กวง ไฮ มาไทยเหรอ ? เพราะอะไรไทยลีกไม่ค่อยมีนักเตะเวียดนาม
เอเย่นต์ของ เหงียน กวง ไฮ ซื้อเรื่องเรียบร้อยหลังมีเขาคอมเม้นต์ว่า "นักเตะกำลังรอข้อเสนอจากสโมสรไทยลีก" นั่นทำให้หลายคนเริ่มคิดไปไกลว่าทีมไหนที่กำลังสนใจในตัวเขา ?
ซึ่งครั้งนี้อาจจะไม่ใช่แค่ข่าวลือเท่านั้น เพราะหลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับกวง ไฮ ในเวลานี้ อาจจะทำให้เราได้เห็นเขาในไทยลีกก็เป็นได้ … และนี่คือเหตุผลที่เราหามา
ปัจจัยแรก เวียดนาม มองข้าม ไทยลีก
คุณไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่าความเป็นอริทั้งในเรื่องของการเมือง ชีวิตความเป็นอยู่ และเรื่องของฟุตบอลระหว่างไทยและเวียดนามมีผลต่อการตัดสินใจของนักเตะเวียดนามในการมาค้าแข้งในไทยลีกเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ไทยลีกเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ เราเปิดรับนักเตะอาเซียนจากชาติต่าง ๆ มากมายเกินกว่านิ้วจะนับพอ แต่สำหรับนักเตะ เวียดนาม กลับมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่เคยมาค้าแข้งในประเทศนั่นคือ ดัง วาน ลัม และ เลือน ซวน เจือง 2 สตาร์ดีกรีทีมชาติเวียดนาม ทั้ง ๆ ที่ความจริงมีนักเตะทีมชาติเวียดนาม หลายคนที่เคยมีข่าวคราวกับทีมในไทยลีก ทั้ง เกว ง็อก ไฮ, เหงียน กง เฟือง เป็นต้น ...
เรื่องการเป็นคู่แข่งในโลกฟุตบอลนั้นมีผลชัดเจนอย่างมาก หากเราลองวิเคราะห์เริ่มตั้งแต่ยุคที่ เวียดนาม แต่งตั้ง พัค ฮัง ซอ ขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่ ทีมชาติเวียดนาม พัฒนาการเล่นในระดับนานาชาติได้อย่างน่าประทับใจ จากที่เคยเป็นงูเหลือมกับเชือกกล้วยเจอกับไทยในระดับอาเซียนเมื่อไหร่แพ้ตลอด พวกเขากลับขึ้นมาเป็นตัวตึงระดับหอกข้างแคร่ให้ทีมชาติไทยในช่วงที่ผ่านมา เหนือสิ่งอื่นใดคือผลงานระดับเอเชียของ เวียดนาม ก็ถือว่าดีกว่าไทยด้วยซ้ำ หากวัดรวมทั้งทีมชุดใหญ่และทีมเยาวชน
การยกระดับและทำให้เกิดกระแสความคลั่งฟุตบอล และเชิดชูตัวบุคคลในหมู่เเฟนบอลเวียดนาม ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มุมมองของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขาไม่กลัวทีมชาติไทยแบบที่เคย และด้วยผลงานระดับนานาชาติที่ดี แตกต่างกับไทยที่ดร็อปลงไป จึงเกิดภาพจำในลักษณะที่ว่าในเมื่อเวียดนาม ไม่ได้ด้อยกว่าไทยเลย พวกเขาก็จะมองไปยังลีกที่มีระดับหรือความเข้มข้นสูงกว่าไทยลีก
