นิโคเลา คาร์โดโซ่ : กองหน้า บุรีรัมย์ ที่เคยถูกเรียกว่า “เงา อองรี”
เป็นที่ทราบกันดีว่าสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะครองตำแหน่งกวาดสามแชมป์ในประเทศไทย ได้อย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่พวกเขาไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาทีมไปสู่ระดับต่อไป เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย แล้วเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างให้พวกเขาอย่างมาก คือ โควต้านักเตะต่างชาติ ที่ถึงแม้ตัวเก่าผลงานจะเข้าตา แต่ถ้าพฤติกรรมไปด้วยกันไม่ไหว บอร์ดบริหารก็พร้อมที่จะทำการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด พร้อมมองเป้าหมายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เกี่ยงกับราคาค่าจ้าง
ในเมื่อมีผู้เล่นหลายรายแยกทางกันไป โควต้าที่ว่างลงก็ต้องหาตัวมาชดเชย จึงเป็นที่มาของผู้เล่นดีกรีไม่ธรรมดาอย่าง รามิล เชย์ดาเยฟ ดาวยิงทีมชาติอาเซอร์ไบจาน ที่คาดกันว่าต้องจ่ายค่าเหนื่อยกันระดับ 50 ล้านบาทต่อปี
แต่ดูเหมือนนั่นจะยังไม่เพียงพอ เพราะการขาดหายไปของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้ากึ่งปีกทีมชาติไทย ที่เตรียมตัวย้ายไปเล่นในลีกยุโรป ทำให้พวกเขาต้องควานหาผู้เล่นฝีเท้าดีเท่าๆ กัน เข้ามาอุดช่องว่างดังกล่าว ซึ่งตอนนี้เป้าหมายที่มีข่าวลือด้วยชัดเจน คือ นิโคเลา คาร์โดโซ่ ตัวริมเส้นลูกครึ่งโรมาเนีย-อิตาลี
หากไปค้นดูปูมลึกปูมหลังของ คาร์โดโซ่ จะเห็นได้ว่า เขาเป็นนักเตะจอมพเนจร ค้าแข้งมาแล้วทั่วยุโรปทั้งใน อิตาลี, สเปน, กรีซ, อังกฤษ และ โรมาเนีย ซึ่งก็เคยวนเวียนมาเล่นแถบเอเชียในประเทศเกาหลีใต้กับสโมสร ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ มาแล้วเช่นกัน
เรื่องราวของเขาก่อนจะที่มาปักหลักที่ประเทศไทย เคยผ่านเหตุการณ์อะไรมาบ้าง? ศักยภาพของเขาทำไมถึงถูกยกให้เป็นเงาของ เธียร์รี่ อองรี? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
เงา ‘อองรี’ ดีกรีเยาวชนทีมชาติอิตาลี
คาร์โดโซ่ ถือว่าเป็นนักเตะที่มีเชื้อชาติและสัญชาติซับซ้อนไม่น้อย เพราะเกิดที่เมือง แนคกา ประเทศสวีเดน มีพ่อเป็นชาวโรมาเนีย ส่วนแม่เป็นชาวบราซิล แถมยังมีเป็นคนผิวสี ทั้งครอบครัวของเขาย้ายมาตั้งรกรากเป็นชาวทุสคาน อาศัยอยู่ในเมืองทอสคาน่า ประเทศอิตาลี ตั้งแต่ปี 1998
เขาฝึกฟุตบอลกับอะคาเดมี่ของ เอ็มโปลี สโมสรชื่อดังในแถบถิ่นที่อยู่ ถูกปลุกปั้นมาตั้งแต่อายุแค่ 14 ปี จนได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2008 แม้ว่าจะได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 2 เกม ตลอดสองปีในศึก กัลโช่ เซเรีย บี แต่นั่นก็เพียงพอให้ตัวเขาสร้างชื่อสำหรับการเป็นดาวรุ่งระดับชาติ
