สอยหมดไม่สนชาติใคร : เหตุใดทีมชาติญี่ปุ่นจึงทำผลงานสุดโหดในช่วงนี้ ?

สอยหมดไม่สนชาติใคร : เหตุใดทีมชาติญี่ปุ่นจึงทำผลงานสุดโหดในช่วงนี้ ?
มฤคย์ ตันนิยม

4 ประตูที่เรียงหน้ายิงแบบไม่เกรงกลัวความเป็นยุโรปของ ตุรกี ไม่เพียงทำให้ซามูไรบลู คว้าชัย 2 เกมติดในเกมอุ่นเครื่องนอกบ้านเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเขายิงคู่แข่งไปแล้ว 18 ประตูจาก 4 นัดหลังสุด

หนึ่งในนั้นยังเป็นการบุกอัดเยอรมันคาถิ่น 4-1 ย้ำแค้นได้อีกครั้ง หลังจากชนะได้แบบช็อคโลกใน ฟุตบอลโลก รอบแบ่งกลุ่มที่กาตาร์ เมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา

ฟอร์มดังกล่าวอาจจะดูเซอร์ไพรส์สำหรับคนทั่วไป เพราะทีมชาติญี่ปุ่นชุดนี้ ไม่ใช่ชุดเดิมในเวิลด์คัพบนดินแดนอาหรับ หลังตัดผู้เล่นจอมเก๋าส่วนใหญ่ออกไป ที่ทำให้มีผู้เล่นอายุเกิน 30 ปีติดทัพมาเพียงแค่ 4 ราย

เพราะอะไรพวกเขาจึงยังแรงดีไม่มีตก? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

คุ้นชินกับระดับโลก

ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในทีมที่น่าจับตาทีมหนึ่งของโลก หลังทำผลงานได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ ด้วยการผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้ทุกครั้ง นับตั้งแต่ปี 1998 แถมยังเคยทะลุเข้าไปถึงรอบน็อคเอาท์ได้ถึง 4 ครั้ง รวมถึงครั้งล่าสุด ในการแข่งขันที่กาตาร์

แน่นอนว่าความยอดเยี่ยมของพวกเขา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ พวกเขามีแผนงานและเป้าหมายที่ชัดเจน ที่จะพัฒนาทีมชาติไปสู่จุดสูงสุด และหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยในเรื่องนี้ คือการผลักดันผู้เล่นออกไปเล่นในต่างประเทศมากที่สุด เท่าที่เป็นไปได้

จากการรายงานของ CIES Football Observatory เมื่อปี 2023 ระบุว่าญี่ปุ่นมีผู้เล่นในต่างแดนในปัจจุบันมากถึง 169 คน รั้งอยู่ในอันดับ 21 ของโลก โดยเป็นผู้เล่นอายุไม่เกิน 23 ปีถึง 28 คน มากกว่าชาติชั้นนำอย่าง อุรุกวัย หรือ เช็ก เสียอีก

Photo : AFP

“ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 15-20 ปีก่อน คุณต้องอายุ 25-26 ปี ต้องมีผลงานที่ดีในเจลีก 2-3 ฤดูกาล และได้รับการพิสูจน์ในทีมชาติ” แดน ออร์โลวิตซ์ ผู้สื่อข่าว Japan Times อธิบาย

“ตอนนี้ สโมสรยุโรปเข้าใจนักเตะญี่ปุ่นแล้วว่าพวกเขามีพรสวรรค์จริงๆ ไม่ใช่แค่วูบวาบ พวกเขาจึงเริ่มไปหานักเตะอายุน้อย”

อย่างไรก็ดี มันไม่ใช่แค่เรื่องปริมาณเท่านั้น เมื่อผู้เล่นชาวอาทิตย์อุทัยจำนวนไม่น้อยที่ได้เล่นใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ไดจิ คามาดะ ของ นาโปลี ใน เซเรียอา, ทาเคฟุสะ คุโบะ ของ เรอัล โซเซียดัด ในลาลีกา หรือหนึ่งในนักเตะที่ร้อนแรงที่สุดในพรีเมียร์ลีกอย่าง คาโอรุ มิโตมะ ของ ไบรท์ตัน

