คุยกับ2นักฟุตบอลหญิงที่เคยไปบอลโลก และกำลังเล่นในไต้หวัน กับ “ไท่จง บลูเวล”

หลังจากความน่าผิดหวังในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชียนัดแรก ภายใต้การนำของ “มาโน่ โพลกิ้ง” ที่เปิดราชมังคลากีฬาสถานเล่นแมตซ์เหย้าในรอบ 5 ปี แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับจีน 2-1ประตู คำถามที่มีในหมู่แฟนฟุตบอลคือ “ช้างศึก” มีดีพอไหมในการจะได้ไปอวดฝีเท้าในฟุตบอลโลก 2026 ที่แคนาดา-สหรัฐฯ

ผู้สื่อข่าวคิดไซด์โค้ง ได้สัมภาษณ์พิเศษนักฟุตบอลทีมชาติหญิงจากไต้หวัน ที่ย้อนกลับไปเคยผ่านศึกฟุตบอลโลกหญิงมาแล้ว และปัจจุบันค้าแข้งให้กับทีม “ไท่จง บลูเวล” ทีมลุ้นแชมป์ในศึกมู่หลานลีก ที่ไต้หวัน คือ “วิว” พรพิรุณ พิลาวัน และ เสาวลักษณ์ เพ็งงาม ถึงการค้าแข้งต่างแดน และทำไมการไปฟุตบอลโลกถึงเป็นเรื่องสำคัญ

พรพิรุณ เล่าว่า “เริ่มฟุตบอลจริงจัง ก่อนหน้านั้นเป็นนักวอลเลย์บอลจนมีโอกาสได้ไปเรียนโรงเรียนกีฬาขอนแก่น ตอนนั้นวางเป้าหมายเลยว่าจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และมองอยู่แล้วว่าโอกาสของเราอยู่ที่ต่างประเทศ” ซึ่งสิ่งนั้นพิสูจน์จากการทำงานอย่างหนัก พรพิรุณให้ความสำคัญกับการเล่นบอดี้เวทเพื่อให้มีสภาพร่างกายที่แข็งแรงเสมอ

ด้านเสาวลักษณ์เปิดเผยว่า “ก่อนหน้านี้เริ่มเล่นฟุตซอลมาตั้งแต่อายุ 12 ปี และไต่ขึ้นไปเล่นระดับจังหวัด จนได้เข้าไปอยู่โรงเรียนกีฬาสุรินทร์ แล้วชลบุรีมาดึงตัว และก็เริ่มติดตั้งแต่ชุด U-19 จากนั้นก็ติดทีมชาติมาเรื่อยๆ”

เมื่อถามถึงประโยคที่พูดว่า “ลีกแข็งแรง ทีมชาติแข็งแรง” นั้นจริงไหม?เพราะฟุตบอลชายไทยเป็นลีกอาชีพ มีเงินสะพัด นักฟุตบอลรายได้ดี แต่ลีกฟุตบอลหญิงไทยยยังมีลักษณะกึ่งอาชีพ “มันก็เกี่ยวข้องกัน ลีกอาชีพในฟุตบอลหญิงในประเทศไทยกับทีมชาติมีความเกี่ยวข้องกันแน่นอน ถ้าลีกอาชีพเข้มแข็งสโมสรเข้มแข็ง และที่สำคัญที่สุดก็คือความต่อเนื่องในการทำลีกอาชีพมีโปรแกรมชัดเจน ในบางปีลีกก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเริ่มเมื่อไร เพราะการจัดโปรแกรมมันต้องสอดคล้องทั้งในระดับทีมชาติและระดับสโมสร” พรพิรุณให้ความเห็นต่อเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้พรพิรุณ เคยเดินทางไปเล่นที่ลีกญี่ปุ่นได้เทียบความแตกต่างระหว่างบอลลีกหญิงไทยและญี่ปุ่นว่า “ตอนที่ได้ไปเล่น ได้รับโอกาสจากการแนะนำของโค้ชมิโย (มิโยะ โอกาโมโตะ - อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติหญิงไทย) ในการผลักดัน และได้มีโอกาสไปเล่นกับทีมมายนาวี เซนได ตอนนั้นเขากำลังหากองหลังพอดี ความแตกต่างก็คือลีกญี่ปุ่นนักฟุตบอลเป็นนักบอลอาชีพ รอซ้อม ทำแค่งานเดียว ทุกทีมมีมาตรฐานเดียวกันหมด จุดแข็งคือญี่ปุ่นมีความอดทนเข้มแข็ง คือถ้าจะให้มองมาตรฐานลีกไทยกับญี่ปุ่นยังห่างเยอะ”

