‘ลำพูน-บีจี’ เกมลีกธรรมดา ที่ผลลัพธ์หมายถึงการชี้ชะตาทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์

‘ลำพูน-บีจี’ เกมลีกธรรมดา ที่ผลลัพธ์หมายถึงการชี้ชะตาทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

โปรแกรม ไทย ลีก ช่วงสุดสัปดาห์นี้ แน่นอนว่าแฟนบอลย่อมต้องไปโฟกัสที่เกม บิ๊ก แมตช์ ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่จะลงเตะกันในช่วงเย็นวันอาทิตย์เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นสองทีมที่ขับเคี่ยวลุ้นแชมป์มาตั้งแต่เลกแรก

PHOTO : Lamphun Warriors

อย่างไรก็ตามมีหนึ่งเกมในช่วงค่ำวันเสาร์ ที่อาจส่งผลกระทบชิ่งถึงการลุ้นแชมป์ลีกปีนี้ รวมไปถึงทีมในกลุ่มลุ้นหนีตกชั้นด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วงเวลาที่สองทีมนี้โคจรมาเจอกันนั้นพอเหมาะพอเจาะ เพราะว่า เจ้าบ้าน ราชันโคขาว กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ส่วนทางอาคันตุกะ กระต่ายแก้ว กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ยังไม่ลงตัวเท่าใดนัก

PHOTO : BG Pathum United

เกมระหว่าง ลำพูน เปิดรังเหย้ารอดวลกับ บีจี ผลลัพธ์ที่ออกมาจะส่งผลสำคัญถึงสองทีมนี้อย่างไรบ้าง? เหตุใดผลการ แพ้-ชนะ ของทั้งสองทีม ถึงสามารถส่งผลกระทบถึงทีมอื่นๆ ในกลุ่มหัวตาราง? เดิมพันในเกมนี้สูงขนาดไหน? ทั้งสองทีมจึงต้องใส่กันเต็มที่ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

เดิมพันลุ้นแชมป์-หนีตกชั้น

เจ้าถิ่น ลำพูน วอร์ริเออร์ส ลูกทีมของ อเล็กซานเดร กาม่า เปิดตัวในเลกที่สองได้อย่างน่าสนใจ ลงเล่นในเกมลีกไป 3 นัด เก็บชัยชนะไปได้ในสองเกมหลังสุดเหนือ เชียงราย ยูไนเต็ด 2-0 (เยือน) และ ชลบุรี เอฟซี 2-1 (เหย้า) พ่ายไปเพียงแค่เกมเดียวให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-2 (เหย้า) ซึ่งรูปเกมถือว่าสู้ได้สนุกและสูสีกันเกินคาด

PHOTO : Lamphun Warriors

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ราชันย์โคขาว ผลงานแรงขึ้นมาในช่วงหลัง ย่อมหนีไม่พ้นการเสริมทัพในตลาดซื้อ-ขาย โดยเฉพาะโควต้าต่างชาติสองรายทั้ง เนเกบ้า ดาวเตะสาระพัดประโยชน์ชาวบราซิล ซึ่งเคยผ่านเวทีฟุตบอลโลกระดับเยาวชนมาแล้ว และ กิเก้ ลินาเรส แนวรับสาระพัดประโยชน์ชาวสเปน ที่ย้ายมาจาก พีเอสเอ็ม มากาสซาร์ ที่ถือสัญชาติฟิลิปปินส์อยู่อีกหนึ่งสัญชาติ ส่งผลให้ลงทะเบียนในโควต้าอาเซียนได้อย่างคุ้มค่า

พอนำส่วนประกอบใหม่ที่มีคุณภาพมาผสมผสานกับแกนหลักเดิมที่ผลงานอยู่ในเกณฑ์ดีอย่าง อนันต์ ยอดสังวาลย์ ปีกตัวจี๊ดอดีตสตาร์ชั้นนำแห่งวงการบอลเดินสาย ทำให้แนวรุกของพวกเขาดุดันและมีการเข้าทำที่หลากหลายมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้นการที่ทาง อัครพงษ์ พุ่มวิเศษ กองกลางวัย 28 ปี ระเบิดฟอร์มยิงสองประตูในเกมลีกสองเกมหลังสุด จนแฟนบอลบางกลุ่มเริ่มเรียกร้องให้เขามีชื่ออยู่ในโผตัวเลือก ทีมชาติไทย ก็เป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญ เพราะผลงานการนำเป็นดาวซัลโวของต้นสังกัดที่ 6 ประตู ย่อมการันตีฝีเท้าของเขาได้ในระดับหนึ่ง

