต่างประเทศทั่วโลก นำไปเล่นเป็นประเด็นกันอยู่จนถึงตอนนี้ แถมให้แสงสป็อตไลท์จับจ้องมาที่ กระต่ายแก้ว ที่เริ่มเฉิดฉายสู่สายตาชาวโลกไปทีละน้อย

PHOTO : BG Pathum United

สตาร์แนวรุกอย่าง เมลวิน ลอเรนเซ่น, ธีรศิลป์ แดงดา และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม หลังบวกสกอร์ให้กับต้นสังกัดได้ทุกคน แต่หนึ่งประเด็นที่คนกลับมองข้ามไป คือ การที่ทาง บีจี เก็บคลีนชีทในการเผชิญหน้ากับ ดอร์ทมุนด์ ได้ในเกมนี้ ทั้งที่ส่งตัวหลักหลายคนอย่าง เซบาสเตียง อัลเลร์, ยูเลี่ยน บรันด์ท, คาริม อเดเยมี่ และ ยูซูฟ่า มูโกโก้ ลงสนาม

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่น เสือเหลือง อาคันตุกะจาก เยอรมัน ครองเกมแดนกลางไม่ได้มากนัก คือ ‘คริสติย็อง โกมิส’ ดาวเตะชาวฝรั่งเศสวัย 25 ปี ที่ตำแหน่งถนัดปกติจะเป็นเซนเตอร์แบ็ค แต่เกมนี้ได้รับมอบหมายให้รับบทบาทกองกลางตัวรับ คอยสกัดกั้นบอลที่อันตรายของ ดอร์ทมุนด์ ก่อนจะเข้าพื้นที่สุดท้าย ซึ่งผลงานของเขาแค่เพียงครึ่งเดียวก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพฝีเท้าที่ไม่ธรรมดา

PHOTO : BG Pathum United

อย่างไรก็ตาม โกมิส เป็นนักเตะที่มีความกระหายในการพิสูจน์ตัวเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเคยเจอประสบการณ์ที่เลวร้ายในชีวิตการค้าแข้งมาไม่น้อย ทั้งประเด็นการเหยียดสีผิว การปฏิบัติที่ตัวที่ไม่เป็นธรรมของโค้ชทีมเก่า แล้วเขาเลือกจะตอบโต้มันผ่านสื่อโซเชียลมีเดียส่วนตัว

เรื่องราวเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง? เหตุการณ์ไหนที่ทำให้เขาต้องออกมาพูดผ่านสื่อ? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

โพสต์แน่ถ้าแกหยาม

โกมิส เป็นนักเตะเยาวชนดาวรุ่งรุ่นเดียวกับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้าป้ายแดงของ เรอัล มาดริด ที่สามารถขยับมาเล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับได้ มีทักษะความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่ธรรมดา เบสิกฟุตบอลแน่น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีร่างกายที่ดี มีส่วนสูงประมาณ 2 เมตร แต่ไม่ได้เชื่อช้าตามรูปร่างเลย ปัจจุบันอายุ 25 ปี กำลังอยู่ในช่วงที่พัฒนาและตามหาความสำเร็จ

PHOTO : lestitisdupsg

เขาเริ่มต้นค้าแข้งในฝรั่งเศสกับหลายสโมสร อาทิ เวอร์นุยเล่ต์ (Vernouillet), เวอร์นูอิล เซอร์-เซียน (Vernouil-Sur-Seine), เลส์ มูโรซ์ (Les Mureaux), ปาซี มานิลเล่ส์ (Pacy Manilles), บาสเตีย (Bastia) และเข้าอคาเดมี่ชุดเยาวชนของสโมสรดังอย่าง ปารีส แซงต์แชร์กแมง (PSG B) ตามลำดับ แต่ไม่สามารถทะลุขึ้นไปสู่ชุดใหญ่ได้ ซึ่งความฝันของเขาตั้งแต่วัยเด็ก คือ การค้าแข้งกับสโมสรดังอย่าง ยูเวนตุส

โอกาสที่ใกล้เคียงสุดของ โกมิส สำหรับการเล่นในลีกอิตาลี คือ การได้ไปค้าแข้งกับ คอร์เดนอนส์ (Cordenons) ในซีรี่ย์ ดี เป็นเวลา 6 เดือน แต่สุดท้ายแล้วปลายทางของเขากลับต้องไปลงเอยกับ โลโคโมทีฟ พลอฟดิฟ ในลีกบัลแกเรีย ในปี 2020

