ความต่าง 10 กิโลเมตร : ถอดรหัสจาก ซาอุดิ อาระเบีย บอลรองยุคใหม่ “ห้ามหยุดวิ่ง” | คิดไซด์โค้ง

ฟุตบอลโลกเริ่มฟาดเเข้งกันมาจนเข้าวันที่ 3 ของการเเข่งขัน สองวันเเรกมีทีมชาติจากอาหรับลงเเข่งขันไปสองทีมทั้งกาตาร์เเละอิหร่าน ซึ่งทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่

วันเเรกกาตาร์เจ้าภาพเเพ้เอกวาดอร์ไป 0-2 เเบบไม่มีท่าทีว่าจะสู้ได้เลย ไม่มีการต่อสู้ในเเมตช์ที่สร้างความประทับใจให้เเฟนบอลได้เลย ไม่มีความกระหายในชัยชนะ นักเตะดูเหมือนไม่อยากเล่น ไม่อยากวิ่ง เเฟนบอลต่างพากันส่ายหัวเเล้วบอกว่าไม่ไหวเเละไม่น่ารอดในรอบเเรก

วันที่สอง อิหร่าน เเพ้ อังกฤษไป 2-6 เเบบที่ว่าอังกฤษเหมือนจะยั้งให้ ถ้าไม่ยั้งอาจจะไหลได้ถึง 10 ลูก สื่อต่างๆใช้คำว่าเเพ้อย่างน่าอับอาย ถึงเเม้จะยิงได้สองลูกเเต่รูปเกมสู้ไม่ได้เลย เป็นรองอังกฤษในทุกกระบวนท่า เเละดูเหมือนจะมีปัญหาในกับรับมือกับลูกโด่งเเละลูกครอสของอังกฤษ ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยความสูงของผู้เล่นในทีมอิหร่านนั้นมากกว่าอังกฤษด้วยซ้ำ

เเฟนบอลต่างพากันส่ายหัวเบะปากให้ทั้งสองทีมเเละบอกว่าทีมจากเอเชียยังห่างชั้นกับพวกทีมชั้นนำของโลกอีกหลายเท่า เหล่ากูรูของสำนักข่าวต่างๆก็เห็นด้วย ไม่มีนักวิจารณ์คนไหนคาดการณ์ว่าทีมจากเอเชียจะผ่านเข้าสู้รอบน็อคเอาท์ได้ พวกเขายังไม่เชื่อมือทีมจากเอเชีย

เเต่วันที่สามของการเเข่งขัน ซาอุดิ อาระเบีย อีกหนึ่งชาติจากอาหรับลงสนามเจอกับอาร์เจนติน่าทีมของสุดยอดนักฟุตบอลอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ใครๆก็คิดว่า เละเทะเเน่ๆ โดนสอนบอลเเน่นอน

เเต่กลับกลายเป็นว่าไม่เลย ซาอุดิอาระเบีย เตรียมความพร้อมมาดี เล่นบอลเเบบมีวินัย ตามเเท็คติกที่ซ้อมกันมาอย่างดี เเละสู้กับอาร์เจนติน่าได้เเบบน่าประทับใจเเละจบเกมด้วยการเอาชนะอาร์เจนติน่าไป 2-1 เเบบช็อคโลก สิ่งที่ทำให้ซาอุดิอาระเบียเเตกต่างกับกาตาร์เเละอิหร่านคือ วิธีการตั้งรับเเละการเพรสซิ่ง

ด้วยความที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นรอง กาตาร์เเละอิหร่านเลือกที่จะใช้เเท็คติกคล้ายๆกัน ตั้งโซน ยืนรับกันในเเนวต่ำ ปล่อยให้คู่ต่อสู้ครองบอลเเละทำเกมเข้าใส่เเละรอฉกฉวยโอกาสสวนกลับเร็วจากความผิดพลาดของฝ่ายตรงข้าม เเละที่สำคัญคือไม่ค่อยเพรสซิ่งในเเดนบน พวกเขาเเค่ยืนโซนกันเฉยๆ พวกเขาปล่อยให้กองหลังหรือกองกลางฝ่ายตรงข้ามครองบอลเเละต่อบอลกันได้อย่างอิสระมากเกินไป