แม้ว่าพ่อกับแม่ของเขาจะมีเชื้อชาติต่างกับ แต่ตัวของ คาร์โดโซ่ ถือพาสปอร์ตเป็นคนอิตาเลียน เลยสามารถติดทีมชาติทัพอัซซูรี่ได้ แล้วก็ถูกเรียกตัวไปติดธงชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี รุ่นเดียวกับ ฟาบิโอ บอรินี่ อดีตศูนย์หน้าของเชลซี ลิเวอร์พูล รวมถึงซันเดอร์แลนด์ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนจะย้ายไปเล่นในอิตาลี กับ เอซี มิลาน โดยยังยิงประตูได้ในเกมที่ถล่ม อัลแบเนีย 5-0 ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2009
ส่วนทีมชาติ ยู-20 ก็ติดรุ่นเดียวกับ โลเรนโซ อินซิเญ่ อดีตแนวรุกคนดังของนาโปลี ที่ย้ายไปอยู่ โตรอนโต เอฟซี ในเมเจอร์ลีกของอเมริกา , มาร์โก แวร์รัตติ มิดฟิลด์ของปารีส แซง , อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ เกมรับจากโรมา และเอซี มิลาน
หลังจาก คาร์โดโซ่ เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในแดนรองเท้าบู๊ท นั่นหมายถึงประตูสู่ลีกสูงสุดอย่าง กัลโช่ เซเรีย อา กำลังจะเปิดต้อนรับเขา จากการยืนยันของประธานสโมสรเอ็มโปลีอย่าง ฟาบริซิโอ คอร์ซี่ ที่กล่าวถึงศักยภาพของนักเตะรายนี้เอาไว้ว่า
“นิโคเลาเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพยอดเยี่ยม สไตล์การเล่นของเขาชวนให้นึกถึงสตาร์ระดับโลกอย่าง เธียร์รี่ อองรี เอามากๆ”
“เขาสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าและกองหน้าตัวต่ำ คุณภาพฝีเท้าของเขาสามารถการันตีได้จากความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน และ ฟิออเรนติน่า ที่ต้องการคว้าตัวเขาไปร่วมทีม”
“อย่างไรก็ตามเมื่อผมมองเรื่องของศักยภาพของ นิโคเลา ผมเลือกที่จะปล่อยเขาให้กับ นาโปลี เนื่องจากโอกาสในการลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ ซึ่งผมมองว่าเขาพร้อมแล้ว”
ตำแหน่งการเล่นที่สาระพัดประโยชน์ของ คาร์โดโซ่ ที่มีความเร็วและจังหวะการหาพื้นที่จบสกอร์เป็นจุดขาย ทำให้เขาสามารถฉีกตัวเองมาในพื้นที่ว่างทางริมเส้นได้เหมือนกับ อองรี แล้วใช้จุดเด่นโจมีตีแนวรับฝั่งตรงข้ามจนหัวปั่น กล้าเล่น กล้าลุย ทั้งที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี
ทุกปัจจัยที่กล่าวมาพร้อมกับการการันตีแบบชัดเจนจาก คอร์ซี่ ทำให้เขาได้ย้ายไปร่วมทีม นาโปลี แล้วใช้เวลาอยู่ที่เมืองเนเปิ้ล ตั้งแต่ปี 2010 ด้วยสนนราคา 1.5 ล้านยูโร หรือตีเป็นเงินไทยออกมาได้เกือบ 56 ล้านบาท ซึ่งตัวนักเตะเองก็คาดหวังกับบันไดการไต่เต้าครั้งสำคัญเอาไว้สูงเช่นกัน
ประสบการณ์เลวร้ายในยุโรป
แม้ว่า คาร์โดโซ่ จะย้ายมาอยู่กับ นาโปลี พร้อมกับความมั่นใจในตัวเอง เพราะผลงานของเขาในลีกและทีมชาติระดับเยาวชนโดดเด่นเป็นตัวท็อปของรุ่น แต่เหมือนว่าสภาพจิตใจของเขายังไม่พร้อมรับความกดดันบนเวทีที่ใหญ่ขึ้นมาอีกระดับ
ตัวของ คาร์โดโซ่ ยังไม่พร้อมรับความกดดันในการเล่นต่อหน้าแฟนๆ ในสนาม ซาน เปาโล ที่เข้ามาชมเกมมากถึง 60,000 คน แถมยังได้รับโอกาสจากโค้ชให้ลงเล่นในช่วงท้ายเกมประมาณ 5 นาทีสุดท้าย ซึ่งมันยากต่อการสร้างผลงานให้แฟนๆ ประทับใจ เป็นการก้าวกระโดดที่เร็วเกินไปสำหรับเขาที่อายุไม่ถึง 20 ปี
