Outside In : เมื่อบุรีรัมย์หักด่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก

Outside In : เมื่อบุรีรัมย์หักด่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก
มฤคย์ ตันนิยม

เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ถือเป็นการแข่งขันที่ไม่ค่อยถูกโฉลกกับสโมสรจากไทย เมื่อในช่วงหลายปีหลัง ตัวแทนจากแดนสยามไปได้ไม่ค่อยไกล และส่วนใหญ่มักจะจอดป้ายที่รอบเพลย์ออฟ หรือรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น

อย่างไรก็ดี อาจจะไม่ใช่สำหรับปี 2013 ที่นอกจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเป็นสโมสรจากไทยทีมแรกในรอบทศวรรษที่ทะลุเข้าสู่รอบน็อคเอาท์แล้ว พวกเขายังไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกด้วย

และนี่คือเรื่องราวในวันนั้นจากมุมมองของสื่อต่างชาติ ติดตามได้ใน Outside In ของ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ขวากหนามรอบแบ่งกลุ่ม

แม้ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาจจะเป็นสโมสรที่เพิ่งกำเนิดมาไม่ถึง 20 ปี แต่พวกเขาก็สร้างประวัติศาสตร์ไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือฟอร์มอันสุดยอดในฤดูกาล 2013

ฤดูกาลดังกล่าว เป็นฤดูกาลที่ทีมจากอีสานใต้ ที่เพิ่งจะรีแบรนด์ตัวเองจาก บุรีรัมย์ พีอีเอ มาเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอฟซี เมื่อหนึ่งปีก่อน มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ หลังจากพลาดโอกาสป้องกันแชมป์ไทยลีกแบบไม่มีลุ้นด้วยการจบในอันดับ 4 ของตารางในปี 2012

แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในฟุตบอลถ้วยใหญ่สโมสรเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก อีกครั้ง จากตำแหน่งแชมป์เอฟเอคัพ แม้ว่าจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่รอบเพลย์ออฟก็ตาม

Photo : AFC

และเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างพวกเขาตั้งแต่เริ่มต้น เมื่ออันที่จริง บุรีรัมย์ ต้องเล่นเป็นทีมเยือน ในรอบเพลย์ออฟแบบนัดเดียวจบ เนื่องจากอันดับของลีกที่ต่ำกว่า แต่สนามเหย้าของ บริสเบน โรร์ คู่ต่อกรของพวกเขาไม่พร้อมใช้งาน จึงสลับมาเตะในบ้านของ บุรีรัมย์ แทน

แน่นอนว่า พวกเขาก็ไม่ทำให้กองเชียร์ในสนามนิว ไอโมบาย สเตเดียม ต้องผิดหวัง เพราะหลังเสมอกับคู่แข่งไปอย่างสุดมัน 0-0 ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ก็จะมาเป็นฮีโร เซฟจุดโทษไว้ได้ทั้งหมด ช่วยให้ “ปราสาทสายฟ้า” ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ

คลิปการแข่งขัน https://youtu.be/sHtm9WdH4-E?si=wDHlMC5SXGvH8Mpa

“ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กลายเป็นฮีโร ด้วยสามเซฟ ในการดวลจุดโทษ ให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของไทย ผ่านเข้าสู่รอบ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ด้วยการเอาชนะ บริสเบน โรร์ ของออสเตรเลีย หลังเสมอกันอย่างสุดมันแบบไร้สกอร์” คำบรรยายของ AFC พูดถึงเกมนัดนี้

อย่างไรก็ดี มันคือการเปิดประตูสู่นรก เมื่อการเข้ามาด้วยการเพลย์ออฟ ทำให้คู่แข่งร่วมกลุ่มของพวกเขา ล้วนเป็น เสือ สิงห์ กระทิง แรด ไม่ว่าจะเป็น เอฟซี โซล แชมป์เคลีก, เจียงซู เสิ่นตี้ รองแชมป์ลีกจีน และเวกัลตะ เซนได รองแชมป์เจลีก

แม้ว่า บุรีรัมย์ จะเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการบุกไปเสมอกับ เวกัลตะ 1-1 แต่พวกเขาก็ไม่รู้จักกับชัยชนะเลยใน 2 นัดแรก หลังเปิดบ้านเสมอ เอฟซี โซล 0-0 และบุกไปพ่าย เจียงซู 2-0 รั้งอยู่ในครึ่งล่างของตาราง

Photo : AFP

ในตอนนั้น หลายสำนักต่างพากันฟันธงว่า บุรีรัมย์ คงจะไม่รอด เพราะขนาดปีที่แล้วที่พวกเขาเอาชนะทั้ง คาชิวา เรย์โซล และกวางโจว เอเวอร์แกรนด์ สุดท้ายยังจบบ๊วยของกลุ่ม แล้วนี่มีแค่ 2 คะแนนจาก 3 เกม