คิดไซด์โค้ง ถามทั้งสองนักเตะ “ชบาแก้ว”ที่ได้มีโอกาสติดทีมชาติไปฟุตบอลโลกหญิง ที่ฝรั่งเศสว่า “การไปฟุตบอลโลกนั้นมีความหมายแค่ไหนกับนักฟุตบอล” ทั้งสองคนตอบได้น่าสนใจว่า “การไปฟุตบอลโลก มันคือการหล่อหลอมให้เราทำงานหนักเราเห็นความเป็นมืออาชีพของทีมต่างๆ บรรยากาศที่มันเป็นระดับโลก แต่ละชาติทุ่มเทแค่ไหนกว่าจะไปยืนในจุดนั้น อย่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้นี่เป็นทีมที่มาตรฐานสูงมากมีแนวทางชัดเจน ส่วนจีนที่สูสีกับเราในระดับเอเชีย”

พรพิรุณ มองว่า “ถ้าเราไปดูทีมชาติต่างๆในเอเชีย เราจะเห็นสิ่งที่เรียกว่าแนวทางที่ชัดเจน คือคุณจะเล่นชุดระดับอายุไหนก็แล้วแต่ จะไปค้าแข้งทีมต่างประเทศ แต่พอกลับมาเราจะเห็นได้ว่าเขากลับมาเล่นในระบบได้ เพราะเขาวางรากฐานที่ดีไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา” เรื่องนี้ทำให้ต้องย้อนกลับไปคิดว่าระบบปัจจุบันของทีมชาติไทยที่เป็นแกนกลาง คือระบบอะไร? และโค้ชคนปัจจุบันมีแนวทางการทำทีมที่ชัดเจนว่าอย่างไรบ้าง?

สำหรับเป้าหมายของ สองนักเตะชบาแก้วก็คือพาไท่จง บลูเวลเป็นแชมป์ลีกไต้หวันให้ได้ในปีนี้ เสาวลักษณ์บอกว่า “เรื่องการปรับตัวไม่ใช่ปัญหา เพราะมองว่าโชคดีที่ทีมไท่จงบลูเวลมีนักเตะหญิงไทย 4 คน ทำให้ไม่เหงาและสามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ แต่เรื่องในสนามต้องใช้การสื่อสารเป็นภาษาจีนกับเพื่อนร่วมทีม” ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันไท่จงบลูเวล กำลังเบียดแย่งแชมป์ในโค้งสุดท้ายกับ นิวไทเป ฮังหยวนที่มี นิภาวรรณ ปัญโญสุข อีกหนึ่งกองกลางชบาแก้วค้าแข้งอยู่เช่นกัน เรียกได้ว่าปีนี้ต้องมีทีมที่มีนักเตะไทยคว้าแชมป์ลีกไต้หวันแน่นอน

เมื่อถามว่าทำไมนักฟุตบอลไทยควรไปเล่นที่ต่างแดน อย่างเราจะเห็นทั้งศุภโชค สารชาติ และเอกนิษฐ์ ปัญญาในเจลีก และศุภณัฎฐ์ เหมือนตา ในจูปิแลร์ลีกของเบลเยี่ยมกับโอเอช ลูเวิน ทั้งสองคนบอกว่า “การไปเล่นในต่างประเทศนั้นส่งผลดีให้กับทีมชาติ พอรุ่นพี่ได้ไปฟุตบอลโลกรุ่นน้องก็อยากจะไปด้วย ทำให้ซ้อมหนักขึ้นเกิดการแข่งขันและการพัฒนามากขึ้น ผลดีต่อทีมชาติก็มีเช่นผู้เล่นบางคนที่เราเคยแข่งกับทีมชาติ แล้วแวะเวียนมาเจอกันในระดับสโมสรอีกจะทำให้เราพัฒนาตัวเองจากข้อผิดพลาดในการโคจรมาเจอกันอีก และทำให้เราเก่งขึ้นๆ”

น่าเสียดายที่ปีที่ผ่านมาทีมชบาแก้วไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกหญิง2023 ที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพได้เพราะแพ้ในรอบเพลย์ออฟ แต่อีก 4 ปีข้างหน้า ถ้าหากว่ามีการวางระบบตั้งแต่สโมสรในประเทศทั้งดิวิชั่น 1-2 และการส่งนักฟุตบอลออกไปค้าแข่งต่างประเทศ แต่เชื่อว่ามีโอกาสจะทำให้ดีที่สุดในการไปฟุตบอลโลกหญิงครั้งที่ 3 ของทีมชาติไทยได้อย่างแน่นอน

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด