ลิขสิทธิ์ฟรี แต่วัดกันที่กำไร : อธิบายเรื่องการถ่ายทอดสดไทยลีกฤดูกาล 2023-24

ลิขสิทธิ์ฟรี แต่วัดกันที่กำไร : อธิบายเรื่องการถ่ายทอดสดไทยลีกฤดูกาล 2023-24
ชยันธร ใจมูล

อธิบายแบบทีละขั้นตอนชัด ๆ เกี่ยวกับเรื่องของ ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2023-24 ที่กำลังเป็นประเด็นในเวลานี้

ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ?

ณ ตอนนี้ฟุตบอลไทยลีกยังไม่มีใครเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์  

ในที่ประชุมแจ้งว่าเรื่องลิขสิทธิ์ ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะ ทรู หรือ ais ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อาจจะมีการพูดคุยกันระหว่างผู้บริหารของทรูและ ais กับ ผู้บริหารสโมสร แต่ก็ยังไม่มีอะไรชัดเจน

เรื่องดังกล่าวจึงทำให้มีการเอาสัญญาณการถ่ายทอดสดไทยลีกทั้งหมดนำไปเสนอภาคเอกชนที่สามารถออกอากาศได้แบบฟรี ๆ ไม่คิดเงิน แต่เมื่อเอาไปฉายแล้วและได้ผลกำไรกลับมา ผลกำไรดังกล่าวจากภาคเอกชนจะต้องคืนกลับมาสู่สโมสร

ดูคลิปที่นี่

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือที่เรียกันว่า OTT ซึ่งเหลืออยู่ 2 เจ้าคือ ทรู กับ ais ที่สามารถขายแพ็คเกจดูบอลไทยในแพลตฟอร์มออนไลน์ของพวกเขาเอง (ทรู ไอดี และ ais play)

โดยในที่ประชุมยังมีการคุยกันเพิ่มเติมว่าลิขสิทธิ์ไทยลีกฤดูกาลนี้จะไม่มีใครได้สิทธิ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ กล่าวคือ หากเทียบในอดีตถ้าขายให้ AIS พวกเขาจะได้ลิขสิทธิ์ทั้งหมดไม่สามารถแบ่งที่อื่นได้ แต่ครั้งนี้ไทยลีกจะให้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดทุก ๆ คู่ให้กับทั้ง 2 เจ้าเอาไปจัดสรรหารายได้กันเอง และเอากำไรมาแบ่งกับสโมสร  ซึ่งช่องทางหลัก ๆ คือการขายแพ็ตเกจดูบอลเหมือนกับที่ AIS ขายแพ็คเกจดูฟุตบอลไทย ผ่าน AIS Play)

นอกจากนี้จะมีการมอบลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดให้กับ ฟรีทีวี เพื่อเปิดช่องทางการรับรู้ และให้มีคนสามารถเข้าถึงฟุตบอลไทยลีกได้มากกว่าเดิม

ส่วนแบ่ง แบ่งยังไง ?

เดิมทีมีการตกลงกันว่าสัดส่วนการแบ่งกำไร คือ สโมสร ได้ 75% อีก 25% จะมอบให้กับช่องทางการถ่ายทอดสดต่าง ๆ ทว่า เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ต่อสายหาทาง AIS และต่อรองเพิ่มเพื่อให้ สโมสรได้ส่วนแบ่งจากกำไร 90% อีก 10% จะเข้าทาง AIS Play ซึ่งคาดว่าทาง ทรู ก็น่าจะได้เงื่อนไขเดียวกัน

นอกจากสองค่ายใหญ่แล้ว ยังมี 3 สโมสรอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และการท่าเรือ เอฟซี ที่จะร่วมซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายในช่องทางของสโมสรเองด้วย โดยสโมสรจะใช้เงินคร่าว ๆ คิดจากแพ็คเกจ 49 บาท คูณกับยอดคนดูราว 20,000 คน ซึ่งจะตกอยู่ที่ประมาณ 980,000 บาทต่อเดือน โดยเงินจากทั้ง 3 สโมสรนี้จะเข้ากองกลางและแบ่งให้กับทุก ๆ สโมสรเท่า ๆ กัน

ทั้งนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าการให้ลิขสิทธิ์แบบฟรี ๆ ครั้งนี้จะจบลงกับทั้งสองเจ้า ไม่ว่าจะ ทรู หรือ AIS หรือมีเพียงเจ้าเดียวที่จะได้ดีลนี้ไป อย่างไรก็ตามนี่คือทางแยกสำคัญของวงการฟุตบอลไทย ถ้าทุกฝ่ายร่วมกันสนับสนุนฟุตบอลไทย เราอาจจะเจอกับวิธีการสร้างเม็ดเงินให้กับวงการฟุตบอลไทยใหม่ ๆ ก็เป็นได้

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