ปัจจุบัน ลำพูน ขยับขึ้นมามี 25 แต้ม รั้งอยู่ในอันดับที่ 7 ของตารางคะแนน หลังเก็บ 6 แต้มเต็มจากเกมลีกสองนัดหลังสุด แต่ยังไม่สามารถวางใจเรื่องสถานการณ์การหนีตกชั้นได้ เนื่องจากมีแต้มห่างจากโซนแดงเพียงแค่ 6 คะแนนเท่านั้น แต่ยังเหลือโปรแกรมหนักๆ ที่ต้องเจอกับทีมอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด(เหย้า), ราชบุรี เอฟซี (เยือน), การท่าเรือ เอฟซี (เหย้า) และ เมืองทอง ยูไนเต็ด (เยือน) 

PHOTO : Lamphun Warriors

รวมไปถึงการเจอกับทีมในกลุ่มลุ้นหนีตกชั้นอย่าง โปลิศ เทโร (เหย้า), ขอนแก่น (เหย้า), อุทัยธานี (เหย้า) และ สุโขทัย (เยือน) ที่ผลการแข่งขัน สามารถออกได้ทุกหน้า ชะตากรรมอาจพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ดังนั้นเกมนัดสุดสัปดาห์นี้การเจอกับ บีจี ในรังของพวกเขาเอง เป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างน้อย คือ การมีแต้มติดมือไม่ว่าจะเป็น 1 หรือ 3 คะแนน เพื่อเป็นการตุนคะแนนให้ลอยตัวจากการลุ้นหนีตกชั้นในช่วงไคลแม็กซ์

PHOTO : BG Pathum United

ทางด้านฝั่งทีมเยือน บีจี ปทุม ลงทุนหนักตั้งแต่ตลาดรอบแรก ด้วยการคว้าตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมคเกอร์เบอร์หนึ่งทีมชาติไทย กลับมาเล่นในบ้านเกิดอีกครั้งจากสโมสร คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ซึ่งนับว่าเป็นดีลที่ฮือฮาอย่างมากในตอนนั้น

ส่วนในเลกที่สองบอร์ดบริหารตัดสินใจเปลี่ยนหัวเรือมาเป็น มาโกโตะ เทกุระโมริ ที่รีเทิร์นกลับมาคุมทีมเป็นคำรบที่สอง พร้อมกับการเสริมตัวแบบเต็มสูบ ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มซื้อนักเตะดีกรีทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่าง กฤษดา กาแมน มาจากอ้อมอกของ ชลบุรี เอฟซี แบบสุดช็อค

PHOTO : BG Pathum United

รวมไปถึงการดึงตัว เซย์ดีน เอ็นดิอาเย่ แนวรับสาระพัดประโยชน์ชาวไนเจอร์ เล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลางและมิดฟิลด์ตัวรับ ที่มีส่วนสูงถึง 205 เซนติเมตรเป็นจุดขาย และ เดนิส บุสน์ย่า ปีกชาวโครเอเชีย วัย 23 ปี ซึ่งเคยได้รับการขนานนามว่าเป็น วันเดอร์ คิด ตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นบอลอาชีพชุดใหญ่ให้กับสโมสรดังในบ้านเกิดอย่าง ริเยก้า ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปี

ถ้ามองกันตามตรงเรื่องของการลุ้นแชมป์ของ บีจี กับสถานการณ์ในตารางคะแนน ณ ปัจจุบัน อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้า่งยากสุดๆ เนื่องจากตามหลังจ่าฝูงอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ถึง 8 คะแนน ความเป็นไปได้ในการทำแต้มแซงไปเป็นแชมป์ด้วยการเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 1 แทบจะปิดตา่ยไปแล้ว

PHOTO : BG Pathum United

ความได้เปรียบของ บีจี ในการบุกมาเยือน ลำพูน เกมนี้ มองได้สองปัจจัยหลักๆ คือ สภาพความฟิตของนักเตะที่เหนือกว่าเพราะทางเจ้าถิ่นเพิ่งจะผ่านเกมยาว 120 นาทีในศึก เอฟเอ คัพ ที่บุกไปเอาชนะ ประจวบ ในการดวลจุดโทษ 4-2 หลังเสมอกันในช่วงต่อเวลา 1-1

