ผลงานเริ่มเด่น ‘แบงค์-ศุภณัฏฐ์’ มีส่วนร่วมกับประตูตีเสมอ ‘โอเอช ลูเวิน’ นัดบุกแพ้ ‘เกงค์’ 1-3
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แนวรุกวัย 21 ปี จากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทีมชาติไทย ที่ย้ายไปเล่นในทวีปยุโรป บนเวที เบลเยี่ยม โปร ลีก เป็นครั้งแรก ด้วยสัญญายืมตัวเป็นระยะเวลา 6 เดือน แล้วในช่วงแรกเหมือนจะดูมีปัญหาติดขัดเล็กน้อยเรื่องของเอกสาร รวมไปถึงอาการบาดเจ็บ จนแฟนบอลไทยอดเป็นห่วงอนาคตของ วันเดอร์ คิดส์ รายนี้ไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นตัวกุนซือคนเดิมอย่าง มาร์ค บรีส์ (Marc Brys) ก็ต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนที่แล้ว แล้วได้ตัวเฮดโค้ชโปรไฟล์ดีอย่าง ‘ออสการ์ การ์เซีย’ (Oscar Garcia) เข้ามารับไม้ต่อแทน แต่ปรากฎว่าผลงานของทีมยังไม่กระเตื้องขึ้นเท่าไหร่ ประเดิมคุมทีมอย่างเป็นทางการเกมแรก ก็พาทีมบุกพ่ายทีมแกร่งอย่าง เกงค์ ขาดลอย 1-3
อย่างไรก็ตามสำหรับแฟนบอลชาวไทยยังมีเรื่องที่น่ายินดีอยู่บ้าง เนื่องจากผลงานของ แบงค์ ที่ได้ลงเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 72 แทนที่ของ โกน็อง เอ็นดรี (Konan N’ Dri) นั้นค่อนข้างมีช็อตที่เข้าตาเลยทีเดียว เพราะมีส่วนร่วมกับประตูตีเสมอของทีมในนาทีที่ 85
ภาพรวมของ ลูเวิน ในการคุมทีมนัดแรกของ การ์เซีย เป็นอย่างไร? มีอะไรที่แตกต่างไปจากยุคเดิมบ้าง? แทคติกส์ของเขามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในส่วนไหน? โอกาสของ ศุภณัฏฐ์ จะมีมากขึ้นหรือไม่? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
แท็คติกเน้นความรัดกุม
การ์เซีย เป็นกุนซือที่รับงานคุมทีมด้วยการคุยรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ต้องการใช้เวลาในการปรับจูนทีม ไม่ใช่คนที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้แบบทันท่วงที ดังนั้นตัวของเขาต้องศึกษารายละเอียดของทีมในทุกมุมมอง ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงให้ได้แนวทางการเล่นที่เขาต้องการ
การออกมาเยือน เกงค์ ทีมอันดับที่ 4 ของตารางในเวลานี้ถือว่าเป็นงานหนักไม่น้อย เพราะว่าฟอร์มของ ลูเวิน ในเวลานี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เปลี่ยนจากทีมกลางตารางกลายเป็นทีมลุ้นหนีตกชั้น จากการออกสตาร์ทที่ไม่น่าพอใจนักในฤดูกาลนี้
ด้วยผู้เล่นที่มีอยู่ในมือตอนนี้ การ์เซีย ยังคงยึดระบบกองหลังตัวกลางสามคน ซึ่งเป็นระบบเดิมกลับกุนซือคนเก่าอย่าง บรีส์ เคยวางรากฐานทิ้งเอาไว้ แต่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของการยืนตำแหน่งที่รับลึกขึ้น กองกลางเน้นการคุมพื้นที่ ไม่ได้วิ่งไล่เพรสซิ่งสุดตั้งแต่แดนบนเพื่อความรัดกุม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องออกมาเยือน เกงค์ ที่มีการเล่นเกมรุกและอันดับที่สูงกว่าด้วย
แม้ว่าสถานการณ์จะตกเป็นรองไปก่อนแต่ การ์เซีย ก็เลือกที่จะเล่นด้วยความอดทนตามเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแท็คติกที่ยังคงเน้นเกมรับ จะมีช่วงโหมผู้เล่นเพื่อเอาประตูคืนอยู่เป็นช่วงๆ แต่อาวุธหลักของเขาที่ใช้เล่นงานเจ้าถิ่นเกมนี้ คือ ‘การเล่นสวนกลับเร็ว’ หรือ เคาเตอร์ แอทแทค พยายามทิ้งบอลให้ผู้เล่นที่มีความเร็วและความสามารถเฉพาะตัวคอยฉวยโอกาส
แล้วสุดท้ายการอดทนรอจังหวะปล่อยหมัดเด็ดของ การ์เซีย ก็มาประสบผลจากการประสานงานของสองตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาแก้เกมอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ได้ลงเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ฝากบอลไปให้กับ จอน ดาร์กู ธอร์สไตน์ส์สัน ไขว้บอลต่อให้กับ โจนาทาน เบราต์ บรูนส์ ยิงเข้าไป ซึ่งนับว่าเป็นการประสานงานที่ยอดเยี่ยมของผู้เล่นที่มีเซ้นส์บอลทันกันทีเดียว
