"ล้มบอล" เรื่องใกล้ตัวฟุตบอลไทยที่ทำให้ ประทุม ชูทอง หันมาเตะบอลเดินสาย

"ล้มบอล" เรื่องใกล้ตัวฟุตบอลไทยที่ทำให้ ประทุม ชูทอง หันมาเตะบอลเดินสาย
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

นักเตะอาชีพที่เก็บประสบการณ์เล่นให้กับสโมสรชื่อดังมากมายใน ไทยลีก อาทิ โอสถสภา M-150, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี, เชียงราย ยูไนเต็ด และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อย่าง ประทุม ชูทอง ภาพที่แฟนบอลจดจำเขาได้ คงหนีไม่พ้นกองหลังพันธุ์ดุที่ทุ่มเทในสนามแบบเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกเกม

PHOTO : Buriram United

อาการบาดเจ็บทั่วร่างทั้ง หัวแตก, เอ็นเข่าขาด หรือบาดแผลยิบย่อยทั่วร่างๆ ไม่มีทางทำให้ ประทุม ยอมแพ้ในการเป็น ‘นักสู้’ บนฟลอร์หญ้าอย่างแน่นอน เพราะเขาสามารถผ่านความเจ็บปวดเหล่านั้นมาได้แบบสบายๆ แต่สิ่งเดียวที่เป็นบาดแผลทางใจที่รักษาไม่หาย แล้วส่งผลให้ตัวเขาต้องหันหลังให้กับ ‘บอลอาชีพ’ ตลอดกาล นั่นคือการโดนเล่นงานจาก ‘เนื้อร้าย’ แห่งวงการฟุตบอล

ปทุม ที่เข้าสู่ช่วงปลายของการค้าแข้ง ย้อนความหลังผ่านการให้สัมภาษณ์กับทีมงาน คิดไซด์โค้ง เอาไว้ว่า

“ผมเป็นคนที่เล่นฟุตบอลอย่าบอกว่าแค่ 100% เลยเกินร้อยอยู่แล้ว แต่ผมก็ไปเจอกับกลุ่มคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ โดยไม่ได้มองว่าเป็นการทำลายวงการฟุตบอล ทำลายความเป็นมืออาชีพของนักเตะ คิดถึงแต่เรื่องอำนาจเงิน แล้วไม่สนเรื่องความถูกต้องของฟุตบอลเลย"

“พอมีกลุ่มเนื้อร้ายที่ว่าพยายามหาทางมาคุยกับผม ผมเจอแบบนี้ผมก็กะว่าผมจะเลิกเล่น เรื่องราวมันก็บานปลายไปอย่างที่เคยพูดไปบ้างแล้ว อย่าพยายามไปย้อนถึงมันเลยดีกว่า มันทำให้หมดศรัทธาในวงการ ไม่รู้ว่ามันเริ่มกลายเป็นแบบนี้ไปตอนไหน”

PHOTO : Buriram United
“ผมไม่รู้หรอกว่าแต่ก่อนนี้วงการมันเป็นยังไง แต่จะมาว่าจ้างให้ผมเล่นในสนามแบบ 20 เปอร์เซ็นต์แบบนี้ คนดูเขาก็ดูรู้ดูออก มันจะกลายเป็นผลเสียกับเราในระยะยาวอีกหลายๆ เรื่องตามมา ผมเจอแบบนี้ผมเบื่อผมก็เลิกเลยดีกว่า ทั้งที่ศักยภาพของผมยังเล่นต่อได้”

แม้ว่า ประทุม จะประกาศหันหลังให้กับบอลอาชีพชัดเจน แต่มีหลายสโมสรพยายามติดต่อมาโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนใจ ซึ่งมันก็ไม่เป็นผลเพราะเขามีความเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ไม่มีทางกลืนน้ำลายตัวเองแน่นอน แล้วไม่ได้ต้องการสร้างกระแสเรียกแสงแบบที่บางคนเข้าใจกันไปผิดๆ ในช่วงนั้น

PHOTO : Prathum Thum

ความเห็นส่วนตัวของ ประทุม นั้นมองว่า นักบอลลีกล่างๆ ของไทยนั้นไขว้เขวกับเรื่องนี้ได้ง่าย เพราะเรื่องรายรับที่ไม่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้แบบฟุตบอลลีกต่างประเทศที่เจริญแล้ว หากเจอข้อเสนอก้อนโตมาว่าจ้างขึ้นมาจริง ก็ต้องมีคนที่ยอมโอนอ่อนคล้อยตามกันไปบ้างแน่นอน

ตัวของเขาคงไม่สามารถไปตราหน้าได้ว่า คนนั้นทำคนนี้ทำ หากเป็นเพื่อนร่วมทีมในสโมสร แต่ถ้าถามว่ามองออกหรือไม่มันมองออกอยู่แล้ว ซึ่งหากตัดสินใจหันหลังกลับไปก็ไม่สามารถการันตีได้ว่า ทีมใหม่ของเขาจะปลอดเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ เพราะบางทีมันก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากกลุ่ม ‘เนื้อร้าย’ มันไม่ได้มีเพียงแค่ไม่กี่คน แต่พวกเขาทำกันเป็นขบวนการ จะกำจัดทิ้งให้หมดคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การสัมภาษณ์ออนไลน์

บทความที่เกี่ยวข้อง :

ประทุม ชูทอง : นักสู้มืออาชีพแห่งโลกบอลเดินสาย

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