Outside In : ‘ทักษิณ ชินวัตร’ คนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เป็นเจ้าของสโมสรพรีเมียร์ลีก
“เดิมทีแล้ว ซิตี้ ในยุคของชินวัตรคือหนึ่งในยุคแห่งความหวัง และความตื่นเต้น ก่อนจะตามมาด้วยความอับอายและความอัปยศอดสู” Planet Football ระบุ
เรียกได้ว่าก้าวขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้าของโลกอย่างเต็มตัว สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา พวกเขาสามารถทำ “ทริปเปิ้ลแชมป์” กวาดทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
นอกจาก เป๊บ กวาดิโอลา และลูกทีมแล้ว เครดิตนี้อาจจะต้องมอบให้ อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป เจ้าของทีม ที่เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อ 15 ปีก่อน
แต่อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของคนก่อนหน้านี้ ที่เข้ามาซื้อทีมเมื่อปี 2007 และปลุกให้ ซิตี้ จากเป็นทีมหนีตกชั้น ให้เป็นทีมแห่งความหวัง ก่อนที่ ชีค จาก ยูเออี จะมาสานต่อ
อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ถูกพูดถึงไว้อย่างไรในตอนที่เป็นเจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ติดตามเรื่องราวในมุมมองของสื่อต่างชาติไปพร้อมกับ Outside In ของ Think Curve - คิดไซด์โค้งได้ที่นี่
เจ้าของสโมสรจากไทย
มันเหมือนเป็นปีแห่งความหวังของแฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะหลังจากเป็นเพียงทีมหนีตกชั้น ที่ดิ้นรนอยู่ในโซนท้ายตารางพรีเมียร์ลีก ในปี 2007 เรือใบสีฟ้า ก็ได้เจ้าของคนใหม่จากประเทศไทย ที่ชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่เพิ่งโดนคณะรัฐประหาร ยึดอำนาจเมื่อ 1 ปีก่อน มาพร้อมกับวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เขาสัญญาว่า จะพาแมนฯ ซิตี้ ขึ้นไปอยู่แถวหน้าของโลกให้ได้ ตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งประธานสโมสร
“เป้าหมายของผมสำหรับทีมฟุตบอลคือความทะเยอทะยาน ที่จะทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นหนึ่งในแบรนด์ฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” ทักษิณ กล่าวผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร
“ผมตั้งใจที่จะเพิ่มฐานแฟนบอลของสโมสรด้วยการเข้าถึงแฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่ใช่แค่ในเอเชีย แต่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จีน และประเทศไทย บ้านเกิดของผม”
เขาไม่ได้แค่พูด แต่ลงมือทำ ทักษิณ เริ่มต้นด้วยการจ้าง สเวน โกรัน อีริคส์สัน อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ ขึ้นมาเป็นกุนซือคนใหม่ของเรือใบสีฟ้า
“ผมไม่เคยติดต่อกับทักษิณเลยก่อนที่เขาจะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร แต่หลังจากนั้น ตัวแทนที่ผมจำชื่อไม่ได้ก็บอกว่า ทักษิณ และคนของเขาสนใจที่จะจ้างผมมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่” อีริคส์สันกล่าวกับ Planet Football
ขณะเดียวกัน ทักษิณ ยังอนุมัติเงินกว่า 30 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับ 2 ล้านปอนด์ในซีซั่นก่อน ให้กับกุนซือชาวสวีดิชได้ช็อปปิ้งผู้เล่นใหม่ในซัมเมอร์นั้น