ทว่า พวกเขาก็ทำให้หลายคนต้องคิดผิด

ปาฏิหาริย์ที่กรุงโซล

การมีเพียง 2 คะแนน จาก 3 เกม ในฟุตบอลถ้วยใหญ่สโมสรเอเชียที่โหดหิน อาจจะทำให้หลายทีมตัดใจที่จะเข้ารอบ แต่ไม่ใช่สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

พวกเขาเริ่มต้นด้วยการลืมความผิดหวัง จากความพ่ายแพ้เจียงสู 2-0 กลับมาเปิดบ้านเอาชนะผู้มาเยือนจากจีนด้วยสกอร์เดียวกันในอีก 7 วันต่อมา ก่อนจะเสมอกับ เวกัลตะ แบบน่าชนะ หลังโดนตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

ผู้เล่นคนที่ 12 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของพวกเขา เมื่อการลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลเกือบ 20,000 คน ที่ส่งเสียงเชียร์กึกก้อง ใน ไอโมบาย สเตเดียม ช่วยให้พวกเขาพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นต่อ พร้อมเก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนนจาก 5 นัด

“หากเรารักษาสกอร์ 0-0 ไว้ได้นาน เราก็จะหาช่องว่างได้ แต่เกมวันนี้ พลังของบุรีรัมย์ก็เพิ่มขึ้น หลังเราเสียฟรีคิกในนาทีที่ 53 จากนั้นบรรยากาศในสนามก็เดือดขึ้น” มาโคโตะ เทงุราโมริ กุนซือของ เวกัลตะ ในตอนนั้นกล่าวกับ vegalta.co.jp หลังเกมเสมอ บุรีรัมย์ 1-1

“ตอนเรามาจะมาเล่นที่ บุรีรัมย์ สเตเดียม เนซินโญ ผู้จัดการทีมของ คาชิวา เรย์โซล ที่เคยมาเล่นที่นี่เมื่อปีที่แล้วบอกว่า ‘มันเป็นสนามที่เต็มไปด้วยพลัง’ สนามก็เป็นเช่นนั้นเหมือนที่ได้ยินมา แต่เวกัลตะ เซนได ก็ไม่ยอมแพ้ต่อพลังนั้น และผมคิดว่าวันนี้เราแสดงให้เห็นพลังที่แข็งแกร่งเช่นกัน”

Photo : AFP

แต่โจทย์ของพวกเขาก็ไม่ได้ง่าย เพราะเกมนัดสุดท้าย บุรีรัมย์ ต้องไปเยือนทีมแกร่งอย่าง โซล จ่าฝูง ที่พวกเขาต้องเสมอให้ได้เป็นอย่างน้อย พร้อมกับลุ้นให้ เวกัลตะ ที่เปิดบ้านรับ เจียงซู ไม่มีแต้ม

ทั้งนี้ แม้จะเล่นเป็นทีมเยือน แต่ บุรีรัมย์ ก็ไม่ได้เกรงกลัว พวกเขาเปิดเกมแลกกับเจ้าถิ่นอย่างสนุก และทำให้ถึงจะโดนนำไปก่อนจาก จุง ซุงยอง ในนาทีที่ 55 แต่พวกเขาก็มาตีเสมออย่างทันควัน จากเอกชัย สำเหร่ในนาทีต่อมา

เช่นกันกับนาทีที่ 73 ที่ โซล ออกนำอีกครั้งจากลูกโหม่งของ คิม ฮยุนซุง แต่ผู้มาเยือนจากไทยก็ไม่ได้เสียเปรียอยู่นาน เมื่อมาได้ประตูตีเสมอจากลูกฟรีคิกกึ่งยิงกึ่งผ่าน ของธีราทร บุญมาทัน

คลิปการแข่งขัน https://www.youtube.com/watch?v=M6nopfdfCMQ

จบเกม บุรีรัมย์ บุกไปยันเสมอกับ เอฟซี โซล 2-2 เก็บเพิ่มเป็น 7 คะแนน มีแต้มเท่ากับ เจียงซู ที่บุกชนะ เวกัลตะ แต่พวกเขาเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังมีเฮดทูเฮดที่ดีกว่า ที่ต้องคำนวนไปถึงประตูได้เสีย

Photo : AFP

จากผลดังกล่าว ไม่เพียงทำให้ บุรีรัมย์ ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์เท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์ กลายเป็นสโมสรแรกจากไทยในรอบ 10 ปี ที่ผ่านรอบแรกมาได้ จนถูกพูดถึงไปทั่วเอเชีย

“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ไม่มีใครคาดคิด สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมจากไทยทีมแรกที่เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก หลังจากค่ำคืนอันน่าระทึกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา” รายงานจาก AFP

