ลาลีก้า ไม่อยากเสียเงิน ไม่ขอใช้โกลไลน์เทคโนโลยี ในฤดูกาลหน้า
ฟุตบอลในยุคปัจจุบันมีผลประโยชน์มหาศาลเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงมีการนำเทคโนโลยีอย่าง VAR, โกลไลน์เทคโนโลยี และ ระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ (SAOT) เข้ามาช่วยตัดสินเพื่อความถูกต้องและเที่ยงธรรมต่อทุกฝ่าย
ลีกส่วนใหญ่ทั่วโลกมีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งลีกใหญ่ในยุโรปที่มีการแข่งขันสูง อาทิ พรีเมียร์ลีก, บุนเดสลีก้า, กัลโช่ เซเรีย อา หรือ ลีกเอิง ที่ใช้ทั้ง VAR และ โกลไลน์เทคโนโลยี
ยกเว้นแค่ ลาลีก้า ที่ใช้แค่ VAR อย่างเดียว และเป็นลีกเดียวในบรรดาลีกชั้นนำของยุโรป ที่ไม่นำโกลไลน์เทคโนโลยีเข้ามาช่วยตัดสิน เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการจ่ายเงินส่วนนี้ เพราะมองว่าราคาของมันสูงเกินไป
ล่าสุด ลาลีก้า ภายใต้การบริหารของ ฆาเบียร์ เตบาส ยังคงยืนกรานเช่นเดิม พวกเขาจะไม่นำโกลไลน์เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในฤดูกาลหน้า เพราะไม่อยากจ่ายเงิน 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (103 ล้านบาท) แม้ว่าเพิ่งมีประเด็นดราม่าในเกมที่ เอสปันญ่อล เปิดบ้านเสมอ แอตเลติโก้ มาดริด 3-3 ก็ตาม
จังหวะปัญหาเกิดขึ้นในประตูที่ 2 ที่ อองตวน กรีซมันน์ ยิงได้ เพราะผู้ตัดสินลาลีก้าใช้ภาพจาก VAR ช่วยตัดสิน และมองว่ามันข้ามเส้นประตูไปเต็มใบแล้ว แต่เมื่อดูจากภาพช้าที่แสดงขึ้นจอทีวี มันยังไม่ชัดเจนว่าลูกบอลข้ามเส้นไปหรือยัง
นั่นทำให้ เอสปันญ่อล ยื่นหนังสือถึงลาลีก้าให้ผลการแข่งขันเกมนี้เป็นโมฆะ เพื่อทำการแข่งขันใหม่อีกครั้ง ซึ่งต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วคณะกรรมการของลีกจะตัดสินว่าอย่างไร
และแน่นอนว่าจากการตัดสินใจของลาลีก้าที่จะไม่นำโกลไลน์เทคโนโลยีมาใช้ในซีซั่นหน้า ยิ่งทำให้หลายฝ่ายรุมวิจารณ์การทำงานของพวกเขาเข้าไปอีก เพราะเห็นกันอยู่ว่ามันมีจังหวะปัญหาเกิดขึ้น แต่ก็ยังเลือกที่จะมองข้าม เพียงเพราะว่าไม่อยากเสียเงิน