หากมองในการวิเคราะห์เชิงลึก โควต้าอันดับที่ 3 ของ ไทย ลีก นั้นยังมีความหมายสำหรับ บีจี เนื่องจากมีผลเกี่ยวเนื่องกับการลุ้นแชมป์ลีกระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทึ่อาจเกี่ยวพันและเชื่้อมโยงมาถึงโควต้าการไปเล่นในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของทัพ กระต่ายแก้ว ในฤดูกาลนี้

การตัดสินแชมป์และโควต้า เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

ความพ่ายแพ้ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้กับ บางกอก เอฟซี ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย แบบสุดช็อค 4-5 ถือว่าเป็นการปิดตายการคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ สามปีติดต่อกันไปโดยทันที ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ที่เหนือความคาดหมายอย่างมาก เนื่องจากศักยภาพนักเตะของทัพ ปราสาทสายฟ้า เหนือกว่าคู่แข่งที่มาจาก ไทย ลีก สาม แบบเทียบกันไม่ได้

แม้ว่าระเบียบการแข่งขันในศึก เอฟเอ คัพ เกมดังกล่าว จะมีการมองถึงเรื่องความเท่าเทียม กำหนดให้ใช้ตัวผู้เล่นต่างชาติ โดยนับโควต้าจากทางฝั่งทีมที่เป็นรอง ซึ่งกรณีนี้จะยึดโควต้าของ บางกอก เอฟซี เป็นเกณฑ์ ส่งผลให้ บุรีรัมย์ สามารถส่งตัวต่างชาตินับรวมทุกโควต้า ลงสนามได้เพียงแค่ 3 คนเท่ากัน

PHOTO : Buriram United

แน่นอนว่า อาเธอร์ ปาปาส กุนซือของ บุรีรัมย์ นั้นยังมั่นใจในเกมรับของพวกเขาว่ามีดีพอ ไม่ใช่จุดอ่อนอย่างที่แฟนบอลบางส่วนเคยตั้งคำถาม แต่ในช่วงหลังแผลในแนวรับเริ่มสะท้อนภาพในทางตรงกันข้ามให้เห็นบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เกมที่บุกไปเอาชนะ ตราด เอฟซี แบบฉิวเฉียด 4-3 ด้วยการโดนทีมที่มีคุณภาพนักเตะเป็นรองคนละชั้นยิง เจาะแนวรับไปถึงสามลูก

พอมาถึงเกม เอฟเอ คัพ ที่ต้องออกไปเยือน บางกอก เอฟซี พวกเขามั่นใจในขุมกำลังที่เป็นต่อ จึงเลือกที่จะใช้โควต้าต่างชาติลงเป็นตัวจริงแค่สองรายในการออกสตาร์ท คือ ลูคัส คริสปิม และ ลอนซาน่า ดุมบูย่า ผสมผสานกับตัวผู้เล่นไทยแกนหลักอย่าง ธีราทร บุญมาทัน, พรรษา เหมวิบูลย์ หรือ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่มีดีกรีเป็นระดับนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่

แต่แล้วเมื่อเกมเริ่มต้นขึ้น ‘ความประมาท’ บวกกับผู้เล่นไทยบางกลุ่มที่ไม่ค่อยได้ลงสนามมากนัก ที่ถูกจับลงมาเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ กลายเป็นช่องโหว่สำคัญที่ทำให้การเล่นของพวกเขาไม่แข็งแกร่งดุดันเช่นเคย ยิ่งมีนักเตะต่างชาติประคองทีมแค่สองคน ยิ่งเห็นได้ชัดว่า ความน่ากลัว ของพวกเขานั้นอยู่ที่ปัจจัยไหน?

PHOTO : Buriram United

แนวรับที่เลือกใช้นักเตะไทย ไม่สามารถดวลเอาชนะในจังหวะ 1 ต่อ 1 กับผู้เล่นของ บางกอก เอฟซี ได้เลย กลายเป็นโดนตัวต่างชาติเกรดรองเผาจนเสียทรง แถมยังมีการออกลูกติดประมาทคู่แข่ง ไม่เข้าประกบแบบชิดตัว เหมือนมองว่าเจอกับงานง่าย จนสุดท้ายก็กลายเป็นบทเรียนสำคัญอีกครั้งเมื่อพ่ายแพ้

PHOTO : Thai League

ดังนั้นเกมลีกที่จะกลับมาเฝ้ารัง ต้อนรับผู้มาเยือนอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อเป็นการรักษาแผลใจของพวกเขา ที่ต้องพลาดการลุ้นสามแชมป์ หลังเพิ่งตกรอบบอลถ้วยมาหมาดๆ แล้วจำเป็นต้องรักษาโมเมนตัมของทีมไม่ให้เสียสมดุลย์ไปมากกว่านี้

