Outside In : “นักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์” วันที่สื่อทั้งเกาหลีซูฮก ‘ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน’

Outside In :  “นักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์” วันที่สื่อทั้งเกาหลีซูฮก ‘ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน’
มฤคย์ ตันนิยม

“เขาเป็นผู้เล่นพรสวรรค์โดยธรรมชาติ หากเขาคุ้นเคยกับการเล่นเป็นทีม เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่น่ากลัว” พัค เซฮัค กุนซือคนแรกของ ลัคกี้ โกลด์สตาร์ หรือ เอฟซี โซล กล่าวถึง ปิยะพงษ์

ในยุคที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต การไปเล่นในต่างแดนอาจจะเป็นเรื่องที่ห่างไกลและเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะนักเตะจากไทย ที่แทบไม่ได้มีบทบาทในวงการลูกหนังโลก

อย่างไรก็ดี กลับมีชายคนหนึ่งที่ไม่ได้แค่ย้ายไปร่วมทีม แต่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมหาศาล  จนคนที่นั่นยกให้เป็นตำนาน และเขาคนนั้นก็คือ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ดาวยิงระดับพระกาฬของทีมชาติไทย

และนี่คือเรื่องราวของเขาบนผืนแผ่นดินเกาหลี ผ่านมุมมองของสื่อในท้องถิ่น ติดตามไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้ที่นี่

เพชฌฆาตหน้าหยก

“เกิดมาเพื่อยิงประตู” อาจจะเป็นคำนิยามที่ใกล้เคียงที่สุด สำหรับ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เมื่อแข้งชาวประจวบคิรีขันธ์คนนี้สามารถสร้างชื่อได้ตั้งแต่วัยยังไม่บรรลุนิติภาวะ

ด้วยความที่เป็นลูกชายของครอบครัวทหาร ทำให้ชีวิตนักฟุตบอลของ ปิยะพงษ์ เริ่มต้นกับสโมสรทหารอากาศ จากการคัดตัวของโควต้านักกีฬาในโครงการช้างเผือก และขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี

และแค่ปีแรกกับสโมสร เขาก็สร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ หลังซัดไป 12 ประตูช่วยให้ทหารอากาศคว้าแชมป์ถ้วย ก ในปี 1977 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ จนทำให้สื่อพากันตั้งคำถามว่า “ไอ้เด็กหนุ่มคนนี้ คือใคร?”

Photo : ฟุตบอลไทยในอดีตByTommyBar

จากนั้นเขายังทำประตูได้อย่างถล่มทลาย จนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติ และระเบิดประตูให้บ้านเกิดอย่างเป็นกอบเป็นกำ ทั้งในซีเกมส์ คิงส์คัพ รวมถึงโอลิมปิก รอบคัดเลือก ที่ทำแฮตทริคใส่ญี่ปุ่นในปี 1984 จนถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลแดนอาทิตย์อุทัย

“ก่อนมีเจลีก ในโอลิมปิกรอบคัดเลือก ‘84 ที่ลอสแองเจลิส ไทยเอาชนะญี่ปุ่นไปอย่างขาดลอย 5-2 ชื่อของ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ดาวยิงตัวเก่งที่ทำแฮตทริคได้ ยังคงถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลญี่ปุ่น” ทัตสึโนริ ฮอนดะ นักข่าวของ Soccerking กล่าวในบทความ ‘จากผู้นำอาเซียนสู่มหาอำนาจเอเชีย’

ผลงานดังกล่าวทำให้เขาได้รับการจับตามองไปทั่วเอเชีย บวกกับอาจารย์ประวิทย์ ไชยสาม โค้ชทีมชาติไทยในตอนนั้น อยากจะผลักดันเขาไปเล่นต่างแดน เนื่องจาก ปิยะพงษ์ เริ่มเกเร เถลไถล หนีซ้อม แต่ยังไม่มีข้อเสนอเข้ามา จึงได้ปรึกษากับ พัค ยองแบ ผู้สื่อข่าวชาวเกาหลีที่รู้จักกัน และใช้วิธีปล่อยข่าวลวง