“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบทศวรรษแห่งการรอคอยในเอเอฟซี” พาดหัวข่าวของ Al Jazeera

“บุรีรัมย์ กลายเป็นสโมสรจากไทยทีมแรกที่เข้าถึงรอบน็อคเอาท์ นับตั้งแต่ บีอีซี เทโร ศาสน ทำได้ ในปี 2003”

อย่างไรก็ดี พวกเขาไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้

จารึกประวัติศาสตร์

หลังจากค่ำคืนอันชื่นมื่น บุรีรัมย์ ต้องกลับมาสู่โหมดจริงจังอย่างรวดเร็ว เมื่อคู่ต่อกรในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของพวกเขาคือ บุนยอดกอร์ ทีมแกร่งจาก อุซเบกิสถาน แชมป์กลุ่มที่ปราบทั้ง ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา และปักกิ่ง กั๋วอัน ในรอบแบ่งกลุ่ม

แถมทีมยังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลัง อรรถพล ปุษปาคม เจ้าของสถิติโค้ชชาวไทยคนแรกที่พาทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้ถึง 2 ทีม (บุรีรัมย์, บีอีซี เทโร ศาสน) ถูกปลดจากตำแหน่งอย่างสุดช็อค โดยมี สก็อต คูเปอร์ เข้ามาสานต่อ

“สโมสรไทยทีมแรกที่ผ่านรอบแบ่งกลุ่มระดับทวีปในรอบสิบปี ต้องรวบรวมทีมใหม่ หลัง อรรถพล ปุษปาคม ถูกไล่ออก ทั้งที่พาทีมเข้าถึงรอบน็อคเอาท์” รายงานจาก AP

ในรอบนี้ ปราสาทสายฟ้า เป็นฝ่ายได้เล่นในบ้านก่อน ก่อนจะอาศัยความได้เปรียบจากเสียงเชียร์ ออกนำไปก่อนในนาทีที่ 17 จาก อนาวิน จูจีน และแม้ว่า สโมสรจากเอเชียกลางจะมาตีเสมอในครึ่งหลัง แต่พวกเขาก็มาได้ประตูชัยจากเอกชัย สำเหร่ ในนาทีที่ 76 กุมความได้เปรียบไว้ก่อนในนัดแรก

ด้วยเหตุนี้ ทำให้เกมในอีก 7 วันต่อมาบุรีรัมย์ ลงเล่นหวังเพียงแค่ผลเสมอ และทำให้พวกเขาเป็นรองอย่างชัดเจนในการแข่งขันที่ทาชเคนต์ แต่สุดท้ายความพยายามของตัวแทนจากไทยก็บรรลุผล เมื่อรักษาสกอร์ 0-0 ไว้จนจบเกม พร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

เปิดโผจับสลาก ACL รอบแบ่งกลุ่ม | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
สหพันธ์ลูกหนังเอเชีย (เอเอฟซี) แถลงยืนยันว่า การจับสลากแบ่งสายฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/2024 จะมีขึ้นที่กัวลาร์ลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ เวลา 15.00 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) สำหรับสโมสรตัวแทนจากไทย ตอนนี้ได้สิทธิ์เข้ารอบแบ่

“บุรีรัมย์ ข้ามผ่านกระแสการบุกอย่างต่อเนื่องที่ทาชเคนท์ เพื่อสกอร์เสมอ 0-0 และเอาชนะ 2-1 ด้วยสกอร์รวมสองนัด เพิ่มเรื่องราวการต่อสู้แบบเทพนิยายที่ไม่เคยมีมาก่อนของสโมสร ที่เริ่มจากการผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาด้วยการชนะ บริสเบน โรร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์” Gulf Times ระบุ

อย่างไรก็ดี พวกเขาหวังไปไกลกว่านั้น และต้องการตามรอย บีอีซี เทโร ศาสน ทีมไทยทีมแรกและเดียวในประวัติศาสตร์ ที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เมื่อปี 2003

ในตอนนั้น บุรีรัมย์ เหลือเพียงแค่ 2 ด่าน ก็จะบรรลุผล แต่มันก็ไม่ง่าย เมื่อพวกเขาต้องโคจรมาพบกับ เอสเตกัล ยอดทีมจากอิหร่าน ที่นำทัพโดย จาวัด เนกูนาม อดีตแข้งโอซาซูน่า ในลีกสเปน และ อันดราดิก เตมูเรียน อดีตกองกลางฟูแล่ม

ต้องยอมรับว่าเกมแรกพวกเขาถือว่ามีลุ้น เพราะแม้จะโดน เอสเตกัล ออกนำไปก่อนตั้งแต่ 2 นาทีแรก แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็สามารถต้านทานเกมบุกของเจ้าถิ่น ต่อหน้าแฟนบอลเกือบแสนคนใน อาซิซี่ สเตเดียม และทำให้เกมจบลงแค่สกอร์ 1-0

