Outside In: ‘สุภัทร รุ่งรัศมี’ ดาวยิงตัวบั๊กชาวไทยแห่ง FM ผู้หายไปอย่างไร้ร่องรอยในโลกความจริง
เขาคือปรากฎการณ์ จากประตูกว่าครึ่งร้อยที่รังสรรค์ให้เหล่าคอเกม Football Manager หรือชื่อเก่า Championship Manager เกมคุมทีมฟุตบอลชื่อดัง
ความเร็วที่หาตัวจับยาก การจบสกอร์ที่คมกริบ รวมถึงเทคนิคระดับพระกาฬ แถมยังมีสัญชาติไทย จนทำให้ใครหลายคนเชื่อว่าเขาอาจจะเป็นนักเตะที่ไม่มีอยู่จริง และเป็นความผิดพลาดจากผู้ผลิตเกม
แต่จากแหล่งข้อมูลหลายแห่งยืนยันว่า สุภัทร มีตัวตนอยู่จริง และเป็นแข้งไทยที่เคยอยู่ในทีมเยาวชนของสโมสรอังกฤษ แถมยังเคยติดทีมชาติอังกฤษ ในระดับเยาวชนมาแล้ว
อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น เขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เกิดอะไรขึ้นกับเขา ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้ที่นี่
ตัวบั๊กแห่ง FM
สุภัทร รุ่งรัศมี เป็นชื่อที่แฟนบอลชาวไทยพูดถึงอย่างมากในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ทั้งที่ไม่มีใครเคยเห็นการเล่นของเขามาก่อน หรือแม้แต่หน้าตา เพราะเขาคือนักเตะไทยในเกม Championship Manager หรือ Football Manager ในเวลาต่อมา
Championship Manager หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า CM เป็นเกมคุมทีมฟุตบอลชื่อดัง ที่โดดเด่นอย่างมากเรื่องฐานข้อมูลที่กว้างไกล และนักเตะระดับโลกหลายคนก็โด่งดังมาก่อนในเกม ก่อนที่จะเฉิดฉายในชีวิตจริง อาธิ เชสก์ ฟาเบรกัส, เซอร์คิโอ อเกวโร, แกเรธ เบลล์ รวมถึง ลีโอเนล เมสซี
สุภัทร เองก็ถูกคาดหวังไว้อย่างนั้น เขาปรากฏตัวในเกมครั้งแรกใน CM 03/04 ที่วางจำหน่ายในปี 2003 โดยอยู่ในทีมสำรองของปอร์ทสมัธ ขณะที่ข้อมูลส่วนตัวระบุว่าเขาเกิดในปี 1988 และมีอายุ 15 ปีพอดี
อย่างไรก็ดี สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือค่าพลังของเขา ไม่ว่าจะเป็นความเร็วตั้งต้นที่อยู่ในระดับ 15 บวก(เต็ม 20) และการจบสกอร์ที่ไม่เลว แถมเมื่อเวลาผ่านไป เขายังสามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลก ที่ยิงในระดับครึ่งร้อยประตู
ทั้งนี้ ความเก่งกาจของเขา ทำให้ครั้งหนึ่งมีคนตั้งคำถามในเว็บบอร์ด FM-Base คอมมูนิตี้ Football Manager ว่าบางทีเขาอาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริง และอาจเป็นเพียงบั๊กที่ผู้ผลิตเกมสร้างขึ้นมาด้วยความผิดพลาด
“เขาเป็นผู้เล่นที่สร้างขึ้น และไม่มีอยู่จริง” ผู้ใช้นามแฝง Brian กล่าว
“เขาเป็นผู้เล่นปลอมที่เล็ดลอดออกมา อาจจะเป็นเพราะว่าการแตกหักระหว่าง SI (ผู้สร้าง) และ Eidos (ผู้จัดจำหน่าย) ภาพดังกล่าวกระจ่ายไปทั่วเว็บบอร์ด เมื่อมีคนเริ่มสงสัยในตัวเขา ชายบางคนโพสต์รูปและอ้างว่าเขาเคยเจอกับสุภัทร” ผู้ใช้นามแฝง Jake เสริม
“เขาอยู่กับปอมปีย์ ใน CM 03/04 และอยู่มาจนถึง FM 08 และทุกเกมเขาก็มีวันเกิดใหม่และอายุ 15 ปีมาตลอด อย่างที่บอกไว้ข้างบน หน้าวิกิของเขาถูกลบ และไม่มีหลักฐานว่าเขามีอยู่จริง นอกจากข้อมูลในเกม”
ทว่า ก็มีคนพิสูจน์ว่า ดาวเตะชาวไทยรายนี้ มีเลือดเนื้อเชื้อไขอยู่จริง และเคยสร้างความสั่นสะเทือนในทีมเยาวชนจนถูกพูดถึงบนหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้ว
ดอยโรโบค็อป
หนึ่งในหลักฐานที่ยืนยันว่า สุภัทร มีตัวตนจริงคือการที่เขาเคยมีชื่อลงแข่งขันกรีฑาเยาวชนระดับภูมิภาคแฮมเชียร์ในรุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี แถมยังชนะเลิศการแข่งขัน Speed Bounce (การแข่งกระโดดสองเท้า) ในปี 2002 เพียงแต่ลงทะเบียนในชื่อ Doy Rungratsamee
นอกจากนี้ ในปี 2021 แจ็ค เคนมาเร นักเขียนจาก Sport Bible ยังยืนยันอีกเสียง หลังได้คุยกับเขาโดยตรง แต่ข้อมูลคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะเขาเพิ่งจะอายุ 30 ปี ซึ่งถ้าหากบวกลบอายุ เขาน่าจะเกิดในปี 1992 ไม่ใช่ 1988 ตามที่ระบุในเกม
จากข้อมูลของ Sport Bible ระบุว่า สุภัทร หรือ ดอย เกิดที่สุพรรณบุรี โดยมีพ่อแม่เป็นคนไทยแท้ แต่ได้ย้ายตามพ่อเลี้ยง ที่ไปเปิดร้านอาหารไทยในเมืองปอร์ทสมัธ ประเทศอังกฤษ ตอนอายุ 10 ขวบ
ที่นั่นเขาได้มีโอกาสเล่นฟุตบอล กีฬาที่เขาชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะฉายแววด้วยการยิงไปถึง 60 ประตูจาก 19 เกม ให้กับทีมเยาวชนท้องถิ่น และไปเข้าตาแมวมองของ ปอร์ทสมัธ จนต้องเรียกมาทดสอบฝีเท้า
“ดอยน่าจะอยู่ในวัย 10 ขวบตอนที่เขามาคัดตัวครั้งแรก ไม่มีใครเคยเห็นเขามาก่อน แต่เขาก็ยิงไป 6-7 ประตูในการคัดตัว ฉีกกองหลังออกเป็นชิ้น ๆ จากความเร็วและพละกำลัง ไม่มีใครเอาเขาลงได้” นีล ไฮเดอร์ โค้ชพาร์ทไทม์ ปอร์ทสมัธ U11 ย้อนความหลังกับ Sport Bible
“วันนั้นเขาฉีกหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของปอร์ทสมัธ เป็นชิ้น ๆ เขาเหนือกว่าคนอื่นแบบวิ่งฝ่าไปตรงกลางแล้วทำให้คนที่อยู่รอบ ๆ ล้มลง มันมหัศจรรย์มาก มันเหมือนเห็นผู้ใหญ่ในร่างเด็ก ผู้เล่นคนอื่นกระดอนไปคนละทิศละทางเวลาชนกับเขา บางครั้งเขาก็ทำประตูน่าเกลียดๆ แต่เด็กส่วนใหญ่ก็ดร็อปไปเลยพอเจอเขา”