ซึ่งเป็นความผิดพลาดมากๆ ฟุตบอลสมัยใหม่สู้กันด้วยระบบเพรสซิ่ง การที่คุณให้เวลาฝ่ายตรงข้ามกับบอลมากเกินไป โอกาสที่จะเสียประตูก็มีมากขึ้น

เเต่ต่างกันกับซาอุดิอาระเบีย พวกเขาไม่ได้เปิดเกมบุกใส่อาร์เจนติน่าก็จริง เเต่ซาอุดิอาระเบียให้ผู้เล่นในเเนวรุกเริ่มเพรสซิ่งเมื่อกองหลังของอาร์เจนติน่าได้บอล

ผู้เล่นอาร์เจนติน่าได้บอลปุ๊บ หันหน้ามาเเทบจะเห็นนักเตะของซาอุดิอาระเบียอยู่ตรงหน้าเเล้ว ไม่มีเวลาให้คิด ให้ได้เล่นมากนัก เเละหากบอลทะลุมาจนถึงเเนวรับ ผู้เล่นซาอุฯ ทุกคนพร้อมที่จะทุ่มเทวิ่งลืมตาย ช่วยกันซ้อน ช่วนกันสกัด ราวกับว่านัดนี้คือนัดสุดท้ายในชีวิตของพวกเขา ถวายชีวิตสกัดบอลกันเต็มเหนี่ยว

ถ้าคุณเป็นทีมที่ต้องเล่นเกมรับสิ่งสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึงเเละทำให้ได้ดีกว่าฝ่ายตรงข้ามก็คือ การเคลื่อนที่ตอนไม่มีบอล วันนี้ผู้เล่นซาอุดิอาระเบียทุกคนเคลื่อนที่ตอนไม่มีบอลช่วยกันเล่นเกมรับได้อย่างมีวินัย

พวกเขาไม่ปล่อยให้ผู้เล่นของอาร์เจนติน่ามีอิสระเเละมีเวลาเล่นกับลูกบอลได้สบายๆเลย ไม่ว่าจะตำเเหน่งไหนของสนาม เเละที่สำคัญพวกเขาไม่ได้ยืนรับกันต่ำ ดันเเนวกองหลังขึ้นมาสูงเพื่อเช็คล้ำหน้าเเละช่วยผู้เล่นในเเนวรุกในการเพรสซิ่งเเละเก็บบอลสอง เเละได้ผลอย่างมากเพราะครึ่งเเรกอาร์เจนติน่ายิงเข้าไปอีกสองลูกเเต่ถูกจับล้ำหน้า เรียกได้ว่า เฮิร์ฟ เรนาร์ด เฮดโค้ชชาวฝรั่งเศสวางหมากมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ

ฟุตบอลสมัยนี้ เป็นยุคที่ฟุตบอลต่อสู้กันด้วยระบบการเพรสซิ่ง ทุกทีมเเทบจะเอาระบบการเพรสซิ่งมาใช้กันหมด อยู่ที่ว่าจะเพรสซิ่งกันมากน้อยเเค่ไหน เเต่ถ้าคุณไม่เพรสซิ่งเลยเเละปล่อยให้เขาเล่นสบายๆ นักเตะฝ่ายตรงข้ามจะมีอิสระในการเล่นเเละค่อยๆมั่นใจในการเล่นมากขึ้น ทำให้โอกาสจะเสียประตูก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย

ในวันนี้ซาอุดิอาระเบียเเสดงให้เราเห็นเเล้วว่ามันไม่ใช่ความฟลุคหรืออะไรทั้งนั้น มันคือการซ้อมเเละการเตรียมความพร้อมมาอย่างดี เพราะฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นเป็นทีม ถ้าคุณร่วมเเรงร่วมใจกันเล่นเป็นทีม ช่วยกันวิ่งไล่บอล เเละมีระเบียบวินัยในการเล่นตลอด 90 นาที คุณจะสามารถได้ผลการเเข่งขันที่ต้องการเเละไม่ว่าคู่เเข่งจะเป็นท็อปทีมเเละห่างชั้นกันเเค่ไหน คุณก็สามารถพลิกล็อกเอาชนะได้ทั้งนั้น มันอยู่ที่ใจ

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด