นครปฐม ยูไนเต็ด : งบน้อยที่สุด ใช้แข้งเดินสาย แต่กลายเป็นแชมป์

นครปฐม ยูไนเต็ด : งบน้อยที่สุด ใช้แข้งเดินสาย แต่กลายเป็นแชมป์
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

หลังจากศึก ไทยลีก สอง ลงสนามแข่งขันในเกมนัดสุดท้ายกันไปในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บทสรุปของลีกรองบ้านเราออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับทีมที่ได้แชมป์และรองแชมป์ ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดแบบอัตโนมัติในฤดูกาลหน้า

โดยเป็นทาง “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี ที่เก็บไปทั้งหมด 60 แต้ม จากการลงสนาม 34 นัด ครองแชมป์เหนือ ตราด เอฟซี ที่มีคะแนนเท่ากัน แต่พ่ายไปด้วยกฏเฮด ทู เฮด

เกมการแข่งขันนัดสุดท้าย นครปฐม ได้เล่นในบ้านเจอกับ สมุทรปราการ ซิตี้ ซึ่งตั๋วเข้าชมการแข่งขันที่สนาม โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม นัดดังกล่าวขายหมดทุกที่นั่ง แล้วพวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลของทีมต้องผิดหวัง หลังเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ฉลองแชมป์กันอย่างชื่นมื่น

PHOTO : FB (Nakhonpathom United)

อย่างไรก็ตามภาพความสำเร็จดังกล่าว ใช่ว่าทีมงานของ นครปฐม จะได้มาแบบง่ายๆ พวกเขาต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคปัญหาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณในการทำทีม ไม่มีทุนพอจะไปจ้างตัวต่างชาติฝีเท้าดี หรือแม้แต่นักเตะไทยที่เคยมีประสบการณ์ระดับ ไทยลีก อย่างเชี่ยวกรำมาช่วยประคองทีม

แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออก โค้ชธง ที่เป็นหัวเรือ จำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีต่างๆ มาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ของทีมที่มีข้อจำกัดในหลายด้าน ซึ่งเขามีกลเม็ดเด็ดพรายใดบ้าง กับการพาทัพ นครปฐม เลื่อนชั้นสู่ลีกสำเร็จในรอบ 14 ปี

เจ้าตัวได้เปิดเผยเอาไว้ในการให้สัมภาษณ์กับทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง อย่างหมดเปลือก เพื่อตอบทุกข้อสงสัยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

การใช้แท็คติกส์แบบ โมเดิร์น ฟุตบอล

สถิติที่น่าสนใจของ นครปฐม ชุดแชมป์ของ โค้ชธง กลับมีค่าเฉลี่ยการยิงประตูคู่แข่งต่อเกมไม่ถึงหนึ่งลูก ซึ่งหลายคนอาจสงสัยกับเรื่องดังกล่าวว่า มีการวางแนวทางการเล่นเอาไว้แบบนั้นเป็นพิเศษหรือไม่ ตั้งใจเล่นแบบเน้นเก็บแต้มหรือเปล่า

โค้ชธง ตอบประเด็นนี้เอาไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่มีความตั้งใจนั้นอยู่ในสมองเลย แต่ด้วยคุณภาพของผู้เล่นในทีมที่สู้กับคู่แข่งร่วมลีกอีก 17 ทีมไม่ได้เลยต่างหาก บางคนยังไม่เคยผ่านการเล่น ไทยลีก สอง มาเลย เพิ่งจะได้มาลองสนามจริงแค่ปีที่แล้วและปีนี้

PHOTO : FB (Nakhonpathom United)

ผลลัพธ์ในการล่าตาข่ายคู่แข่งจึงออกมาเป็นอย่างที่เห็น ปกติฟุตบอลของ โค้ชธง จะเน้นเกมรุกมาตลอด ย้อนกลับไปในอดีต สามารถไปดูได้เลยว่า นครปฐม จะมีผู้เล่นที่ติดชาร์ทดาวซัลโวตลอด แต่มาในสองปีหลังนี้เองที่เราเจอปัญหาเรื่องศักยภาพนักเตะ

เลยจำเป็นต้องใช้เรื่องของแท็คติกส์แบบ โมเดิร์น ฟุตบอล เข้ามาช่วยเรื่องการเพรสซิ่ง เน้นในขณะที่ไม่ได้ครอบครองบอล รับตั้งแต่แดนบน แต่เราก็มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์อย่างที่เห็น โค้ชธง กล่าวเพิ่มเติมเอาไว้ว่า

“นักเตะครึ่งนึงใน 11 ตัวแรกของทีม นครปฐม เงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาทเอง มันเป็นเรื่องจริง ทุกคนก็รู้กันทั้งประเทศ”

ไฮไลท์เกมการแข่งขันนัดล่าสุดของ นครปฐม ยูไนเต็ด
“เราไม่มีกองหน้าต่างชาติไว้แบกเหมือนทีมอื่น ดูได้เลยว่ากองหน้าตัวเป้าเบอร์ 9 และ เบอร์ 10 ของเรา ใช้คนไทยเป็นตัวหลักแทบจะทั้งฤดูกาล ต่างชาติที่เรามีอยู่ไม่สามารถแบกทีมได้เลย”