PHOTO : Footmercato

โกมิส ได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวจริง หลังจากผู้เล่นตัวหลักเดิมในตำแหน่งเซนเตอร์เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน แล้วก็ไม่เคยหลุดออกจากทีมเลย ได้รับความไว้วางใจเป็นกองหลังตัวหลักลงสนามไปมากถึง 59 นัดทุกรายการตลอดสองซีซั่นให้กับ พลอฟดิฟ ทำไป 2 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ มีโอกาสได้ลงเล่นบนเวที ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอรเรนซฺ ลีก 4 เกมในฐานะตัวจริงทั้งหมด แถมยังพาทีมจบในตำแหน่งรองแชมป์ลีกอีกด้วย แต่เมื่อคุยสัญญาฉบับใหม่กันไม่ลงตัวเลยจำเป็นต้องหาทีมใหม่ตามคำแนะนำของเอเย่นต์

ระหว่างที่ค้าแข้งอยู่กับ พลอฟดิฟ เป็นครั้งแรกในอาชีพของ โกมิส ที่ถูกผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามพูด ‘เหยียดผิว’ ในเกมที่ พลอฟดิฟ แข่งขันกับ เอฟเค อาร์ดา คาด์ยาลี่ (FK Arda Kardjali) เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตอนทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง พลอฟดิฟ กำลังจะสร้างปาฏิหาริย์ คัมแบ็คจากการตามหลัง 1-4 ตีเสมอมาเป็น 4-4 แล้วได้เตะมุมเพื่อลุ้นทำประตูชัย โมเมนตัม กำลังเหวี่ยงมาทางฝั่ง พลอฟดิฟ เต็มที่ จนผู้เล่นทั้งทีมคิดว่าสามารถพลิกแซงชนะได้ ผู้เล่นของทั้งสองฝั่งต่างชุลมุนกันอยู่ในกรอบเขตโทษ

ต่อเนื่องจากจังหวะดังกล่าวเพื่อนร่วมทีม พลอฟดิฟ ของ โกมิส มีจังหวะปะทะกับกองหลังฝั่งตรงข้าม เพ็ตโก้ กาเยฟ (Petko Ganev) พอทาง โกมิส เห็นเหตุการณ์จึงตรงเข้าไปห้ามทัพ ด้วยการสอดมือไปแยกสองฝ่ายออกจากกัน ปรากฎว่าทาง กาเยฟ ได้พูดเชิงเหยียดผิวใส่ โกมิส ว่า

“ออกไปซะ ไอ้ลิงสกปรก’ (Leave! Dirty Monkey)”

พอได้ยินเข้า โกมิส ก็เริ่มฉุนขาดแล้วบอกให้ กาเยฟ พูดซ้ำอีกที ซึ่งเขาก็ได้รับคำสบถนั้นเป็นรอบที่สอง จากนั้นผู้ตัดสินก็เข้ามาห้ามทัพก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย โกมิส รายงานเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับผู้ตัดสินฟัง แต่กลับถูกเพิกเฉย 

โกมิส โกรธแต่พยายามข่มอารมณ์แล้วเล่นจนจบเกม พอสิ้นเสียงนกหวีดผู้เล่นฝั่งตรงข้ามพยายามเข้ามาขอโทษแต่เขาไม่รับฟัง พร้อมกับไปโพสต์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวบนสื่อโซเชี่ยล มีเดีย ส่วนตัวทาง X หรือ ทวิตเตอร์ เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเอง ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงเหตุการณ์นี้ไว้ว่า

PHOTO : Rangado

“ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้งผมจะบอกให้เพื่อนร่วมทีมประท้วงด้วยการ วอล์ค เอาท์ ออกจากสนาม”

หลังจากนั้น โกมิส ก็ย้ายไปเล่นในลีกฮังการีกับ ฮอนเวด ลงเล่นทุกรายการ 29 นัด เป็นตัวหลัก แต่ไม่สามารถพาทีมรอดพ้นการตกชั้นได้ ต่อด้วย เมโซโคเวสด์ ซึ่งกับสโมสรที่สองในฮังการี 

เล่นดีอย่าดร็อป

เริ่มแรก โกมิส ไปได้สวยกับทีมลงเล่นในลีกเป็นตัวหลักในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คถึง 17 นัด แต่อยู่ๆ เฮดโค้ช มิลาน มิลาโนวิชส์ (Milan Milanovics) ก็ถอดชื่อเขาออกจากทีมดื้อๆ ก่อนเกมกับ ปุสกัส อคาเดเมีย พร้อมกับแถลงว่า โกมิส นั้นไม่พร้อมลงสนามเพราะมีอาการบาดเจ็บ ซึ่งผลในเกมกับ ปุสกัส อคาเดเมีย นั้นจบลงด้วยการพ่ายแพ้ยับเยิน 0-4

หลังจาก โกมิส เห็นและรับรู้เกี่ยวกับข้อความดังกล่าวจากทาง มิลาโนวิชส์ ก็ได้มีการออกมาโพสต์ผ่าน โซเชี่ยล มีเดีย ของตัวเอง (IG Story) ด้วยข้อความว่า 

“ผมไม่ได้มีอาการบาดเจ็บ ร่างกายของผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย กรุณาพูดความจริงเถอะ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาพูดโกหกเรื่องของผมหรอก”
PHOTO : Nemzeti