ความยอดเยี่ยมตอนคัดตัวของ สุภัทร ทำให้ ไฮเดอร์ ต้องเอาเรื่องนี้ไปบอก เดฟ เฮิร์ต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเยาวชนของปอร์ทสมัธ และสุดท้ายแข้งสายเลือดไทย ก็ได้เข้ามาอยู่ในทีมเยาวชนของปอมปีย์
“ตอนที่เราเอาสุภัทรเข้ามาครั้งแรก โค้ชในตอนนั้นชมเขามาก” เฮิร์ตกล่าวกับ Sport Bible
“พวกเขาบอกว่าเด็กคนนี้เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน และต่อไปเขาจะสุดยอดอย่างไร”
สุภัทร ทำประตูเป็นว่าเล่นให้กับทีมเยาวชนปอร์ทสมัธ เขาซัดไป 30 ประตูในฤดูกาลแรกกับปอมปีย์ เช่นเดียวกับความแข็งแกร่ง ที่กลายเป็นจุดเด่นของเขา จนทำให้ได้รับฉายาจากเพื่อนร่วมทีมว่า “โรโบค็อป”
“เขาเคยเจอกับ (ลูอิส) ดังค์ (กัปตันไบรท์ตันคนปัจจุบัน) และทำให้ดังค์เจอปัญหาใหญ่ เขาไม่ยอมให้ใครเอาชนะเขาได้ง่าย ๆ” ไฮเดอร์กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวของเขายังถูกนำไปทำเป็นสกู๊ป ในหนังสือพิมพ์ Sports Mail ที่เป็นหลักฐานยืนยันว่าแข้งชาวไทยคนนี้มีตัวตนจริงๆ รวมถึงเคยติดทีมชาติอังกฤษไปเล่น ดานอน เนชั่นคัพ หรือฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 12 ปีเมื่อปี 2005 ซึ่งช่วยการันตีความยอดเยี่ยมของเขาได้เป็นอย่างดี
“พบกับ ‘ดอย เด็กมหัศจรรย์’ ที่เพื่อนร่วมทีมของเขารู้จักในชื่อโรโบค็อป” ชื่อบทความในหนังสือพิมพ์ Sports Mail
แล้วถ้าอย่างนั้น ตอนนี้เขาหายไปไหน?
ลงเล่นผิดรุ่น?
แม้ว่า สุภัทร จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับเยาวชนปอร์ทสมัธ แต่เขาก็ถูกตั้งคำถามเรื่องอายุที่แท้จริง และโค้ชคู่แข่งหลายคนก็เชื่อว่าเขาน่าจะมีอายุมากกว่าที่ลงทะเบียนไว้
ครั้งหนึ่งผู้จัดการทีมของเยาวชนเบรนท์ฟอร์ด เคยเข้ามาถามตรง ๆ เนื่องจาก สุภัทร ดูโตกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน ทว่าตอนนั้นปอร์ทสมัธเชื่อว่า เขาแค่แข็งแกร่งกว่านักเตะคนอื่น
“เราชนะ 4-0 ผมคิดว่าดอยน่าจะยิงได้ 3-4 ประตู” ไฮเดอร์ย้อนความหลัง
“ผู้จัดการทีมของพวกเขาเข้ามาและหาเรื่องเขา เขาบอกว่าเขาแก่เกินไป และมันก็ทำให้เกิดความแตกต่าง เขาแค่ทรงพลังเกินไปสำหรับพวกเขา”
“หลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับอายุของเขา ตอนที่ลงเล่นในรุ่นนั้น เขา (สุภัทร) เคยจัดการพวกเขาตอนที่เขาอายุแค่ 11 ปี ตอนนั้นเด็กคนอื่นยังผอมบาง แต่เขาต่างออกไป เขามาแล้วดังระเบิด ผู้คนไม่รู้ว่าพวกเขาเจออะไร เมื่อเด็กคนนี้อยู่กับเด็กของพวกเขา”
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพของสุภัทรกับลดน้อยถอยลง เขาไม่สามารถเอาชนะเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันได้อีกแล้ว และทำให้คำถามว่าเขาอาจจะลงเล่นผิดรุ่นหวนกลับมาอีกครั้ง
“เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะรู้สึกว่าเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าความสามารถ และผมก็คิดอยู่เสมอว่าเขาแก่กว่าที่เขาบอก แต่ผมก็ไม่เคยพิสูจน์ในเรื่องนั้น” เดฟ เฮิร์ต ให้ความเห็น
“ตอนที่คุณเห็นเขาครั้งแรก คุณคิดว่าเขาจะกลายเป็นคนที่เก่งกว่าใครในสนาม แต่หลังจากนั้นเมื่อความรู้เรื่องฟุตบอลเข้ามามีบทบาท คุณจะคิดว่าเดี๋ยวนะ นี่มันคือความแข็งแกร่งมากกว่าความสามารถ เพราะว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเด็กคนอื่น ผมรู้สึกว่าอายุของเขาไม่ได้เป็นอย่างที่บอก มันเป็นหนึ่งในสถาการณ์ที่คุณไม่อยากอยู่ในนั้น”
“บางทีเขาอาจจะอายุ 16 หรือ 17 ปี แต่กลุ่มอายุที่ผมเคยทำทีมมันน้อยกว่านั้นมาก อย่างที่บอกไป ผมไม่เคยพิสูจน์เรื่องนี้”
แต่ สุภัทร ก็ยืนยันว่าเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้ไปต่อกับปอร์ทสมัธ มาจากปัญหาส่วนตัวมากกว่า บวกกับอาการบาดเจ็บหนักที่เป็นปัญหาเรื้อรัง หลังไม่ได้เข้ารับการผ่าตัดอย่างทันท่วงที และทำให้เขาต้องอำลาทีมไปในวัยเพียง 16 ปี
“ตอนนั้นปัญหามันค่อนข้างเยอะ พ่อแม่ของผมไปส่งผมซ้อมไม่ได้อีกแล้ว เพราะพวกเขาเลิกกัน เมื่อผมไปซ้อมหรือไปแข่งไม่ได้ ผมก็เลยออกจากสโมสร” สุภัทร กล่าวกับ Sport Bible
“ผมยังมีอาการบาดเจ็บติดตัว ผมเคยเจ็บหนักที่หัวเข่าตอนถูกปะทะอย่างแรง ผมเคยได้ยินเสียงคลิกและมีความเสียหายที่กระดูกอ่อน”
“มันเลวร้ายมาก หลังจากนั้นเข่าของผมก็รับไม่ไหว ผมพยายามไปหานักกายภาพ แต่มันนานกว่าจะได้คิว สุดท้ายผมก็ไม่ได้ผ่าตัด”
จากการรายงานของ Sport Bible ระบุว่า สุภัทร เคยเดินทางกลับไทยหลังออกจากทีมปอร์ทสมัธ เพื่อมาซ้อมและทดสอบฝีเท้ากับ บีจี ปทุม (บางกอกกล๊าสในตอนนั้น) ที่คาดว่าน่าจะเป็นช่วงปี 2009
ซึ่งหากเทียบไทม์ไลน์ ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ คมชัดลึก ลงข่าวว่า “เจอแข้งไทย ในปอร์ทสมัธ ดีกรียุวชนอังกฤษ ‘สุภัทร รุ่งรัศมี’” พร้อมระบุว่าเขากำลังหาทีมเล่นอยู่
แต่สุดท้ายเขาต้องผิดหวัง เมื่อไม่มีทีมไหนเซ็นสัญญากับเขา โดย สุภัทร ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บของเขา ที่มันเกินจะเยียวยา
“พอวิ่งมากไปมันก็สั่น ผมไม่เคยกลับมาสมบูรณ์เต็มร้อยได้อีกเลย” สุภัทร กล่าว
ก่อนที่หลังจากนั้น ชื่อของ สุภัทร จะหายไปจากสารบบฟุตบอลตลอดกาล
จากนักฟุตบอลสู่เชฟ