สื่อเวียดนามอย่าง vietnamnet.vn ได้ลงบทความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวและพูดถึงทีมชาติเวียดนาม ในช่วงลงเเข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียยู 23 ปี 2021 ที่ อุซเบกิสถาน (แพ้ อุซเบ 1-2) โดยพวกเขาให้ความเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมาเรามีทีมเยาวชนและทีมชุดใหญ่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเวียดนามทั้งการได้อันดับ 4 เอเชี่ยนเกมส์, เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเอเชีย คัพ คว้าแชมป์ซีเกมส์ ทำให้เกิดความนิยมหลั่งไหลเข้ามาถึงขีดสุด ... ความสำเร็จนี้เราจึงได้เห็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่านักเตะเวียดนาม วางเป้าไว้ที่ลีกญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ หรือชาติในยุโรป มากกว่าจะเป็นไทยลีก
นอกจากนี้ เกว ง็อก ไฮ ปราการหลังตัวตึงของ เวียดนาม ก็เคยให้สัมภาษณ์กับ BLV Ta Bien Cuong ว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยปฎิเสธข้อเสนอของในระดับอาเซียน เพราะเขาคิดว่าไทยลีกไม่ได้เหนือกว่า วีลีก มากนักทั้งในแง่คุณภาพของนักเตะและคุณภาพในเชิงแทคติก
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ตัวร้ายของเรา พระเอกของเขา : เปิดเบื้องหลังของตัวตึงแห่งเวียดนาม เกว์ หง็อก ไห่
นอกจากเรื่องมุมมองแล้ว หนึ่งในสิ่งสำคัญที่นักเตะเวียดนามตัวท็อป ๆ ไม่มาเล่นในไทยลีก็เเป็นเรื่องของรายรับ ค่าจ้างด้วย เนื่องจากในยุคที่ฟุตบอลเวียดนามบูมจนถึงขั้นเรียกว่ายุคทอง นักเตะของพวกเขาที่อยู่ในทีมชุดนั้นต่างมีค่าจ้างที่สูงพอ ๆ กับสโมสรระดับท็อปในไทยลีกจ่ายค่าจ้างนักเตะทีมชาติไทยเลย ยกตัวอย่างเช่น เหงียน กวง ไฮ ที่รับค่าเหนื่อย(ก่อนไปเล่นในฝรั่งเศส) กับ ฮานอย เอฟซี อยู่ทีเดือนละ 600 ล้านดอง หรือราว ๆ 870,000 บาท เลยทีเดียว
ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้เล่นอยู่ในบ้านแบบการันตีตัวจริง มีความเป็นซูเปอร์สตาร์ ได้รับความนิยมจากแฟนบอล แถมมีเงินเดือนสูง ๆ มันย่อมดีกว่าการไปเล่นในลีกไทย ที่ต้องไปเเย่งตำแหน่งตัวจริงกับนักเตะไทย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายยกตัวอย่าง ดัง วาน ลัม กับ เลือน ซวน เจือง ที่เป็นได้แค่ตัวสำรองให้กับ เมืองทอง และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามลำดับ นอกจากนี้ค่าเหนื่อยของ เลือน ซวน เจือง ก็มีค่าเหนื่อยสมัยอยู่กับ บุรีรัมย์ เพียงเดือนละประมาณ 2 แสนบาทเท่านั้น ...
กลับกันในมุมมองของสโมสรไทยถ้าต้องจ่ายให้นักเตะจากเวียดนามที่คุณภาพไล่ ๆ กับนักเตะไทยด้วยค่าเหนื่อยขนาดนั้น เชื่อว่าทีมจากไทยลีกก็จะมองไปที่นักเตะต่างชาติคงจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากกว่า ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้เราไม่ค่อยเห็นนักเตะเวียดนามมาค้าแข้งในไทยลีกมากเท่ากับชาติอื่น ๆ ในอาเซียน นั่นเอง
กวง ไฮ และยุคใหม่ที่อาจเปลี่ยน