ประกอบกับเป้าหมายของสโมสรที่ใหญ่ขึ้น แฟนบอลมีความคาดหวังมากขึ้น การเติมกองหน้าตัวใหม่เข้ามาสองรายอย่าง โกรัน ปานเดฟ และ เอดูอาร์โด้ วาร์กัส ซึ่งชื่อชั้นเหนือกว่าเขาทั้งหมด รวมไปถึงตัวหลักเดิมอย่าง เอดินสัน คาวานี่ ทำให่โอกาสในการลงสนามของเขาลดน้อยลงอย่างมาก
สุดท้ายแล้ว อัซซูร่า เลือกที่จะแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการปล่อยให้ คาร์โดโซ่ ย้ายออกไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับหลายทีมใน เซเรีย บี เพื่อเรียกความมั่นใจ อาทิ เอ็มโปลี, แตร์นาน่า, ชิตตาเดลล่า และ เรจจิน่า แต่พอสิ่นสุดสัญญาสั้นๆ กลับมาก็ยังไม่มีที่ว่างสำหรับเขา
แน่นอนว่า คาร์โดโซ่ ย่อมมีข้อสงสัยจึงได้มีการพูดคุยกับผู้จัดการทีมอย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี่ ถึงสถานภาพของเขากับทีม แล้วก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า
“ความสัมพันธ์ของผมกับ ซาร์รี่ นั้นเป็นแบบแมนๆ ตรงไปตรงมา ต่างฝ่ายต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเขาก็บอกกับผมตรงๆ นะว่า ผมไม่ใช่ผู้เล่นที่อยู่ในแผนการทำทีมของเขาและสโมสรแห่งนี้”
“อย่างไรก็ตามผมชื่นชมเขาอย่างมาก เรื่องของการใส่ใจดูแลผมในระหว่างการซ้อมเตรียมทีม ซาร์รี่จะคอยให้คำแนะนำผมเรื่องของการเคลื่อนที่ให้ถูกต้องตามตำแหน่ง เติมข้อเสนอแนะต่างๆ ให้การเล่นของผมดีขึ้น”
“นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกับโค้ช ที่มีประสบการณ์เรื่องการคุมทีมอันยอดเยี่ยมเหมือนกับเขา”
นอกจาก ซาร์รี่ เพื่อนร่วมทีมของเขาที่มีฐานะเป็นรุ่นพี่อย่าง เอดูอาร์โด้ วาร์กัส และ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ก็คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ คอยอวยพรเขาให้โชคดีและกลับมาอย่างแข็งแกร่ง หลังจากหมดสัญญาการยืมตัวจากทีมต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็ต้องไปผมเจอกับประสบการณ์อันเลวร้าย
ช่วงเวลาที่ คาร์โดโซ่ ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ ก็เจอความกดดันจากแฟนบอลชาวอังกฤษ ที่ยึดติดกับความสำเร็จเก่าๆ ในการเป็นเจ้ายุโรป ตามที่เจ้าตัวกล่าวเอาไว้ว่า
“มีแต่กลุ่มแฟนบอลที่ทันยุค ฟอร์เรสต์ รุ่งเรืองเท่านั้นแหละ ที่คอยกดดันเหล่าผู้เล่นในสนาม”
“ปกติแล้วแฟนบอลในระดับลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ไม่ว่าทีมของคุณจะชนะ, เสมอ หรือแพ้ ก็จะคอยปรบมือให้กำลังใจนักเตะหลังจบเกมเป็นเรื่องปกติ”
“แต่แฟนบอลของ ฟอร์เรสต์ ที่ยึดติดกับภาพความสำเร็จในอดีต กลับไม่สนับสนุนทีมเช่นนั้นเลย”
ยิ่งไปกว่านั้น คาร์โดโซ่ ที่ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวช่วงสั้นๆ กับ เวเรีย สโมสรในลีกกรีซ ก็ต้องเจอกับเรื่องราวที่เลวร้ายที่สุดในวงการฟุตบอล คือ “การเหยียดสีผิว” ในเกมที่พบกับ เคอร์คีร่า หลังจากเขายิงประตูที่สองของตัวเองให้กับต้นสังกัดชั่วคราวได้