พัค ยองแบ ไปบอก ลัคกี้ โกลด์สตาร์ว่า กูยอง สโมสรคู่ปรับของพวกเขา กำลังสนใจในตัวปิยะพงษ์  และไปบอก ลัคกี้ ว่า กูยอง กำลังสนใจศูนย์หน้าชาวไทยเช่นกัน ทำให้สองทีมพยายามแย่งชิงตัวเขา และกลายเป็น ลัคกี้ โกลด์สตาร์ ที่ได้ตัวเขาไปในที่สุด

“ด้วยการที่สโมสรเกาหลีใต้ไม่ได้ให้ความสนใจผมอยู่แล้ว อาจารย์ประวิทย์จึงร่วมมือ อาจารย์ ปาร์ค ยอง แบ เพื่อผลักดันผมไปเล่นที่เกาหลีใต้ให้ได้ ปาร์ค ยอง แบ จึงเดินทางกลับเกาหลีใต้ เพื่อไปคุยกับลักกี้ โกลด์ สตาร์ โดยถามว่านักบอลไทยที่ยิงชนะเกาหลีใต้ คุณจะเอามาใช้งานหรือไม่ ถ้าไม่เอาสโมสร ยู กอง จะซื้อตัวปิยะพงษ์ไปร่วมทีม” ปิยะพงษ์ย้อนความหลังในช่อง แตงโมลง ปิยะพงษ์ยิง

“ซึ่งความจริงทางสโมสรยู กอง ไม่รู้เรื่องนี้เลย พออีกวันไปคุยกับยู กอง ว่าจะซื้อปิยะพงษ์ หรือไม่ ถ้าไม่ซื้อลักกี้ โกลด์ สตาร์ จะซื้อตัดหน้า ดังนั้นเรื่องเฟคนิวส์จึงมีมาตั้งแต่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว”

แต่ความเป็นจริง มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

เรียนรู้จากมืออาชีพ

ในอดีตการที่จะย้ายไปเล่นในต่างแดน มักจะมีการทดสอบฝีเท้า ไม่เว้นแม้แต่ ปิยะพงษ์ แต่เขาก็ผ่านมันไปได้ด้วยดี และได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในปี 1984 โดยได้รับกินเปล่าสูงถึง 25,000 ดอลลาร์ (ราว 8 แสนบาท) และค่าเหนื่อย 30,000 ดอลลาร์ (ราว 1 ล้านบาท) ต่อปี

การย้ายมาร่วมทีมลัคกี้ โกลด์สตาร์ ของปิยะพงษ์ ยังได้รับการพูดถึงในสื่อเกาหลีใต้ โดยหนังสือพิมพ์คยุงฮยาง ได้ลงข่าวของเขาในกรอบเล็ก ในวันที่ 30 สิงหาคม 1984 พร้อมพาดหัวว่า “ผิวอ่อน นักฟุตบอลชื่อดังของไทย เข้าสู่ทีมลัคกี้ โกลด์สตาร์”

“ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน มาเกาหลีเพื่อร่วมทีม ลัคกี้ โกลด์สตาร์ เมื่อวันที่ 29 ที่ผ่านมา” หนังสือพิมพ์คยุงฮยางระบุ

“ปิยะพงษ์ ได้รับค่าเซ็นสัญญา 25,000 ดอลลาร์ (ราว 20 ล้านวอน) โดยมีรายได้ต่อปี 30,000 ดอลลาร์ พร้อมกับอพาร์ทเมนต์ขนาด 32 พยอง (105 ตารางเมตร) และรถส่วนตัวที่ลัคกี้โกลด์ สตาร์ จัดหามาให้”

ข่าวการย้ายทีมของปิยะพงษ์ / Photo : Kyunghyang Shinmun

อย่างไรก็ดี เนื่องจากปิยะพงษ์ ย้ายมาช่วงปลายฤดูกาล ทำให้ต้องฝึกซ้อมให้เข้ากับทีมก่อน และมันก็ทำให้เขาแทบท้อ เมื่อเจอกับระบบการฝึกที่หนักหน่วงตามสไตล์เกาหลี โดยเฉพาะการวิ่ง 100 เมตรแบบเต็มสปีดไปกลับ 20 ครั้ง ที่ทำให้เขาถึงกับล้มไปนอนกับพื้นหลังผ่านไปแค่ 3-4 รอบ

“สมัยก่อนโน้นบ้านเมืองที่เกาหลีใต้ ยังไม่ได้ศิวิไลซ์เท่ากับสมัยนี้...แต่สิ่งที่ผมเจอ คือ ระเบียบวินัยของคนเกาหลีใต้ ที่เป๊ะจัด เรื่องการตรงต่อเวลานั้นสุดๆ และมีความหมายสำหรับพวกเขาจริงๆ” ปิยะพงษ์กล่าวกับ FourFourTwo Thailand

“มีวันหนึ่งผมเห็นรถชน เราก็ยืนมุ่งดูตามสไตล์ไทยมุง ก็เลยเดินไปที่รถบัสส่งนักฟุตบอลไปยังสนามซ้อมสายเพียงแค่ 1 นาที ปรากฏว่า รถออกไปแล้ว”

“ทัศนคติ, การซ้อม, ระเบียบวินัย คือ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ว่าเกาหลีนี่แตกต่างจากไทยจริงๆ โอเคล่ะ! เรื่องความสามารถเฉพาะตัวเราก็ต้องพูดกันตามตรงว่าเรานั้นเหนือกว่า แต่การเล่นเป็นทีม ระเบียบวินัย เป็นสิ่งที่เราสู้ไม่ได้ในยุคนั้น”

Outside In : เมื่อครั้งหนึ่งทีมชาติไทย สร้างเซอร์ไพรส์ถล่มญี่ปุ่นยับ 5-2 | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
“ก่อนมีเจลีก ในโอลิมปิกรอบคัดเลือก ’84 ที่ลอสแองเจลิส ไทยเอาชนะญี่ปุ่นไปอย่างขาดลอย 5-2 ชื่อของ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ดาวยิงตัวเก่งที่ทำแฮตทริคได้ ยังคงถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลญี่ปุ่น” ทัตสึนาริ ฮอนดะ ผู้สื่อข่าวของ

แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ ปิยะพงษ์ พยายามอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมให้ได้ตามมาตรฐานของ ลัคกี้ โกลด์สตาร์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือพื่อพิสูจน์ตัวเอง และอีกอย่างคือเงินก้อนโต ที่เขาจะได้จากการเล่นที่นี่

“คำที่ผมท่องไว้อย่างเดียวในใจตอนนั้น คือ สามพัน, สามพัน, สามพัน เพราะเราซ้อมวันหนึ่งได้เบี้ยเลี้ยง 3,000 บาท...ตอนพระอาทิตย์ตกดินผมชอบ แต่พอพระอาทิตย์ขึ้นเท่านั้นแหละ โคตรเกลียดเลย” อดีตศูนย์หน้าหมายเลข 1 ทีมชาติไทย กล่าวกับ FourFourTwo Thailand

ก่อนที่มันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่ของเคลีก

กองหน้าชาวไทยที่เกาหลียกย่อง

ราวหนึ่งอาทิตย์หลังเดินทางถึงเกาหลี ปิยะพงษ์ ก็มีโอกาสได้ประเดิมสนามเป็นครั้งแรก หลังถูกเปลี่ยนตัวลงไปในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ปอสโก้ ดอลฟินส์ (โปฮัง สตีลเลอร์ส ในปัจจุบัน) และพบว่าอุปสรรคของเขาไม่ได้อยู่แค่ในสนามซ้อมเท่านั้น

"นักเตะในทีมลัคกี้ โกลด์สตาร์ ไม่ยอมส่งบอลให้ผมเพราะพวกเขาดูถูก และคิดว่านักฟุตบอลไทยกระจอก ไม่มีน้ำยา" ปิยะพงษ์กล่าว

อย่างไรก็ดี แม้ว่าเขาจะแทบไม่ได้บอลเลย แต่ปิยะพงษ์ ก็แสดงให้เห็นความเป็นเพชฌฆาตหน้าปากประตู หลังตวัดบอลที่เกือบจะถึงเส้นหลัง เข้าประตูไปอย่างงดงาม ช่วยให้ โกลด์สตาร์ ตีเสมอ ปอสโก ได้สำเร็จ

จากนั้นเขาก็มายิงประตูได้อีกครั้งในเกมพบกับ ฮานึล แบงค์ หลังถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ก่อนจะมายิงอีก 2 ประตูในอีก 2 เกมที่เหลือ จนได้รับความสนใจไปทั่วเกาหลี และพูดถึงในกรอบใหญ่ของสกู๊ปหน้ากีฬาของหนังสือพิมพ์แดนโสม

“ปิยะพงษ์ ที่สูง 178 เซนติเมตร หนัก 64 กิโลกรัม และรูปร่างที่เพรียวลม ถูกส่งลงมาในฐานะตัวสำรองในช่วงครึ่งหลังในเกมพบกับ ปอสโก เมื่อวันที่ 8 เขายิงประตูตีเสมอได้อย่างน่าทึ่ง และกลายเป็นเวทีเปิดตัวของเขา ก่อนจะยิงได้อีกประตูในเกมพบกับ ฮานึลแบงค์ ในวันที่ 16” หนังสือพิมพ์ คยุงฮยาง ระบุ

Photo : Kyunghyang Shinmun

ขณะเดียวกัน เขายังได้รับคำชื่นชม ในเรื่องของสภาพร่างกาย ที่ต่อกรกับแนวรับเกาหลีได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แม้จะยังคลางแคลงใจในเรื่องจิตวิญญาณของการต่อสู้ก็ตาม

“หลังจากผ่านไปสองเกม รู้สึกว่าปิยะพงษ์ยังขาดจิตวิญญาณในการต่อสู้ และความคล่องตัวอยู่มาก” บทความระบุ

“ส่วนคำถามว่าร่างกายของเขา จะอยู่รอดในลีกเกาหลีได้ไหม เพราะว่าเขาค่อนข้างผอมนั้น อันที่จริง เขามีความเร็วและการยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม และเขาก็ทำได้ดีเกินคาดในการต่อสู้ทางกายภาพ”

ทั้งนี้ นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะในฤดูกาลต่อมา ปิยะพงษ์ ก็มาระเบิดฟอร์มด้วยการยิงไปถึง 12 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ จาก 21 นัด พาลัคกี้ โกลด์สตาร์ ที่จบจากอันดับ 7 จาก 8 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว คว้าแชมป์มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ

“เขาเป็นผู้เล่นพรสวรรค์โดยธรรมชาติ หากเขาคุ้นเคยกับการเล่นเป็นทีม เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่น่ากลัว” พัค เซฮัค กุนซือของ ลัคกี้ โกลด์สตาร์ ในตอนนั้นกล่าวถึงลูกทีมชาวไทย

และนั่นก็ทำให้ชื่อของ ปิยะพงษ์ ดังไปทั่วเกาหลี เขาคว้าทั้งดาวซัลโว และจอมแอสซิสต์ของลีก กลายเป็นนักเตะต่างชาติจากทวีปเอเชียคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์ของเคลีกจวบจนถึงวันนี้ ที่ครองตำแหน่งดาวยิงสงสุด

นอกจากนี้ในปีดังกล่าว หัวหอกทีมชาติไทย ยังมีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมแห่งปีเคลีก กลายเป็นนักเตะต่างชาติคนแรก และคนเดียวในทีมชุดนั้น

Photo : ฟุตบอลสยาม

“ในเคลีก ซึ่งเริ่มต้นในปี 1983 มีนักเตะต่างชาติของเอเชียที่คว้าดาวซัลโวได้แค่ครั้งเดียว” เว็บไซต์ spochoo.com ระบุ