อย่างไรก็ตามตอนนี้สถานการณ์หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป พัค ฮัง ซอ ผู้ปลุกกระแสฟุตบอลเวียดนามไม่ได้คุมทีมอีกต่อไปแล้ว ขณะที่นักเตะทีมชาติเวียดนามหลายคนที่ไปค้าแข้งในลีกระดับสูง ๆ ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ยุโรป ต่างก็พบจุดจบคล้าย ๆ กันคือการแทบไม่มีโอกาสได้ลงเล่น ได้สัมผัสเกมน้อยมาก ยกตัวอย่างง่ายที่สุดคือ กวง ไฮ ที่ย้ายไปเล่นกับ เอฟซี โป ในลีกเดอซ์ หรือดิวิชั่น 2 ของประเทศฝรั่งเศส
ตอนที่ กวง ไฮ ย้ายไปอยู่กับ เอฟซี โป นั้นเขาหมดสัญญากับ ฮานอย เอฟซี แล้ว ทำให้การย้ายทีมขึ้นอยู่กับเจ้าตัวล้วน ๆ ซึ่งตัวของ กวง ไฮ ในเวลานั้นก็กระหายความท้าทาย เขายอมลดค่าเหนื่อย และค่าผลประโยชน์อื่น ๆ น้อยลงกว่าตอนค้าแข้งในเวียดนาม ซึ่งแม้จะไม่มีการบอกชัด ๆ ว่าเขาจะได้รับค่าเหนื่อยที่ เอฟซี โป เท่าไหร่ แต่หากวัดจากค่าเฉลี่ยค่าจ้างของนักเตะในทีม เอฟซี โป ที่อยู่ที่ราว ๆ 2,000 ยูโรต่อสัปดาห์ (8,000 ยูโรต่อ 1 เดือน)นั้น จะเท่ากับว่า กวง ไฮ จะเหลือค่าจ้างราว 3 แสนบาทต่อ 1 เดือน น้อยกว่าตอนที่เขาเล่นในเวียดนามเยะกว่า 2 เท่าเลยด้วยซ้ำไป
นอกจากเรื่องค่าจ้างที่ลดลงแล้ว ความสำคัญของ กวง ไฮ ในทีมก็แทบไม่มีเลย เขาได้โอกาสเล่นน้อยมาก บางครั้งก็ถูกส่งลงไปเล่นในทีมสำรองของ โป ที่เล่นอยู่ในระดับดิวิชั่น 5 ของประเทศ ครั้นกลับมาเล่นให้ทีมชาติเวียดนาม ใน AFF 2022 ก็ฟอร์มไม่ดี จนแฟนบอลเวียดนามบ่นเรื่องการเล่นที่ขี้เกียจเกินไป และคุณภาพการเล่นไม่เหมือนกับค้าแข้งในยุโรป หลัง กวง ไฮ ทำไปแค่1 แอสซิสต์ จากการลงสนามใน AFF ถึง 8 เกม ซึ่งโดยปกติเเล้วเขาเป็นตัวชูโรงที่มักจะมีประตูและแอสซิสต์เสมอในยามเล่นให้ทีมชาติ
หนักกว่านั้นคือหลังจากจบทัวร์นาเม้นต์ AFF 2022 ได้ไม่นาน แบร์กนาร์ ลาปอร์ต เฟรย์ ประธานสโมสร โป ก็ออกมาให้ข่าวกับสื่อถึง กวง ไฮ ในแง่ลบแบบชุดใหญ่ ด้วยการพูดถึงข้อเสียของเขาที่ไม่สามารถสื่อสารได้ แถมยังยอมรับว่าสโมสรเลือกเซ็นสัญญา กวง ไฮ มาอยู่กับทีมก็เพราะว่าอยากจะได้เรื่องการตลาดมากกว่าเรื่องอื่น ๆ
"แน่นอน เรากำลังพูดถึงเรื่องการตลาด เราอยากให้เขาเป็นเหมือน ลิโอเนล เมสซี แต่เขามาเจอกับวัฒนธรรมที่แตกต่างและระดับฟุตบอลที่สูงกว่าในเวียดนาม สิ่งนี้มันไม่ง่ายเลย เขาชอบอยู่คนเดียวแถมพูดภาษาฝรั่งเศสกับภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ก็เริ่มเข้าคอร์สเรียนภาษาบ้างแล้ว"
"ตอนนี้มันยากที่เราจะสื่อสารกับเขา เราต้องการเห็นเขาพัฒนาขึ้นเพื่อสู่ทีมชุดใหญ่ แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ต้องเก่งพอด้วย" ประธานของโปว่าเช่นนั้น