เนื่องจาก คาร์โดโซ่ ถูกทาง โฮราซิโอ คาร์โดโซ่ กองกลางของ เคอร์คีร่า พูดจาดูถูกเชิงเหยียดผิวและใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเพื่อนร่วมทีม เวเรีย ของเขาเป็นพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุหลายราย
แต่แล้วเมื่อทางสมาคมฟุตบอลประเทศกรีซ ทำการสอบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียด คำตัดสินที่ออกมานั้นกลับจบลงว่า โฮราซิโอ ไม่จำเป็นต้องรับโทษใดๆ เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นเพียงพอ
แข้งจอมพเนจร
หลังจาก คาร์โดโซ่ และต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง นาโปลี ยื้ออนาคตกันอยู่นาน ทั้งสองฝ่ายก็ได้ข้อตกลงร่วมกันในปี 2017 ด้วยการแยกทางกันด้วยดี แล้วตัวของนักเตะก็ย้ายไปอยู่กับ อัลกอร์กอน ทีมในศึก เซกุนด้า สเปน แบบไม่มีค่าตัว
แต่เส้นทางของเขาก็ยังไม่พ้นเรื่องของการพเนจร ไม่เคยอยู่ทีมไหนได้นานเกินสองฤดูกาล ย้ายไปค้าแข้งกับอีกหลายทีม อาทิ กิมนาสติก (สเปน), ลิวอร์โน่ (อิตาลี), กาซ เมตาน (โรมาเนีย), ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ (เกาหลีใต้), ยูทีเอ อูราด (โรมาเนีย) และล่าสุด บีไน ซาคห์นิน (อิสราเอล) ซึ่งสัญญาของเขากำลังจะหมดลงในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
จากโปรไฟล์ต่างๆ ของ คาร์โดโซ่ นั้นไปตรงสเปคกับข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบพอดิบพอดีว่า กำลังสนใจที่จะดึงตัวกองหน้าลูกครึ่งอิตาลีมาเสริมทัพ ซึ่งดีประสบการณ์ในเส้นทางการค้าแข้งระดับอาชีพกว่า 10 สโมสร รวมแล้ว 359 นัด ยิงไป 65 ประตู กับทำอีก 19 แอสซิสต์ ก็ไม่ธรรมดาทีเดียว
หมุดหมายต่อไปของ คาร์โดโซ่ จะลงเอยกับทัพ เซาะกราว หรือไม่? ในวัย 31 ปี ซึ่งนับว่ายังอยู่ในช่วงพีคปีท้ายๆ ของการค้าแข้ง ต้องมาตามดูสถานการณ์กันต่อไป แต่สิ่งที่การันตีได้เลยจากแฟนบอล GU 12 คือ เขาจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นร้อยเปอร์เซ็นต์ หากได้กลายเป็นขุนพลของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างเต็มตัว
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก
คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ
เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว
เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?
บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้
คุณสมบัติอะไรที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ?
ศุภณัฏฐ์ นำทัพ : 6 วันเดอร์คิดเอเชียที่ติดอันดับโลกปี 2019 ทุกวันนี้เป็นอย่างไร ?
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
https://en.wikipedia.org/wiki/Nicolao_Dumitru
https://www.transfermarkt.com/nicolao-cardoso/profil/spieler/87052
https://www.newnotizie.it/2010/09/01/napoli-la-storia-tutta-da-raccontare-dellattaccante-dumitru/
https://www.calciomercato.com/news/dumitru-a-terni-quest-anno-vedrete-il-vero-nicolao-850648