“ตัวต่างชาติที่มีอยู่ก็สำรองทั้งฤดูกาลเหมือนกัน ต้องยอมรับก่อนว่าเรามีปัญหาเรื่องงบประมาณ ดังนั้นนักเตะต่างชาติก็ได้มาตามราคา”

“นักเตะหลักหมื่นจะให้มาเล่นหลักแสน ถ้าได้แบบนั้นจริงๆ เขาคงไม่มาเล่นกับเราหรอก ดูอย่างสโมสร อุทัยธานี ก็ได้เขาจ้างตัวระดับสอง-สามแสน ตัวนึงก็ยิงไปแล้ว 28 ลูกแทบจะเท่ากับทีมผมทั้งฤดูกาลแล้ว”

เมื่อมีปัญหาเรื่องของงบประมาณการทำทีม รายชื่อผู้เล่นของทีม นครปฐม ที่แฟนบอลได้เห็นกันอยู่ เลยไม่มีตัวที่ชื่อคุ้นหู เคยผ่านเวทีระดับบอลลีกอาชีพสูงๆ ของไทยสักคนเดียว แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้

ในเมื่อบ้านเรายังมีเวทีที่เรียกว่า “ฟุตบอลเดินสาย” ซึ่งเป็นแหล่งรวมนักเตะฝีเท้าไม่ธรรมดา ที่เน้นการแข่งขันชิงเงินรางวัลในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ จบงานก็แยกย้ายกันไปล่าเงินรางวัลเวทีอื่นๆ ต่อไป

ขุมกำลังหลักจากนักเตะเดินสาย

เมื่อฝันถึงตัวต่างชาติคุณภาพสูงค่าจ้างแพงหูฉีกไม่ได้ ทางเลือกที่เหลืออยู่ คือ การใช้นักเตะไทยเป็นแกนหลัก ซึ่งก็ไม่มีงบไปจ้างตัวมีดีกรีติดตัวอีก โค้ชธง ที่พอดีรู้จักกับพี่คนหนึ่งที่ทำบอลเดินสายอยู่ จึงเป็นจุดเริ่มต้น ในการพึ่งพากันในลักษณะคล้ายๆ กับให้เป็นแมวมองของทีม

ส่วนใหญ่แล้วเราจะไปดูนักเตะในพื้นที่แถวโซนภาคตะวันตก แถวเมืองกาญจน์ นครปฐม หนองแขม หรือ เพชรเกษม พอพี่เขาเจอนักเตะที่ดูแล้วมีฝีเท้าใช้ได้ ก็จะสกรีนมาก่อนระดับหนึ่ง แล้วค่อยให้เราเรียกมาทดสอบฝีเท้าต่อ มีการสกรีนเรื่องพฤติกรรมนอกสนามอย่างถี่ถ้วน ต้องไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ ถึงจะทำงานร่วมกันได้

ตัวอย่างการแข่งฟุตบอลเดินสายในประเทศไทย

บางคนที่เป็นตัวหลักของทีมตอนนี้ เคยขอมาเล่นแบบไม่เอาเงินเดือนด้วยซ้ำ พอซ้อมลงทีมให้ดูแล้วผ่าน มันน่าเกลียดที่จะให้เขามาเล่นแบบไม่มีเงินเดือน เลยตกลงจ่ายค่าตอบแทนกันช่วงแรกที่ 8 พันบาท ก่อนจะเพิ่มมาเป็นหมื่นกว่าบาทช่วงหลัง

แต่ใช่ว่าทุกคนที่ถูกแนะนำมาจะผ่านเกณฑ์ทั้งหมด มันต้องมีวิธีการคัดกรองอย่างละเอียดขึ้นไปอีกขั้น ตามที่ โค้ชธง ได้กล่าวถึงประเด็นนี้เอาไว้ว่า

“ค่าเฉลี่ยเงินเดือนของ นครปฐม น้อยที่สุดใน ที สอง แน่นอนรับประกันได้ ตัวเลขจริงๆ น้อยที่สุด”

PHOTO : บอลไทย
“เราไม่ได้มีการระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องเอาเด็กเก่งมาเล่น, เอาเด็กโนเนมมาเล่น หรือเอาตัวแพงมาเล่น สิ่งที่เรามองคือพวกเขาตอบโจทย์เรื่องแทคติกส์ วิธีการเล่นของเราได้หรือเปล่า”
“ถ้ากลุ่มนักเตะที่ได้มาเป็นพวก น้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมเปิดรับแนวทางการเล่นใหม่ๆ ไม่เหมือนที่เคยเรียนรู้มาก่อนหน้านี้ เราถึงจะเอาเขามา เพราะเราไม่สนว่าพวกเขาจะมาจากไหน ขอแค่พร้อมล้างสมองและพร้อมที่จะยอมเล่นตามแทคติกส์ฟุตบอลสมัยใหม่ของเรา”