สถานการณ์ในตารางคะแนนตอนนี้ ปราสาทสายฟ้า ถือว่ายังเป็นต่อ แบงค็อก ด้วยการนำเป็นจ่าฝูงที่ 42 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด มีโอกาสที่ผลตอยจบฤดูกาลจะมีแต้มเท่ากันอยู่ แล้วไปตัดสินแชมป์ด้วยการกางสถิติ เฮด ทู เฮด โดยถ้าวัดจากผลการเจอกันนัดแรก บุรีรัมย์ ก็ยังถือไพ่เหนือกว่า แบงค็อก จากการบุกไปเอาชนะมาได้ในเลกแรก 1-0 ยิ่งไปกว่านั้นรองจ่าฝูงอย่าง การท่าเรือ เอฟซี ก็ยังอยู่ในเส้นทางเบียดแย่งแชมป์ ยังไม่สามารถตัดออกไปจากสมการนี้ได้

PHOTO : Bangkok United

อย่างไรก็ตามเกมนี้ทีมเยือน แข้งเทพ จำเป็นต้องทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าสามแต้มเช่นกัน เพราะถ้าบุกมาเอาชนะได้ผลต่างมากกว่า 1 ประตู พวกเขาจะขึ้นไปมีแต้มเท่า แล้วยังมีเกมในมือเหลือมากกว่า 1 นัด เฮด ทู เฮด จะแซงขึ้นไปได้เปรียบทันที ซึ่งอาจเป็นการฟื้นสถานการณ์ให้ทีมอย่าง บีจี และ การท่าเรือ กลับมาอยู่ในเส้นทางทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้นหาก แบงค็อก สามารถทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ด้วยการคว้า ดับเบิ้ล แชมป์ บอลลีก และ บอลถ้วย เอฟเอ คัพ มาครองได้ โควต้าในการไปเล่นบนเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จะตกมาเป็นของทีมในอันดับที่ 3 ใน ไทย ลีก ทันที

โดยประเด็นนี้จะทำให้ บีจี กลับมามีลุ้นไปเล่นบอลชิงแชมป์ระดับทวีป เพราะทัพ กระต่ายแก้ว ยังเหลือโปรแกรมที่ต้องเจอกับทีมในกลุ่มหัวตารางอย่าง บุรีรัมย์ (เหย้า) และ การท่าเรือ (เหย้า) หากเก็บสามแต้มในสองเกมนี้ได้ สถานการณ์อาจจะมีดีพอในการพลิกจบตำแหน่งรองแชมป์ หรือ อันดับที่ 3 ได้เลย

ไทย ลีก โค้งสุดท้าย

โปรแกรม ไทย ลีก ช่วงสุดสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้า ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ก่อนที่จะมีการพักเบรกให้กับโปรแกรมทีมชาติราวสองสัปดาห์ ซึ่งทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ และ ลุ้นหนีตกชั้น จำเป็นต้องโกยแต้มให้ได้มากที่สุดก่อนเบรก เนื่องจากต้องการคงสถานะและโมเมนตั้มของทีมเอาไว้

ถ้าผลในเกมวันเสาร์ บีจี สามารถบุกไปทำตามผลงานได้ตามเป้าด้วยการเก็บสามแต้ม พวกเขาอาจมีแรงฮึดติดเครื่องในโค้ชสุดท้าย แล้วอาจเข้าป้ายได้ไปเล่นถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว่ก่อนเปิดฤดูกาล แล้วเป็นการกดดันคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันไปในตัว

PHOTO : Bangkok United

ส่วนผลลัพธ์ในเกม บิ๊ก แมตช์ ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ถ้าผลเป็นใจให้ทางเจ้าบ้านคว้าสามแต้มได้ ภาพรวมการตัดสินแชมป์ลีก อาจเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากแต้มจะฉีกทีมอื่นๆ ไปไกลกว่าที่เป็นอยู่

อย่างไรก็ตามหากผลออกมาตรงกันข้าม ‘พลิกล็อค’ เป็นทางฝั่ง แข้งเทพ บุกมาเอาชนะได้ รับรองว่าหลังจากนี้ สถานการณ์จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น จนแฟนบอลต้องลุ้นกันแบบเกมต่อเกม นัดต่อนัด สัปดาห์ต่อสัปดาห์อย่างแน่นอน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : 

https://thaileague.co.th/175

https://fathailand.org/uploads/download/7cd47ba7369b0d4af24232ee1c936dca.pdf

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