จังหวะ พรี แอสซิสต์ ของ ศุภณัฏฐ์ แสดงให้เห็นถึงวิชั่นในการออกบอลที่ไม่ลังเล เลือกทางเลือกได้ถูกต้องว่าควรจะฝากบอลไปให้ใคร ซึ่งแน่นอนว่า การ์เซีย คงจะมองเห็นแล้วกลับไปคิดถึงเรื่องการใช้งานแนวรุกชาวไทยมากขึ้นอย่างแน่นอน
ประตูแห่งโอกาสเปิดกว้าง
การ์เซีย เป็นโค้ชที่รับงานมาหลากหลาย ผ่านประสบการในการร่วมงานกับยอดโค้ชมามากมาย อาทิ โยฮัน ครัฟฟ์ และ เอคตอร์ คูเปร์ รวมไปถึงการได้รับการสอนจากประธานเทคนิคอย่าง ราล์ฟ รังก์นิก หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเล่นเกมรับแบบเพรสซิ่ง ทำให้ตัวของ การ์เซีย มีแนวทางในการปรับจูนทีมหลากหลายให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม
การได้เริ่มงานคุมทัพ บาร์เซโลน่า ยู-19 เป็นงานแรก ย่อมทำให้เขารู้เรื่องของการปั้นเยาวชนขึ้นมาใช้งาน และพร้อมให้โอกาสกับดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์อยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้นการพเนจรไปรับงานคุมทีมในหลายลีก อาทิ มัคคาบี้ เทล อาวีฟ (อิสราเอล), ไบรท์ตัน (อังกฤษ), วัตฟอร์ด (อังกฤษ), เร้ด บูลส์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), แซงต์ เอเตียน (ฝรั่งเศส), โอลิมเปียกอส (กรีซ) และ แร็งส์ (ฝรั่งเศส) ทำให้เขามีประสบการณืในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันในหลายประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้นประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ การ์เซีย เข้าใจนักเตะที่จากบ้านมาเล่นในต่างประเทศ ด้วยเหตุผลด้านหน้าที่การงานและความก้าวหน้า ซึ่งกว่าแต่ละคนจะปรับตัวได้ย่อมใช้เวลาต่างกันออกไป ตามที่เคยกล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า
“ผมมองไปถึงอนาคตข้างหน้าเสมอ ผมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานจากหลายประเทศที่มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่แตกต่างกัน แล้วได้รับรู้เรื่องของทัศนคติและปรัชญาการทำทีมที่แตกต่างกันออกไป เพื่อนำมาปรับใช้กับนักเตะที่อยู่ร่วมกันในทีม แต่พวกเขามาจากหลากหลายถิ่นฐานจากหลายประเทศ”
“ในฐานะผู้จัดการทีมคุณต้องไม่มองเพียงแค่เรื่องของฟุตบอล แต่ต้องมองถึงเรื่องของครอบครัว ความเป็นอยู่ การมาเล่นที่ไกลจากบ้านเกิดเมืองนอน ดังนั้นคุณต้องใส่ใจและรับผิดชอบให้เหล่นักเตะและครอบครัวของพวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นกัน”
แน่นอนว่าในเคสของ ศุภณัฏฐ์ นั้นเข้าข่ายดาวรุ่งที่มีศักยภาพพัฒนาต่อได้ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นนักเตะโนเนมจากประเทศที่ไม่ได้โด่งดังและมีชื่อเสียงเกี่ยวกับฟุตบอลมากนัก หากวัดกันเรื่องของผลงานของสโมสรและทีมชาติในเวลานี้ที่ยังไม่มีความสำเร็จเป็นชิ่้นเป็นอันในระดับทวีป
หากทาง แบงค์ ได้รับการดูแลอย่างดีจากโค้ชที่มีความเข้าใจหัวอกนักเตะที่มาค้าแข้งยังต่างแดน ต้องมาอยู่ไกลบ้าน แล้วต้องพบเจอกับวัฒนธรรมและเพื่อนร่วมทีมใหม่ๆ เพียงตัวคนเดียว แล้วผลงานยังออกมามีแววดีขนาดนี้ เชื่อได้เลยว่า โอกาสในการลงสนามของแนวรุกจาก บุรีรัมย์ จะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นในไม่ช้า
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
การชมเกมถ่ายทอดสด
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