ก่อนถึง ศุภณัฏฐ์ ? : 10 แข้งเอเชียที่เคยแจ้งเกิดในลีกเบลเยี่ยม | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
นักเตะจากเอเชียหลายต่อหลายคน ที่ตัดสินใจย้ายไปเผชิญโชคในทวีปยุโรป หลายรายเคยผ่านการฟูมฟักจากลีกเบลเยี่ยม ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ก่อนจะกลายเป็นบันไดให้ไต่เต้าไปเล่นในระดับที่สูงขึ้น หรืออยู่ค้าแข้งในลีกเดิมต่อไปยาวๆ ไม่ต้องเก็บของกลับไปเล่นในถิ่นฐานเดิ

ทั้งนี้ การได้เล่นในลีกระดับสูง ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้เล่นเหล่านี้ สามารถพัฒนาฝีเท้าได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังทำให้พวกเขาคุ้นชินกับมาตรฐานของระดับโลก จากการได้เผชิญกับผู้เล่นฝีเท้าระดับเวิลด์คลาสในทุกสัปดาห์

“ทำไมญี่ปุ่นจึงพัฒนา เพราะว่าผู้เล่นของพวกเขาไปยุโรป ถ้าคุณถามผมว่าผมพัฒนาฟุตบอลญี่ปุ่นอย่างไร ผมสามารถพูดได้ว่า เป็นเพราะนักเตะ 20 คนของพวกเขาไปยุโรป” ฟิลิปส์ ทรุสซิเยร์ อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นให้ความเห็น

“ผู้เล่นเหล่านี้จะได้เล่นในเกมระดับสูงโดยอัตโนมัติกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ที่เยอรมัน และฝรั่งเศส และได้ทำงานกับโค้ชระดับสูง”

Photo : AFP

และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ ซามูไรบลู สามารถสู้ได้กับทุกทีมบนโลก ที่ไม่ว่าคู่แข่งจะแข็งแกร่งแบบไหน พวกเขาก็ไม่เคยหวั่น และพร้อมดวลแบบไม่ตื่นสนาม จากการเคยมีประสบการณ์มาก่อน

“ปล่อยให้ผู้เล่นเหล่านี้มีความคิดที่แตกต่างไปโดยอัตโนมัติ ให้พวกเขาเปลี่ยนไปเอง กระบวนการนี้จะใช้งานได้ดีอีกครั้ง เมื่อพวกเขากลับมาเล่นให้ทีมชาติ” ทรุสซิเยร์กล่าวต่อ

“หลังจากเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค และ โอลิมปิก มาร์กเซย์ พวกเขาก็จะมีทัศนคติที่ต่างออกไปเวลากลับมาเล่นให้ทีมชาติ ความรับผิดชอบจะเปลี่ยนไปเมื่อคุณกลับมาประเทศ”

ปรัชญาที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากตัวผู้เล่นแล้ว ความสำเร็จของทีมชาติญี่ปุ่นยุคนี้ อาจจะต้องยกเครดิตให้ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ที่เข้ามากุมบังเหียน ต่อจาก อาคิระ นิชิโนะ เมื่อปี 2018

อดีตโค้ชซานเฟรชเช ฮิโรชิมา เพิ่งจะกลายเป็นกุนซือคนแรกของ ซามูไรบลู ที่ได้รับการต่อสัญญาหลังฟุตบอลโลก หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในกาตาร์ 2022