ต่อมาทางต้นสังกัดของ โกมิส ได้ออกมาแถลงถึงเหตุการณ์ที่ โกมิส โพสต์ ไอจี สตอรี่เอาไว้ว่า การตัดสินใจเลือกตัวผู้เล่นเป็นสิทธิ์ขาดของเฮดโค้ช ที่เก็บข้อมูลและพิจารณาแล้วว่า โกมิส ไม่ฟิตพอจะลงเล่นให้กับทีม แล้วจากการแสดงออกของเขานั้นราวกับว่าไม่ใช่นักเตะอาชีพที่เคารพสโมสรและเพื่อนร่วมทีม ซึ่งในเกมกับ เดเบรเซ่น ตัวนักเตะควรมาชมที่สนามเพื่อให้กำลังใจและให้ความสนใจกับทีมแต่เขาไม่ได้มา ดังนั้นกรณีนี้สโมสรขอปิดการพิจารณาไว้เพียงเท่านี้

หลังจากนั้น โกมิส ไม่ได้ออกมาโพสต์ตอบโต้ใดๆ เพิ่มเติม แล้วก็มีการเข้ามาชมเกมที่สนามในเกมที่พบกับ เคชส์เคเมต กับเพื่อนร่วมทีมอย่าง แบรนดอน โดมิงเกส (Brandon Domingues) ที่ไม่มีชื่อลงเล่นเช่นกัน พร้อมกับใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันช่วงเย็นในเมืองอีกด้วย สุดท้าย โกมิส ไม่ได้ลงสนามให้กับ เมโซโคเวสด์ อีกเลยนับตั้งแต่มีปัญหากับต้นสังกัด แล้วสุดท้ายทีมก็ไม่รอดพ้นจากการตกชั้นในบั้นปลาย

PHOTO : BG Pathum United

ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ บีจี อย่างเป็นทางการ สื่อในต่างประเทศคาดกันว่า โกมิส ได้รับความสนใจจากหลายทีมใน เจ ลีก แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีข้อเสนอที่ลงตัว

เปิดตัวอย่างเด่น

แม้ว่าจะลงเล่นไปเพียงแค่ครึ่งเดียวในเกมที่ปะทะกับ ดอร์ทมุนด์ แต่ผลงานของ โกมิส ในฐานะกองกลางตัวรับ นับว่าโดดเด่นพอสมควร พาทีมเก็บคลีนชีทได้ในครึ่งแรก ตัดเกมกลางสนามของอาคันตุกะจากเยอรมันได้ชะงัด

PHOTO : BG Pathum United

จากสถิติอ้างอิงจากทาง Fotmob ให้เรทติ้งของ โกมิส อยู่ที่ 7.4/10 จ่ายบอลเข้าเป้า 11 ครั้งจากโอกาส 14 ครั้ง เลี้ยงบอลผ่าน 2 จาก 4 ครั้ง ออกบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 3 ครั้ง ชนะการดวลกลางอากาศ 5 ครั้ง  และตัดบอลสำเร็จถึง 6 ครั้ง

อย่าลืมว่าผลงานระดับนี้เป็นการเจอกับคู่แข่งที่เป็นนักเตะระดับ บุนเดสลีก้า เยอรมัน ซึ่งจัดว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลกระดับท็อป 5 ดังนั้นจึงอนุมานได้ว่า โกมิส เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม แล้วถ้ายังคงรักษาฟอร์มนี้ต่อยอดไปถึงในลีกได้ โอกาสที่จะยึดตัวจริงของ บีจี นั้นเป็นไปได้สูงแน่นอน

PHOTO : BG Pathum United

ถึงจุดนี้ มันจึงเป็นบททดสอบสำคัญของโกมิสว่า เขาจะยังรักษาฟอร์มเช่นนี้ได้ดีแค่ไหน? และจะปรับตัวเข้ากับบอลไทยได้หรือไม่? ซึ่งเราคงจะได้รู้คำตอบกันเมื่อไทยลีกเปิดฤดูกาลอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : 

https://www.transfermarkt.com/christian-gomis/profil/spieler/832211

https://honvedfc.hu/hirek/belso-vedo-erkezik/2022-06-13

https://actu.fr/ile-de-france/vernouillet_78643/yvelines-football-l-ancien-joueur-de-vernouillet-se-revele-en-bulgarie-et-reve-d-un-club-pro-en-france_42600256.html

https://www.nemzetisport.hu/labdarugo-nb-i/2024/04/ilyet-sem-lattunk-meg-az-interneten-uzenget-egymasnak-a-mezokovesd-es-kozeppalyasa

https://www.rfi.fr/fr/afrique-foot/20220511-christian-gomis-d%C3%A9fenseur-s%C3%A9n%C3%A9galais-victime-d-insultes-racistes-en-bulgarie

https://topics.smt.docomo.ne.jp/article/qoly/sports/qoly-o0o7nwyi-gib-1?redirect=1

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