“ในปี 1985 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน กองหน้าชาวไทย ที่เล่นให้กับ ลัคกี้ โกลด์สตาร์ (ปัจจุบันคือ เอฟซี โซล) เป็นดาวซัลโวของลีก ด้วยจำนวน 12 ประตู ปิยะพงษ์ ยังเป็นนักเตะต่างชาติคนแรกที่ยิงได้ในเคลีกอีกด้วย”

ตำนานแห่งเคลีก

แม้ว่าสุดท้าย ปิยะพงษ์ จะอยู่ค้าแข้งกับ ลัคกี้ โกลด์สตาร์ เพียงแค่ 3 ฤดูกาล แต่ผลงาน 17 ประตูจาก 34 เกมในลีก บวกกับหนึ่งแชมป์ลีก ก็ทำให้เขาได้รับการยกย่องจากชาวเกาหลี และถูกสถาปนาขึ้นเป็นหนึ่งในตำนานของลีกอาชีพแดนโสม

เขายังคงได้รับการจับจ้องจากสื่อเกาหลีหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นกระแสข่าวว่าเตรียมกลับมาเล่นในลีกเกาหลีอีกครั้งในปี 1987 หรือถูกสัมภาษณ์จาก BigFoot TV เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ย้อนกลับไปในปี 2007 ปิยะพงษ์ ยังได้รับการเชิดชูให้เป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดตลอดกาลของเคลีก หลังถูกโหวตเข้ามาเป็นอันดับ 4 ทั้งที่อยู่ค้าแข้งในเกาหลีใต้แค่เพียง 2 ปีครึ่งเท่านั้น

“ปิยะพงษ์ คือตำนานที่ถูกเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี หลังคว้าทั้งดาวซัลโว และท็อปแอสซิสต์ในฤดูกาล 1985” เว็บไซต์ spochoo.com อธิบาย

“ปิยะพงษ์ ที่ยิงไป 17 ประตูจาก 34 เกมในเคลีก ได้รับการพิจารณาว่าเป็นนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เคลีก”

ข่าวว่าปิยะพงษ์อาจคัมแบ็คเคลีก/ Photo : Kyunghyang Shinmun

นี่คือความสำเร็จ ความยอดเยี่ยมของแข้งชาวไทย ที่สามารถจารึกชื่อของตัวเองไว้ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลต่างชาติ และเป็นเหตุผลว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน “ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน” ก็จะเป็นชื่อที่แฟนบอลไทยพูดถึงตราบนานเท่านาน

“บางครั้งก็มีนักฟุตบอลมาจากต่างประเทศ โดยไม่ถูกประโคมข่าวมากนัก แต่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในสภาพแวดล้อมใหม่ได้ทันที” สำนักข่าว Korea Herald กล่าว

“เขากลายเป็นสตาร์ และจากไปอย่างรวดเร็วให้เป็นที่จดจำตลอดไป ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน คือชายคนนั้น”

แหล่งอ้างอิง :

https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20101020000555

http://www.spochoo.com/news/articleView.html?idxno=65464

http://www.spochoo.com/news/articleView.html?idxno=55943

https://newslibrary.naver.com/viewer/index.naver?articleId=1984083000329208010&editNo=2&printCount=1&publishDate=1984-08-30&officeId=00032&pageNo=8&printNo=11977&publishType=00020

https://newslibrary.naver.com/viewer/index.naver?articleId=1984092000329208009&editNo=2&printCount=1&publishDate=1984-09-20&officeId=00032&pageNo=8&printNo=11995&publishType=00020

https://newslibrary.naver.com/viewer/index.naver?articleId=1987052800099212011&editNo=1&printCount=1&publishDate=1987-05-28&officeId=00009&pageNo=12&printNo=6532&publishType=00020

https://www.khaosod.co.th/sports/news_3925463

https://www.facebook.com/thepeoplecoofficial/photos/a.1040280779477779/2182525841919928/?type=3

https://www.soccer-king.jp/news/media/jsk-news/20170210/551047.html

https://www.facebook.com/jingjungfootball/posts/2501278286754073/?locale=th_TH

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด

ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