ทั้งนี้ อันที่จริง นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โมริยาสุ เองก็ตกเป็นเป้าวิจารณ์มาตลอด ไม่ว่าจะการเลือกนักเตะเข้ามาติดทีมชาติบางคนที่ดูขัดใจ, การจัดตัว 11 ตัวจริงที่ดูกลัวคู่แข่ง หรือสไตล์การเล่นที่ดูระมัดระวังมากเกินไป

Photo : AFP

แต่ โมริยาสุ ก็ไม่สน เพราะฟุตบอลของเขา คือเน้นตั้งรับแล้วโต้กลับ ที่เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ ซานเฟรชเซ สามารถคว้าแชมป์เจลีกถึง 3 สมัย และแน่นอนว่ามันจะต้องเป็นสไตล์การเล่นของทีมชาติญี่ปุ่น ตราบใดที่เขาเป็นหัวเรือใหญ่

และดูเหมือนว่ามันจะเข้ากับ “ซามูไรบลู” ที่เห็นได้จากเกมนัดกระชับมิตร 2 เกมล่าสุด ที่ญี่ปุ่นสร้างโอกาสได้จากสวนกลับหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงประตูปิดท้ายในเกมกับตุรกี ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากลูกโต้กลับ

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ปรัชญาของโมริยาสุคือ “ทุกคนต้องเล่นเกมรับได้” โดยไม่สนว่าจะเป็นตำแหน่งไหน และนี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใด คาโอรุ มิโตมะ จึงลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็ค ในฟุตบอลโลก 2022 รวมไปถึงทำไมผู้เล่นบางคนฟอร์มดี แต่ไม่ติดทีมชาติ

“ถ้าเรามีนักเตะที่ไม่สามารถเล่นเกมรับได้ พอเราเจอทีมเก่งๆ มันจะสร้างความเสียเปรียบในเชิงตัวเลข” โมริยาสุ กล่าวกับ Yomiuri

นอกจากนี้ ยังมีชื่อเสียงในการให้โอกาสผู้เล่นดาวรุ่ง หรือผู้เล่นหน้าใหม่ ที่เป็นมาตั้งแต่สมัยคุมสโมสร แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะทำให้ผลการแข่งขันออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ หรืออย่างที่คาดไว้ก็ตาม

“ระหว่างทางอาจจะต้องพบกับความเจ็บปวด แต่ผมก็เตรียมตัวที่จะรับมัน ผมจะรับผิดชอบเอง” โมริยาสุกล่าว

“เราจะให้โอกาสผู้เล่นดาวรุ่ง และสร้างรากฐานที่มั่นคง จากนั้นค่อยเอาพวกตัวเก๋าเข้ามาเพื่อแย่งชิงตำแหน่งกัน”

Photo : AFP

นั่นจึงทำให้การถ่ายเลือดของทีมชาติญี่ปุ่น หลังฟุตบอลโลก ไม่ค่อยสะดุดมากนัก ที่แม้อาจจะไร้ชัยในเกมนัดกระชับมิตรเดือนมีนาคม แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็คืนฟอร์ม ไล่ถลุงตาข่ายคู่แข่งไปถึง 18 ประตูจาก 4 เกมหลังสุด

อย่างไรก็ดี ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน

ความปรารถนาต่อแชมป์โลก

แม้ว่าญี่ปุ่น จะทำผลงานได้อย่างประทับใจในฟุตบอลโลก 2022 ทั้งการปราบ เยอรมัน และสเปน รวมถึงเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ ก่อนจะพ่ายต่อรองแชมป์โลก 2018 อย่างโครเอเชีย แต่สำหรับผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นนี่อาจจะยังไม่พอ

“ผมเบื่อที่จะได้ยินเรื่องการเป็น ‘ผู้แพ้ที่ยอดเยี่ยม’ ผมอยากจะเป็นผู้ชนะมากกว่าเป็นผู้แพ้ที่ดี” มายะ โยชิดะ อดีตกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น กล่าวหลังเกมพ่ายโครเอเชีย

เพราะเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกให้ได้ภายในปี 2050 ซึ่งอยู่ในแผน 100 ปีของทีมชาติญี่ปุ่น ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2005

Photo : AFP

ทว่า ก่อนจะไปถึงจุดนั้น “ซามูไรบลู” ก็ต้องพิสูจน์ด้วยผลงานให้เห็นว่าพวกเขากำลังเข้าใกล้เป้าหมายนี้ ที่ทำให้เป้าระยะกลางของพวกเขาจึงมีทั้งการคว้าเหรียญให้ได้ในโอลิมปิก 2024 ไปจนถึงผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ๅเป็นอย่างน้อยในฟุตบอลโลก 2026

"นักเตะทุกคนในทีมต้องการคว้าแชมป์โลก เพราะตอนนี้แต่ละคนทำผลงานกับสโมสรในระดับที่สูงมาก ๆ ทุกคนเล่นอย่างมั่นใจ แม้แต่ผู้เล่นในเกมรับก็เชื่อมั่นว่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้าในการดวลตัวต่อตัวได้" วาตารุ เอ็นโด กัปตันทีมชาติญี่ปุ่นกล่าวกับ Soccer Digest

"มันเป็นผลพวงจากความมั่นใจที่พวกเราทำได้ดีกับสโมสรในตอนนี้ นักเตะทุกคนกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว"

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พวกเขามุ่งมั่นเป็นพิเศษในการพบกับทีมระดับโลก เพราะนี่คือบททดสอบสำคัญว่าพวกเขาอยู่ไกลจากเป้าหมายเพียงใด หรือกำแพงแบบไหนที่พวกเขาต้องก้าวข้ามให้ได้

Photo : AFP

อย่างไรก็ดี ในทางกลับกัน การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ ญี่ปุ่น ย่อมทำให้พวกเขาถูกจับตามองเป็นพิเศษ และอาจทำให้การไปสู่เป้าหมายนั้นยากขึ้น เช่น ในเกมกระชับมิตรกับ อุรุกวัย และ โคลอมเบีย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ คาโอรุ มิโตมะ ดาวเด่นของซามูไรบลู ถูกประกบจนกระดิกไม่ออก

ทว่า โมริยาสุ ก็มองในแง่บวกว่า นี่คือข้อบ่งชี้ว่าคู่แข่งมองญี่ปุ่นว่าเป็นทีมที่น่ากลัวแค่ไหน มันคือสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นในโลกของฟุตบอล

“ระดับของความเอาจริงเอาจังมันต่างออกไป (จากในอดีต)” โมริยาสุกล่าวกับ Yomiuri

“มันแสดงให้เห็นว่าความก้าวหน้าของญี่ปุ่นได้รับการยอมรับ มันทำให้เราชนะยากขึ้น แต่สถานการณ์จะทำให้เราพัฒนาต่อไป”

Photo : AFP

สิ่งเหล่านี้คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นพุ่งไปข้างหน้า จนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตอนนี้ และตราบใดที่พวกเขาเดินหน้าไปอย่างมั่นคง บางทีเราอาจจะเห็นทีมจากเอเชีย ก้าวขึ้นไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดของโลกลูกหนังก็เป็นได้

“เมื่อมีแรงกดดันในเชิงบวก นั่นคือมีการเติบโตขึ้น ผมจะระวังเพื่อที่เราจะไม่ชะล่าใจและสูญเสียความเอาจริงเอาจังของเราไป” โมริยาสุ ทิ้งท้าย

แหล่งอ้างอิง

https://www.japantimes.co.jp/opinion/2022/12/12/editorials/japan-soccer/

https://japannews.yomiuri.co.jp/sports/soccer/20230511-108995/

https://www.bbc.com/sport/football/63559988

http://www.football-asian.com/news/articleView.html?idxno=34

https://www.soccerdigestweb.com/news/detail/id=138880

https://football-observatory.com/WeeklyPost422

แชร์บทความนี้
ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