ลีกอินโดนีเซีย นำร่องอาเซียน ใช้กฎการเงินและจำกัดเพดานค่าจ้าง
นับวันลีกอินโดนีเซียยิ่งถอยหลังลงคลองเรื่อย ๆ จนปัจจุบันหล่นลงไปรั้งเป็นลีกอันดับ 6 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ดังนั้น เอริค ตอฮิร ประธานสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียคนใหม่ (PSSI) จึงต้องทำการสังคายนาครั้งใหญ่ เพื่อฉุดลีกขึ้นมาอยู่แถวหน้าของอาเซียนอีกครั้ง
ตอฮิร จึงประกาศนโยบายใหม่ 6 ข้อ ที่จะนำมาใช้กับลีกอินโดนีเซียในฤดูกาล 2023/24 เพื่อยกระดับมาตรฐานการแข่งขันให้สมกับคำว่าลีกฟุตบอลอาชีพ ประกอบด้วย
- ทุกสโมสรต้องติดป้ายโฆษณา LED
- นำเทคโนโลยี VAR มาใช้
- ปรับปรุงสนามแข่งทั้ง 22 สนาม
- ส่งผู้ตัดสินไปฝึกกับสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น
- บังคับใช้กฎการเงินและจำกัดเพดานค่าเหนื่อย
สำหรับกฎการเงินและการจำกัดเพดานค่าเหนื่อย เป็นข้อเดียวที่จะถูกบังคับใช้ในฤดูกาล 2024/25 เพื่อให้สโมสรต่าง ๆ ได้มีเวลาเตรียมตัว ซึ่งมันถือเป็นเรื่องแปลกใหม่มาก ๆ ของวงการลูกหนังอาเซียน
จริงอยู่ว่า เอริค ตอฮิร ต้องการยกระดับการแข่งขันของลีกอินโดนีเซีย แต่ไม่ใช่ว่าจะให้สโมสรเอาแต่ใช้เงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แล้วต้องมาแบกรับหนี้สินเกินตัวจนล้มละลาย แต่เขายังคำนึงถึงความยั่งยืนในอนาคตด้วย ไม่อย่างนั้นคงมีจุดจบไม่ต่างจากหลายสโมสรในลีกจีน
“เมื่อเราพูดถึงการยกระดับลีกจากอันดับ 6 ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของอาเซียน อย่าไปมองตรงปลายทางที่เราอยากให้ AFC เห็น รากฐานคือสิ่งสำคัญที่สุด ทุกสโมสรในลีกนี้ต้องลงแข่งขันด้วยมาตรฐานการเล่นแบบเดียวกัน ไม่ใช่ความมั่งคั่งทางการเงิน” ตอฮิร กล่าว
“การแข่งขันระดับสโมสรต้องมีมาตรฐาน ในลีกยุโรปเองก็มีเช่นกัน ถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จ แต่สโมสรไม่แข็งแรงพอ มันก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นลีกที่เราอยู่ต้องมีมาตรฐานที่ดีก่อน”
“สิ่งที่เราตกลงกันจะนำมาใช้ หลังจากได้ปรึกษาหารือกันคือ จะมีการกำหนดเงื่อนไขที่เรียกว่า มาตรฐานการจ่ายค่าเหนื่อยและการใช้จ่ายของสโมสร”
ปัจจุบัน ไทยลีก รั้งอันดับ 8 ของเอเชีย และอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน จากการจัดอันดับของสหพันธ์ลูกหนังเอเชีย (AFC) ตามมาด้วย มาเลเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย