มินะ ทานากะ : ดาวยิงทีมชาติญี่ปุ่นสายเลือดไทยแห่งนาเดชิโกะเจแปน
"นาเดชิโกะเจแปน" กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก หลังล่าสุดไล่อัดนอร์เวย์ อดีตแชมป์โลก 3-1 ทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น คือ มินะ ทานากะ กองหน้าวัย 29 ปี หลังทำไป 2 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์จาก 4 นัดที่ลงสนาม
อย่างไรก็ดี แม้ว่า มินะ ทานากะ จะดูเป็นชื่อญี่ปุ่นแท้ แต่ความเป็นจริงเธอมีสายเลือดของคนไทยอยู่ครึ่งหนึ่ง แถมยังผูกพันกับประเทศไทยอีกด้วย
ติดตามเรื่องราวของยอดดาวยิงทีมชาติญี่ปุ่นลูกครึ่งไทยไปกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
เด็กสาวชาวอุบลฯ
หากมองอย่างผิวเผิน มินะ ทานากะ จะดูเป็นชื่อที่มีความเป็นญี่ปุ่น แต่เธอนั้นเกี่ยวโยงกับประเทศไทยมาตั้งแต่เกิด หลัง จริญดา แม่ของเธอกลับมาคลอดเธอที่ไทยในปี 1994 ขณะที่พาสามีและพี่ชายของมาเยี่ยมญาติที่บ้านเกิด ในจังหวัดอุบลราชธานี
แต่ถึงอย่างนั้น มินะ ก็แทบไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ไทย เพราะหลังจากเธอลืมตาดูโลกไม่นาน ครอบครัวได้พาเธอกลับญี่ปุ่น ก่อนจะใช้ชีวิตและเติบโตที่เมืองคาวาซากิ จังหวัดคานางาวะ ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว
ขณะที่เส้นทางลูกหนัง เธออาจจะเริ่มต้นได้ค่อนข้างเร็ว เมื่อ มินะ เริ่มเตะฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ขวบ หลังได้รับอิทธิพลจากพี่ชาย และได้เข้าไปอยู่ในทีม คาวาซากิ วิง สโมสรท้องถิ่น
“พี่ชายของฉัน ที่แก่กว่าฉันสามปี เล่นให้กับทีมเยาวชนในท้องถิ่น ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ฉันเริ่มเล่นฟุตบอลตอนอายุ 5 ขวบ” มินะ กล่าวกับ Nihon no Gakko
“ตอนแรกฉันได้รับคำชม หลังยิงประตูได้โดยบังเอิญ และความสุขในตอนนั้น ก็เปลี่ยนมาเป็นความสนุกทีละน้อย”
หลังจากนั้น มินะ ก็จริงจังกับมัน ด้วยเป้าหมายว่าอยากเก่งกว่าพี่ชาย ขณะเดียวกันเธอก็มีความฝันว่าสักวันต้องเข้าไปอยู่ในทีม นิปปอน ทีวี เบเลซา สโมสรสุดแกร่งของวงการฟุตบอลหญิงญี่ปุ่นให้ได้
“ฉันคิดว่าคู่แข่งคนแรกของฉันคือพี่ชาย ด้วยความที่เราเตะฟุตบอลด้วยกันบ่อยมาก ตอนอยู่ชั้นประถม ดังนั้นเป้าหมายแรกคือการแซงหน้าพี่ชาย เพราะฉันไม่อยากแพ้เขา ฉันคิดว่าจิตวิญญานความไม่ยอมแพ้ของฉันแข็งแกร่งขึ้นจากตอนนั้น” ทานากะ กล่าวต่อ
“ฉันยังมีอีกเป้าหมายหนึ่งตอนประถม นั่นคือได้เข้าไปเล่นให้ นิปปอน ทีวี เบเลซา ในอนาคต ตอนนั้น นิปปอน เบเลซา เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยผู้เล่นอย่าง โฮมาเระ ซาวะ และ ชิโนบุ โอโนะ"
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตอนจบชั้นประถม มินะ ตัดสินใจไปทดสอบฝีเท้ากับ นิปปอน ทีวี เมนินา ทีมเยาวชนของ เบเลซา ก่อนจะสมหวัง หลังเป็น 1 ใน 5 คนที่ได้รับคัดเลือก จากผู้ร่วมทดสอบ 100 คน ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่
ยอดดาวยิงแดนอาทิตย์อุทัย
แม้ว่าการได้อยู่ในทีมของ นิปปอน ทีวี จะทำให้ มินะ เข้าใกล้ความฝัน แต่ช่วงเวลาที่นั่นก็ทำให้เธอทรมานไม่น้อย เพราะเธอต้องเดินทางไปซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียน จนแทบไม่มีเวลาได้ผ่อนคลาย
“ตอนอยู่ ม.ต้นถึงม.ปลาย หลังเลิกเรียน ฉันต้องเดินทางด้วยรถไฟและรถบัสเพื่อไปซ้อมที่เมนินาทุกวัน” มินะย้อนความหลัง
“แน่นอนว่าตอนนั้น ฉันไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนเลย แต่เพราะฉันรักฟุตบอลเหนือสิ่งอื่นใด และมีเป้าหมายที่ชัดเจน นั้นคือได้ร่วมทีมเบเลซา”
เธอเล่าว่าเธอท้อมาก แถมยังรู้สึกแย่เวลาโดนโค้ชตำหนิ จนถึงขั้นมีความคิดที่จะหยุดเส้นทางนักฟุตบอลไว้แค่นี้ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป
“สมัยเล่นให้ เมนินา ฉันติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลก U17 โดยลงเล่นไป 3 เกม ยิงได้ 3 ประตู แต่ตอนนั้นฉันมีความคิดอยากจะเลิกเล่นฟุตบอล” ดาวเตะลูกครึ่งญี่ปุ่น-ไทยอธิบาย
“เพราะฉันกลัวโค้ช แล้วก็โดนดุบ่อยๆ ก็เลยอยากวิ่งหนีและเลิกเล่นในตอนนั้น”
อย่างไรก็ดี การเคี่ยวกรำอย่างเข้มงวดของโค้ชก็ได้ผล เมื่อตอนมัธยมปลายปี 1 (ม.4) มินะ ก็ถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ นิปปอน ทีวี อย่างเซอร์ไพรส์ในปี 2011
หลังจากนั้น กราฟชีวิตของ มินะ ก็พุ่งสูงขึ้น เริ่มจากมีชื่อชื่อติดทีมไปเล่นฟุตบอลหญิง U20 ชิงแชมป์โลก 2012 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ตอนม.ปลายปี 2 แถมเธอเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทีมชาติหญิงญี่ปุ่นคว้าอันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์
ก่อนที่ในปีต่อมา มินะ ในวัย 18 ปี จะถูกเรียกติดทีมชาติเป็นครั้งแรก และได้ประเดิมสนาม รวมถึงเบิกประตูในนามทีมชาติ ในเกมพ่ายเยอรมัน 2-1 ในเดือนมีนาคม 2013
มันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความขาขึ้นอย่างแท้จริง เมื่อนับตั้งแต่ปี 2013 มินะ กลายเป็นนักเตะที่ขาดไม่ได้ของ เบเลซา พร้อมช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 5 สมัยติดต่อกัน (2015, 2016, 2017, 2018, 2019) ขณะที่เธอคว้าดาวยิงสูงสุดของลีก 4 ปีติดต่อกันนับตั้งแต่ฤดูกาล 2016
โดยเฉพาะปี 2019 ที่ มินะ โชว์ฟอร์มโหด ยิง 33 ประตูจาก 34 นัดในทุกรายการ พา เบเลซา คว้าดับเบิลแชมป์นาเดชิโกะลีก และเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ที่เธอเป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ หลังยิงไป 4 ประตูจาก 5 นัด
และด้วยผลงานดังกล่าว ทำให้ มินะ กลายเป็นขาประจำใน “นาเดชิโกะเจแปน” มาตั้งแต่ปี 2017 รวมถึงเป็นหนึ่งในสมาชิกชุดคว้ารองแชมป์เอเชีย ที่จอร์แดน เมื่อปี 2018
อย่างไรก็ดี แม้จะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น แต่ในปี 2019 มินะ ก็กลับไม่มีชื่อใน 23 คนสุดท้ายชุดลุยฟุตบอลโลกหญิง ที่ฝรั่งเศส อย่างสุดช็อค ที่กลายเป็นหนึ่งในความผิดหวังที่สุดในชีวิต
“ฉันคงจะทำผลงานได้ดีกับ เบเลซา เท่านั้น เมื่อถูกถามว่าสามารถทำอะไรกับทีมชาติได้บ้าง ก็ถูกบอกว่ามีหลายสิ่งที่ฉันยังขาดอยู่” มินะกล่าวกับ FIFA.com
ก่อนที่มันจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
แข้งเลือดไทยในฟุตบอลโลก 2023
ความผิดหวังที่ไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2019 ทำให้ มินะ ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง รวมถึงสภาพแวดล้อมใหม่ ด้วยการย้ายไปอยู่กับ อิแนค โกเบ เลออนเนสซ่า อีกหนึ่งทีมแกร่งของฟุตบอลหญิงญี่ปุ่น
เธอคิดว่าการอยู่ที่ เบเลซา อาจจะทำให้เธอติดอยู่ในคอมฟอร์ทโซนเกินไป เพราะทุกคนต่างรู้ศักยภาพในตัวเธอดีอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับสโมสรใหม่ ที่ดาวยิงสายเลือดไทย ต้องมานับหนึ่ง
“เพราะว่าฉันหลุดจากทีมในฟุตบอลโลก ฉันจึงตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนทีมและเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ฉันคิดว่า 4 ปีต่อจากนี้ ฉันสามารถเติบโตขึ้น” มินะกล่าวกับ Elle Girl
ที่เลออนเนสซา มินะ ต้องเคลื่อนที่มากขึ้น ไม่ว่าจะฉีกไปเอาบอลที่ด้านข้าง หรือลงต่ำมาล้วงบอล ที่ทำให้การเล่นของเธอมีมิติและไม่ได้จำกัดอยู่ที่แดนหน้าเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ ในปี 2020-2021 มินะ ยังมีโอกาสได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในยุโรป หลังย้ายไปร่วมทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ในบุนเดสลีกาหญิง ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนจะฝากผลงาน 4 ประตูจาก 10 นัดที่ลงสนาม
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ มินะ มีฝีเท้ายอดเยี่ยมอยู่แล้ว แข็งแกร่งขึ้นไปอีก จนกลายเป็นกุญแจที่ขาดไม่ได้ทั้งในสโมสรและทีมชาติ และสามารถพา ลีออนเนสซา คว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2021-2022 รวมถึงติดทีมไปเล่นฟุตบอลโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ
ทั้งนี้ ถึงตอนนี้ มินะ อาจจะกลมกลืน จนเป็นชาวญี่ปุ่นไปแล้ว แต่แข้งลูกครึ่งไทย ก็ยังมีความผูกพันกับบ้านเกิดของแม่ ทั้งชื่อที่แปลว่า “คนสวยที่เกิดทางตอนใต้ของญี่ปุ่น” ซึ่งมีความหมายถึงประเทศไทย หรือการเคยมาใช้ชีวิตที่ไทยในช่วงเวลาสั้นๆ สมัยเด็ก
ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2012 มินะ ยังเคยส่งกำลังใจให้ชาวไทยที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ ด้วยความตั้งใจว่าจะยิงประตูในฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก U20 ให้ได้ แม้ว่าสุดท้ายจะทำไม่สำเร็จก็ตาม
“เหลือเชื่อที่เกิดแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นและน้ำท่วมที่ไทย แม้ว่าฉันจะได้เห็นจากวิดีโอก็ตาม” มินะ กล่าวกับ Nikkan Sport
“แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็คิดว่ามันคงจะเจ็บปวดมากหากคิดถึงคนที่ได้รับผลกระทบ ฉันจึงตั้งใจว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขา”
ทำให้แม้ว่าในฟุตบอลโลก 2023 ครั้งนี้ จะไม่มีทีมชาติไทยลงแข่ง แต่ชาวไทยก็สามารถเป็นกำลังใจให้แข้งสายเลือดไทยอย่าง มินะ ในทัวร์นาเมนต์นี้ ที่เธอและ นาเดชิโกะเจแปน กำลังอยู่ในเส้นทางไล่ล่าแชมป์โลกสมัยที่ 2 หลังเพิ่งทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย
มาส่งแรงใจให้ให้สาวอุบลฯคนนี้ ไปได้สวยในรายการนี้กัน
แหล่งอ้างอิง
https://school.js88.com/scl_h/onepoint-advice/sport?item=2&athlete=163
https://www.nikkansports.com/soccer/japan/news/p-sc-tp2-20120824-1005332.html
https://kobecco.hpg.co.jp/75441/
https://www.ellegirl.jp/sports/athletes/g44489072/minatanaka-interview-230710/
https://www.soccer-king.jp/news/japan/nadeshiko/20210202/1174846.html