Photo : AFP

เกมนัดที่ 2 บุรีรัมย์ ต้องการเพียงแค่ชัยชนะ และมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากการโหม่งลูกเตะมุมของ ออสการ์ อิบาเนซ ตอนนี้สกอร์กลับมาเท่ากันแล้ว

ตอนนั้นพวกเขาต้องการอีกแค่ประตูเดียวก็จะเข้ารอบ แต่สถานการณ์ก็พลิกผัน เมื่อเอสเตกาล มาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 53 ก่อนที่ อันดราดิก เตมูเรียน จะมายิงไกลสุดสวยปิดกล่อง ให้สโมสรจากอิหร่านบุกมาเอาชนะ 1-2 และชนะไปด้วยสกอร์ รวม 3-1

คลิปการแข่งขัน https://www.youtube.com/watch?v=EaMhEuEb9GE

“ความพ่ายแพ้นี้ทำให้เส้นทางอันรุ่งโรจน์ที่ทีมจากไทยหวังเอาไว้ต้องจบลง ทั้งที่ใช้โค้ชไปถึง 3 คนในรายการนี้ จากการที่พวกเขาพยายามที่จะตามรอย บีอีซี เทโร ศาสน ที่ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ในการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2003”

พร้อมกับหยุดการผจญภัยของพวกเขาไว้เพียงเท่านี้

ล้มเพื่อลุก

แม้ว่าสุดท้าย บุรีรัมย์ จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน หลังจบแค่รอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ผลงานในปีนั้นของพวกเขาก็ถูกพูดถึงไปทั่วเอเชีย ทั้งการพลิกเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ทั้งที่ดูหมดลุ้นไปแล้ว ไปจนถึงการเป็นทีมไทยที่เข้าถึงรอบน็อคเอาท์ ACL ในรอบสิบปี

นอกจากนี้ “ปราสาทสายฟ้า” ยังได้รับคำชมในแง่การเล่นที่พัฒนาขึ้นจากฤดูกาลก่อน โดยเฉพาะการออกไปเล่นเป็นเกมเยือน ที่ยกระดับขึ้นมาอย่างชัดเจน หลังแพ้ไปเพียงแค่ 2 เกมจาก 5 นัด

“หลังเกมอย่างแรกผมรู้สึกเลยว่า บุรีรัมย์ ที่เคยเล่นใน ACL มาครั้งเดียว ค่อนข้างชินกับการเล่นเป็นทีมเยือน” เทงุราโมริ กล่าวหลังเกมเปิดบ้านเสมอบุรีรัมย์ 1-1

“ผมคิดว่าพวกเขาเปิดเกมมากขึ้นจากเมื่อปีที่แล้ว และปีนี้ก็รู้สึกว่าพวกเขามาเล่นเกมเยือนด้วยวินัยที่มากกว่าเดิม”

Photo : AFP

แน่นอนว่า บุรีรัมย์ ไม่ได้หยุดไว้เพียงเท่านี้ เมื่อพวกเขาเอาความผิดหวัง มาใส่แบบจัดเต็มในการแข่งขันในประเทศ และทำให้พวกเขาผงาดคว้า 4 แชมป์ ได้เป็นครั้งแรกในปี 2013

ปัจจุบัน บุรีรัมย์ กลายเป็นขาประจำใน เอเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก หลังได้เล่นในรายการนี้มากถึง 10 ครั้งจาก 11 ครั้ง แถมยังเคยเข้าถึงรอบน็อคเอาท์อีกคำรบในปี 2018

แต่ถึงอย่างนั้น หากพูดถึงฤดูกาลที่น่าจดจำของพวกเขา คงจะเป็นฤดูกาลไหนไม่ได้นอกจากปี 2013 ที่ทำให้ชื่อของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียมาจนถึงทุกวันนี้

แหล่งอ้างอิง

https://www.fifa.com/fifaplus/en/articles/the-rise-and-rise-of-thai-club-buriram-united-fc

https://web.archive.org/web/20130121185031/http://www.footballaustralia.com.au/brisbaneroar/news-display/AFC-confirm-playoff-date/55463

https://www.aljazeera.com/sports/2013/5/1/buriram-united-end-decade-of-afc-waiting

https://www.sportskeeda.com/football/minnows-buriram-make-history-for-thailand

https://www.vegalta.co.jp/backnumber/2013/league/2013afc-01.html

https://www.vegalta.co.jp/backnumber/2013/league/2013afc-05.html

https://apnews.com/article/c06607a7aa6247bfa3df6008c8d9f247

https://www.gulf-times.com/story/353505/buriram-and-seoul-ease-into-quarter-finals

https://www.aljazeera.com/sports/2013/9/18/seoul-seal-afc-semi-final-spot

แชร์บทความนี้
ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