หลังจากล้มเหลวในการทดสอบฝีเท้า สุภัทร ในวัย 18 ปี ก็เดินทางกลับอังกฤษ มุ่งหน้าเข้าสู่วงการอาหาร แต่ก็ยังตัดใจจากฟุตบอลไม่ได้ และลงเล่นให้กับสโมสรในท้องถิ่นอยู่พักหนึ่ง
“ผมตรงไปทำงานในร้านอาหารไทยในปอร์ทสมัธ ผมเล่นให้กับทีมท้องถิ่นแล้วก็ทำงานไปด้วยอยู่ฤดูกาลนึง” สุภัทรย้อความหลัง
“ผมยังคงสนุกกับฟุตบอล แต่ผมก็ผิดหวังเหมือนกันเพราะเข่าผมยังเจ็บอยู่”
เพื่อไม่ให้มันแย่กว่านี้ ทำให้ตอนอายุ 19 ปี สุภัทร ตัดสินใจลาขาดจากฟุตบอล พร้อมกับปิดบังอดีตของตัวเอง เพื่อจะได้เริ่มต้นในเส้นทางสายใหม่อย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันเขามีอาชีพเป็นเชฟมือฉมัง ที่เมือง บิช็อปส์ สตอร์ทฟอร์ด ทางตะวันออกของอังกฤษ
“ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นอะไรมาก่อน หรือผมเคยทำอะไร เพราะผมไม่ได้ติดต่อกับใครอีกเลย” ดอยอธิบาย
“ผมยังคิดถึงฟุตบอลมาก ผมยังคงอยากเล่นเพื่อความสนุก แต่ผมไม่อยากให้ใครเข้ามาในพื้นที่ของผม ดังนั้นผมจึงเล่นต่อไม่ได้”
“ผมยังอยากจะออกไปและเล่นฟุตบอลอีกครั้ง แต่ผมก็แก่ไปแล้วตอนนี้ ผมไม่ค่อยมีเวลาว่างเหมือนกัน ผมต้องทำงานหนักในครัว บางครั้ง 6 วันต่อสัปดาห์”
เขายอมรับว่าบางครั้งเขาก็ไม่อยากพูดถึงฟุตบอล บางทีมันอาจจะเป็นความเจ็บปวด เป็นฝันร้ายที่ไม่อยากหวนนึกถึงมัน ทำให้ตอนที่มีคนที่รู้จักเขาจากเกม FM ทักมาหา เขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปอย่างไร
“ผมไม่รู้ว่าผมจะตอบอย่างไรให้ถูกต้อง ผมไม่ได้เล่นฟุตบอลแล้ว ผมไม่ได้สนใจมันแล้ว มันคืออดีตไปแล้ว ผมไม่ค่อยพูดถึงมัน” สุภัทรอธิบาย
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยืนยันว่าช่วงเวลาที่ปอร์ทสมัธ เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา ที่จะไม่มีวันลืม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
“ผมสนุกกับช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสรจริงๆ สโมสรยังเล่นในสโมสรยุโรปในตอนนั้น ผมเคยเจอปีเตอร์ เคราช์, เดวิด เจมส์ และโลมานา ลัวลัว มันสุดยอดมาก ๆ ” สุภัทรทิ้งท้าย
แหล่งที่มา
https://jobs4football.com/whatever-happened-to-supat-rungratsamee/
http://manager0304.blogspot.com/2007/09/supat-doy-rungratsamee.html
https://www.sanook.com/sport/9246/
https://sport.mthai.com/other/7931.html
https://fm-base.co.uk/threads/supat-rungratsamee.37091/
https://www.hampshireathletics.org.uk/results/2002/20021215_sportshall_u11b.html
https://www.komchadluek.net/news/5928
https://yeswecrann.co.za/2015/11/13/how-football-manager-shaped-my-path/