ตอนนี้ โค้ชธง ทำให้เห็นแล้วว่าไม่ว่าใครก็ตามที่มาเล่นในทีมของเขา แล้วทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด สามารถประสบความสำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องเอาตัวราคาแพงๆ มาวิ่งเพรสซิ่งในสนามให้เสียเปล่า ขอแค่ตัวที่เข้ากับแผนก็เพียงพอ

แม้ว่ากลุ่มนักเตะเหล่านี้จะมีข้อด้อยกว่านักเตะที่ถูกฝึกมาจากอะคาเดมี่ เรื่องของทักษะการเล่นที่ไม่ได้ถูกฝึกมาแบบเป็นขั้นเป็นตอนและถูกวิธี คุณภาพในการเล่นเรื่องการรับ-ส่งบอล รวมไปถึงการยิงประตูย่อมด้อยกว่า

อย่างไรก็ตามจุดเด่นที่เข้ามาทดแทนได้แบบไร้รอยต่อ คือ ลูกทีมของ โค้ชธง ที่ผ่านเกณฑ์ทุกราย พร้อมทำตามสิ่งที่เขาสั่งทุกอย่าง เน้นว่าทุกอย่างจริงๆ แล้วมีความเชื่อมั่นในตัวโค้ชแบบไม่มีความคลางแคลงสงสัยใดๆ เลย

แต่ละคนล้วนมีทัศนคติในการเล่นฟุตบอลที่ดี รู้ว่าการมาอยู่กับ โค้ชธง ได้ทำงานร่วมกัน พวกเขาจะได้อะไรกลับไปไม่มากก็น้อย โดยแนวคิดสำคัญที่ปลูกฝังลูกทีมอยู่ตลอดเป็นตามที่เคยสอนอยู่เสมอว่า

“นักฟุตบอลทุกคนบนโลกแม้แต่ระดับซูเปอร์สตาร์ ไม่เคยมีใครเกิดมาแล้วเก่งเลย มันอยู่ที่ว่า ตัวโค้ช จะใส่อะไรให้พวกเขาไป”

PHOTO : FB (Nakhonpathom United)
“ผมบอกลูกทีมอยู่เสมอว่า เห็นนักเตะแบบ เจ-ชนาธิป มั้ย ไม่ได้ต่างอะไรจากพวกคุณเลย ขอแค่ตั้งใจและทำตาม มันก็มีโอกาสที่พวกคุณจะประสบความสำเร็จแบบนั้นได้ ทุกคนมีต้นทุนเท่ากัน อย่าไปคิดว่าเขาดังแล้วเราไม่ดัง”

อย่างน้อยตอนนี้ผู้เล่นที่มาจากเวทีเดินสายอย่าง สัจพร ตุ้มสุวรรณ, นัทที น้อยวิไล, ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์, สัญชัย ชาวเลาขวัญ, ธนวัช มนตรี และ ชนธัต วรพาณิช ก็สามารถยกระดับตัวเอง ขึ้นมามีดีกรีเป็นนักเตะระดับแชมป์ ไทยลีก สอง ได้ตามที่ฝันแล้ว

เป้าหมายในฤดูกาลหน้า

สำหรับ นครปฐม ยูไนเต็ด ที่ต้องขึ้นไปเล่นในศึก ไทยลีก ซีซั่นหน้า แล้วต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เหนือขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ โค้ชธง ยืนยันแล้วว่าพร้อมให้โอกาสลูกทีมชุดนี้ต่อไป แล้วตั้งใจจะใช้แกนหลักหน้าเดิมเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องมีการเทงบไปเสริมในจุดสำคัญตามที่กล่าวไว้ว่า

“ผมอาจจะเทงบไปที่ตัวต่างชาติ เพราะว่าถ้าเราจะไปเอานักเตะไทยเก่งๆ ราคาหลักหมื่นมันไม่ได้อยู่แล้ว ต้องเทเงินหลักเป็นแสนๆ แล้วมันก็ยากมากที่จะปิดดีล”

“สู้เอาราคาระดับนี้ไปเติมตัวต่างชาติที่เราขาดดีกว่า เพราะคนไทยเราพอมีขุมกำลังอยู่แล้ว ถ้าจะเสริมคนไทยคงเสริมที่เราขาดจริงๆ”

สุดท้าย โค้ชธง เชื่อมั่นว่าด้วยเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้แค่การรอดตกชั้น ลูกทีมของเขานั้นสู้กับทีมระดับลีกสูงสุดได้ จากการแสดงให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง ทั้งการเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ได้สองครั้ง เจอทีมอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็สู้ได้แม้จะแพ้ 2-3 ขนาดเจอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังพ่ายไม่ขาดด้วยสกอร์ 0-2

ดังนั้นแฟนบอล นครปฐม ต้องคอยลุ้นคอยเชียร์และให้กำลังใจกันต่อไปว่า ทีมรองบ่อนที่มีแนวทางการทำทีมอันเป็นเอกลักษณ์ทีมนี้ จะไปได้ไกลแค่ไหนในฤดูกาลหน้า

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://tna.mcot.net/sport-1163903

การสัมภาษณ์ออนไลน์

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