จากสิ่งที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างชัดว่าอนาคตของเขาที่ฝรั่งเศสอาจจะไม่สดใสมากนัก ดังนั้นจึงป็นข่าวลือในเวลานี้ว่าเจ้าตัวจะย้ายออกจาก เอฟซี โป แม้จะเหลือสัญญาถึงปี 2024 ก็ตาม
ความล้มเหลวในครั้งนั้นเหมือนกับปลุกเขาให้ตื่นในทางอ้อมว่าสำหรับลีกยุโรป แม้จะเป็นลีกรอง แต่นักเตะจากอาเซียนก็ยังต้องเพิ่มคุณลักษณะต่าง ๆ ให้เหมาะสมมากกว่านี้ ทั้งเรื่องของฝีเท้า การใช้ชีวิต การเข้าสังคม ทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กันหมด ซึ่งแน่นอนวา กวง ไฮ ยังคงไม่พร้อมสำหรับสิ่งเหล่านี้เท่าไรนัก ดังนั้นเขาอาจจะต้องถอยกลับมาเล่นในระดับที่ต่ำกว่านี้ ซึ่งในที่นี้อาจจะรวมถึงไทยลีกด้วย
เชื่อว่าด้วยชื่อเสียงของ กวง ไฮ ในตอนนี้ไม่ได้พีกเหมือนเมื่อ 2-3 ปีที่แแล้ว อำนาจการต่อรองเรื่องค่าเหนื่อยของเขาก็น้อยลงเป็นเงาตามตัว ดังนั้นค่าเหนื่อยของเขาอาจจะอยู่ที่ 2-3 แสนบาทต่อ 1 เดือน หากวัดกับค่าเหนื่อยของนักเตะไทยระดับดีกรีทีมชาติ ซึ่งนั่นก็ไม่ได้น้อยกว่าตอนที่เข้าเล่นในยุโรปมากนัก
ซึ่งการมาเล่นในไทยลีกก้ฬช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะ กวง ไฮ เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง ตอนจะออกจาก เวียดนาม ไปเล่นที่ฝรั่งเศส เขาเคยให้สัมภาษณ์ด้วยตัวเองว่า เขาสามารถทำเงินได้มากมายหากยังค้าแข้งในเวียดนามต่อไป แต่สิ่งที่เขาต้องการคือประสบการณ์ที่แตกต่าง จากการเล่นฟุตบอลในที่ใหม่ ๆ ดังนั้นก็เป็นการบอกกลาย ๆ ว่าเขาเองก็อิ่มตัวกับ วีลีก แล้วซึ่งนั่นทให้โอกาสมาเล่นในไทยลีกก็สูงขึ้นด้วย เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องค่าจ้างและการเปิดประสบการณ์ค้าแข้งในต่างเเดนของเขา
และเมื่อมองจากเรื่องของ อายุ ของ กวง ไฮ นั้นเขายังอายุแค่ 25 ปีเท่านั้น สมมุติว่าเขามาเล่นในไทยลีก เขาก็ยังมีเวลาให้ได้เติบโตขึ้นเพื่อลองไปเล่นในลีกระดับสูงขึ้นอีกครั้ง เพราะนักเตะไทยหลาย ๆ คนอย่าง ธีราทร บุญมาทัน หรือ ธีรศิลป์ แดงดา ก็ได้โอกาสไปเล่นในญี่ปุ่นในช่วงวัยใกล้ ๆ 30 กันทั้งนั้น ถ้ากวง ไฮ ดีจริงพัฒนาได้ ประตูสู่การออกไปเผชิญโลกกว้างของเขาก็คงไม่จบลงแค่นี้แน่นอน
ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้อาจจะเป็นแค่ข่าวลือ แต่ถ้าพิจารณาจากทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นนักเตะเวียดนามในไทยลีกเป็นรายที่ 3 ก็เป็นได้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ศุภณัฎฐ์ พุ่งพรวด : อัพเดท 10 อันดับนักเตะไทยลีกมูลค่าสูงที่สุดในเวลานี้
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา : ไปเจออะไรมาที่ เลสเตอร์ ทำไมถึงเก่งเบอร์นั้น ?
เปิดกฎเวิร์คเพอร์มิตพรีเมียร์ลีก : ศุภณัฎฐ์ ไป เลสเตอร์ ได้จริงหรือ ?