ลุ้นแชมป์กลุ่มนัดท้าย: 5 ดาวรุ่งทีมชาติไทย ยู-17 ฟอร์มเด่นเกมเชือด มาเลเซีย
เกมนัดที่สองในศึก AFC U-17 Asian Cup 2023 ของทีมชาติไทย รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ภายใต้การคุมทัพของ พิภพ อ่อนโม้ ยังคงเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้เช่นเดิม ด้วยการเอาชนะ มาเลเซีย ยู-17 ไปได้แบบสบายเท้า 3-0
กลายเป็นว่าผลการแข่งขันอีกหนึ่งคู่ในกลุ่ม เอ ระหว่าง สปป.ลาว และ เยเมน จบลงแบบไม่เป็นใจเท่าไหร่ หลังเป็นทางจ่าฝูง เยเมน เอาชนะไปได้แบบหืดจับ 2-1 ส่งผลให้เกมสุดท้ายที่เราจะพบกับพวกเขาจะเป็นเกมตัดสินแชมป์กลุ่มทันที แต่อย่างน้อยก็จูงมือผ่านเข้ารอบไปล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่าในเกมที่พบกับ มาเลเซีย ผู้เล่นทีมชาติไทยหลายคน สามารถเร่งฟอร์มเก่งได้ดีกว่านัดเปิดสนาม แล้วนี่คือ 5 คีย์แมนหลัก ที่ทางทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง มองว่าเป็นจิ๊กซอว์สำคัญกในการพาทีมเก็บสามแต้มได้สำเร็จ
พงศกร สังขโสภา
แนวรุกจาก หัวหิน ซิตี้ ถือว่าเป็นหัวใจในเกมบุกของทีมในเกมแรก นัดนี้ผลงานรวมๆ ของเขา อาจไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก แต่สร้างความปั่นป่วนให้คู่แข่งหวาดหวั่นได้อยู่เสมอ ยามที่ อีริค ได้บอล เขาจะให้รูปร่างแข้งขาที่ยืดยาว เข้าถึงบอลก่อนเพื่อชิงจังหวะในการเล่น จังหวะการลากตะลุยของเขาก็จับทางได้ยาก หากมีพื้นที่ว่างให้ติดเครื่อง คู่แข่งต้องเจอกับงานหนักแน่นอน แถมยังมีจังหวะการยิงประตูที่หนักเข้าข้อ ไม่สามารถประมาทได้อีกด้วย
จิรพงษ์ พึ่งวีรวงศ์
แนวรุกดาวรุ่งจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะยืนตำแหน่งเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา แต่เจ้าตัวถนัดเท้าซ้าย จังหวะลากตะลุย ใช้ความเร็ว ความคล่องตัว ถือว่าสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับ มาเลเซีย แทบทุกจังหวะ เรื่องความสามารถเฉพาะตัว เทคนิคต่างๆ น่าจะเป็นระดับท็อปๆ ของทีมชุดนี้ ขาดเพียงแค่จังหวะสุดท้ายในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะจ่ายหรือยิง ที่ยังขาดความเฉียบคมอยู่ ต้องสั่งสมประสบการณ์กันต่อไป อย่างน้อยเกมนี้เขาก็มีแอสซิสต์ติดไม้ติดมือ 1 ครั้ง ในการป้อนบอลสวยๆ ให้เพื่อนยิงลูก 3-0 เข้าไป
ชนสรณ์ โชคลาภ
แบ็คขวาจากค่าย อัสสัมชัญ ธนบุรี ถือว่าศักยภาพฝีเท้าของเขา โดดเด่นเกินอายุเอามากๆ ไม่ว่าจะเกมรุกหรือเกมรับ มีส่วนร่วมกับทีมตลอด มีความขยัน ใจสู้ กล้าคิดกล้าตัดสินใจ จังหวะการป้องกันกล้าตัดเกมแบบไม่มีลังเล เกมบุกหากเห็นช่องเปิดยาวก็กล้าให้กล้าแทง ครึ่งแรกมีจังหวะยิงฟรีคิกเกือบเสียบใต้คานไปหนึ่งรอบ แล้วประตูขึ้นนำช่วงท้ายครึ่งแรก ฟลุ๊ค ก็เป็นคนเริ่มต้นออกบอลขนานเส้นไปให้เพื่อนหลุดไปแอสซิสต์ และก็เติมขึ้นมายิงประตู 2-0 ให้กับทีมได้อีกด้วย
พัชรพล เหล็กกุล
จอมทัพหมายเลข 6 จากสโมสร ชลบุรี เอฟซี เป็นหัวใจในแดนกลางของทีมชาติไทยชุดนนี้อย่างแท้จริง หน้าที่ของเขาสำคัญทั้งรุกและรับ คอยตัดบอล เชื่อมเกม รวมไปถึงหาโอกาสเติมขึ้นไปส่องประตู เรียกได้ว่าวิ่งแบบไม่มีหมด เป็นศูนย์รวมใจในการกระตุ้นเพื่อนๆ ให้อยู่ในเกม การออกบอลของเขาจะเน้นง่ายแต่เข้าเป้า พยายามไม่เล่นเสี่ยงเพื่อให้ทีมเสียการครองบอล ประตูปลดล็อค 1-0 ที่เขายิงได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก
ชโนทัย คงเหม็ง
กองหน้าตัวเป้าหมายเลข 10 ดีกรีเด็กสร้างจากอะคาเดมี่สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แนวทางการเล่นของเขาชวนให้นึกถึงกองหน้ารุ่นพี่อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ทั้งรูปร่างและวิสัยทัศน์ในการเล่น แม้ว่าเริ่มต้นเกมเขาจะดูเครื่องติดช้า แต่พอได้ที่แล้วออกไล่ล่าแบบไม่มีหยุด ทั้งการคอยส่ายหาพื้นที่ว่างทางริมเส้น การวิ่งไล่เพรสซิ่งไม่ให้คู่แข่งเล่นง่าย สองประตูแรกก็เป็นทาง ชโนทัย ที่เคลื่อนที่สลัดตัวประกบ แอสซิสต์ให้เพื่อนทำสกอร์ได้ หลังจากนั้นในช่วงท้ายเกม เขาก็โชว์ความคมให้ได้เห็นกันในจังหวะจบสกอร์ในเขตโทษ พาทีมชนะแบบลอยลำ 3-0 แล้วน่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่เจ้าตัวจำไม่ลืมแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
“โค้ชอ๊อตโต้” : กุนซือวัย 26 ปีผู้คืนชีพ ชัยนาท เอฟซี ด้วย “เข็มทิศแห่งอนาคต”
เทพนิยายภูธร : ‘สโมสร ดอนมูล’ ตำนานทีมระดับตำบลผู้พิชิตแชมป์ เอฟเอ คัพ
เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก
คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ
เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว
เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?
บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้