มองพัฒนาก้าวกระโดด 20 ปีของ ขี่ม้าโปโลไทย ที่ฟุตบอลอาจนำมาปรับใช้ได้

มองพัฒนาก้าวกระโดด 20 ปีของ ขี่ม้าโปโลไทย ที่ฟุตบอลอาจนำมาปรับใช้ได้
ชยันธร ใจมูล

กีฬาขี่ม้าโปโลถือเป็นเรื่องไกลตัวแฟนฟุตบอลไทยมาก ๆ ชนิดที่ว่าเราแทบไม่เคยได้ยินข่าวผ่านหูผ่านตามาก่อน อย่างไรก็ตามหากมองในแง่ภาพรวมใหญ่ แบบไม่ต้องเจาะไปถึงวิธีการแข่งขัน แต่พูดถึงแนวทางการพัฒนา คุณจะเห็นจุดที่น่าสนใจว่า กีฬาขี่ม้าโปโล ถือเป็นกีฬาที่ยกระดับได้ไวมาก ๆ ชนิดที่ว่า ใช้เวลาเพียง 20 ปี ถึงตอนนี้ ขี่ม้าโปโลไทย กลายเป็นชาติระดับแถวหน้าไปแล้ว

ถ้าฟุตบอลอยากเติบโตไวแบบนั้นบ้างเป็นไปได้หรือไม่ ? ลองไปดูกัน

ขี่ม้าโปโล เติบโตได้ไง ?

จริง ๆ เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าการจะทำให้กีฬาขี่ม้าโปโล เป็นที่รู้จักต้องใช้แรงเงิน แรงกาย และองค์ความรู้ไม่น้อย ดังนั้นการที่ใครสักคนจะมาเป็นหัวเรือใหญ่ต้องมีคุณสมบัติครบรอบด้าน และกีฬาขี่ม้าโปโลของไทย ถึงผลักดันโดยชายที่ชื่อว่า วิชัย ศรีวัฒนประภา ยอดนักธุรกิจชาวไทยผู้ก่อตั้งบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งชื่นชอบกีฬาขี่ม้าโปโลเป็นการส่วนตัว

คุณวิชัยจึงเริ่มผลักดันกีฬาขี่ม้าโปโลในประเทศไทย ผ่านการตั้ง “สมาคมขี่ม้าโปโล” ขึ้นในปีพ.ศ. 2541 พร้อมกับชวนเพื่อนฝูง และคนใกล้ตัวมาเริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้

ไม่ใช่คุณวิชัย แค่คนเดียวเท่านั้น แต่ทุกคนในสมาคมขี่ม้าโปโลยุคก่อตั้งมีความฝันอยากทำให้กีฬานี้เป็นที่รู้จัก และมีคนเข้ามาแข่งขันมากขึ้น สิ่งที่ใช้เยอะที่สุดในการ "รันวงการ" นี้คือ "แพสชั่น" ที่ขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว จากการก่อตั้งในปี 2541 พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 6 ปี ให้กลายเป็น “สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย” กล่าวคือการเป็นสมาคมที่การกีฬาแห่งประเทศไทยรองรับอย่างเป็นทางการได้สำเร็จ

เมื่อฐานแน่น มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการพัฒนาอย่างจริงจัง ความสำเร็จจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดด

ขี่ม้าโปโล อาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จนักในช่วงก่อตั้งสมาคมยุคแรก ๆ แต่หากเทียบกับในอดีตที่ไม่มีแม้กระทั่งทีมแข่งขัน ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี โดยในซีเกมส์ปี 2007 ทีมขี่ม้าโปโลไทยเริ่มต้นด้วยเหรียญทองเเดง ก่อนที่ทีมสมาคมขี่ม้าโปโล จะกลับไปทบทวนและหาทางพัฒนาเพื่อให้ ไทย เป็นเบอร์ 1 ในกีฬาชนิดนี้ เป็นมหาอำนาจของระดับภูมิภาค และระดับเอเชียให้ได้

และในกีฬาซีเกมส์ ทีมขี่ม้าโปโลของไทย ผ่านการคว้าเหรียญเงิน และเหรียญทองแดงมาแล้ว และไม่เคยพลาดเหรียญในทุกครั้งที่ส่งทีมเข้าแข่งขัน ดังนั้น สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยจึงตั้งเป้าหมายที่จะคว้าเหรียญทองซีเกมส์ในปี 2025 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพมาครองให้ได้

นอกจากการแข่งขันในซีเกมส์แล้ว ทีมขี่ม้าโปโล ยังมีผลงานระดับนานาชาติที่โดดเด่น ได้ลงแข่งขันในรายการที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น ไทยแลนด์ โปโล คิงส์ คัพ : รายการแข่งขันถ้วยพระราชทานจากรัชกาลที่ 9, ออล เอเชีย คัพ (All Asia Cup), ดิ แอมบาสเดอร์ คัพ (The Ambassador Cup) , อินเตอร์เนชั่นแนล เลดี้ โปโล ทัวร์นาเมนท์ เป็นต้น

ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยแสดงให้เห็นว่าเรามีความพร้อมมหาศาล กับการเป็นผู้นำและศูนย์กลางที่จะยกระดับกีฬาขี่ม้าโปโลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ น่าสนใจมาก ๆ ว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะไปได้ไกลแค่ไหนกับกีฬาประเภทนี้

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่กีฬาขี่ม้าโปโลแสดงให้เห็นคือเรื่องของการมีพื้นฐานที่ดี มีศักยภาพในการพร้อมพัฒนา และมีกลุ่มผู้บริหาร และสมาชิกที่เชื่อมั่นในแนวทางการพัฒนาเหมือนกัน ทุกอย่างจึงก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 20 ปี

และเชื่อว่ากีฬาชนิดนี้จะไปไกลยิงกว่าเดิมได้อีกในอนาคต

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