และทำให้ทีมได้ตัวผู้เล่นอย่าง โรลันโด เบียงคี, แกลซง แฟร์นองเดซ, จิโอวานนี, เอลาโน, มาร์ติน เปตรอฟ, เวดราน ชอร์ลูก้า, วาเลรี โบยินอฟ และ ฮาเวียร์ การ์ริโด มาร่วมทัพ
“หัวข้อในวันนั้นคือการปฏิวัติแทนที่จะเป็นวิวัฒนาการ มันน่าตื่นเต้น เรารู้สึกว่า เรากำลังจะมาแล้ว” แหล่งข่าวไม่ระบุนามย้อนความหลังในวันเปิดตัว 8 ผู้เล่นใหม่
ก่อนที่มันจะกลายเป็นหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย
ฝ่าข้อครหา
อันที่จริง ในช่วงแรกของการเข้ามาเทคโอเวอร์แมนฯ ซิตี้ ของ ทักษิณ ก็มีเสียงต่อต้านทั้งจากแฟนบอลและผู้คนมากมาย จากการที่เขามีคดีทุจริตในไทย รวมไปถึงนโยบายปราบปรามยาเสพติด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 2,000 คน
นอกจากนี้ เขายังโดนวิจารณ์อย่างหนัก จากการให้เรือใบสีฟ้าเซ็นสัญญา 3 ผู้เล่นชาวไทย สุรีย์ สุขะ, ธีรศิลป์ แดงดา และเกียรติประวุฒิ สายแวว มาร่วมทีม อย่างเซอร์ไพรส์
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี
“ประธานคนใหม่ของเราเริ่มเล่นการเมืองกับสโมสรของเรา ผมเบะปากตอนที่อ่านข่าวว่า ซิตี้ กำลังทดสอบฝีเท้านักเตะดาวรุ่งชาวไทย สุรีย์ สุขะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว และ ธีรศิลป์ แดงดา” นิโคลัส ฟาร์เรลลี ศาสตราจารย์ด้านสังคมศึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของไทย เมียนมาร์ จีน และอินเดีย และเป็นแฟนเดนตายของเรือใบสีฟ้า กล่าวในบทความ Own goals at Manchester City?
“ผมไม่ได้มีปัญหากับคนไทย ในฐานะตัวแทนของซิตี้ ตราบใดที่เขาดีพอ และได้รับคัดเลือกมา แต่มันก็ต้องตั้งคำถามว่า 3 แข้งไทยผ่านสิ่งนี้มาหรือไม่”
“ในสามคน สุรีย์ ดูจะมีอนาคตไกลที่สุด หลังทำผลงานได้ดีในเอเชียนคัพ แต่ ซิตี้ มีเครือข่ายแมวมองที่กว้างไกล และทำผลงานได้ดีในเอเชียนคัพ มันจึงแปลกที่พวกเขาไม่แนะนำสุรีย์ให้ซิตี้ ทำไมอีกสองคนอยู่ในแมนเชสเตอร์ จึงไม่มีใครคาดเดาได้”
“และที่สำคัญที่สุด มีข้อสังเกตุว่าไม่เคยมีความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับ สุรีย์ หรือแข้งชาวไทย จากทีมบริหาร หรือสต้าฟของซิตี้อีกด้วย”
ขณะเดียวกัน คนในสโมสรของเรือใบสีฟ้า ที่เคยทำงานใกล้ชิดกับ ทักษิณ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้าของชาวไทย “ดูน่ากลัว” มีเรื่องเล่าว่าในการประชุมทีมงานครั้งแรกของสโมสร อดีตนายกฯ ของไทย ชี้ไปที่รูปหมาแล้วพูดว่า “ถ้าหมาเห่านั่นน่ะดี ถ้ามันเห่าไม่ได้ให้ยิงมัน”
ทักษิณ มักจะมีบอดีการ์ด ที่มาพร้อมกับเข็ดขัดสีดำขนาดใหญ่อยู่ที่เอว ซึ่งคาดว่าข้างในมีปืน ประกบติดอยู่เสมอ โดยคนเหล่านี้ จะมีหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยให้เขา ตอนอยู่ที่อังกฤษ
“ถ้าคุณชงชาให้ทักษิณ ผู้ชายคนนั้น (บอดีการ์ด) จะไปยืนข้างหลังคุณหนึ่งก้าว เพื่อดูว่าคุณใส่อะไรลงไป” อดีตเจ้าหน้าที่ของ แมนฯ ซิตี้ ย้อนความหลัง
แต่เสียงวิจารณ์ก็เริ่มหายไป หลัง แมน ซิตี้ โฉมใหม่ ที่นำโดยผู้เล่นอย่าง เอลาโน, จิโอวานนี, มาร์ติน เปตรอฟ และเวอร์ดาน ชอร์ลูกา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงแรก ด้วยการคว้าชัย 3 เกมรวด แถมหนึ่งในนั้นเป็นการเปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งร่วมเมืองไปได้ 1-0
“ทุกคนที่เข้ามาก็เข้าขากันอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงค่อนข้างโชคดี แต่มันก็มาจากการทำงานที่ดีของแมวมองเช่นกัน เรามีแมวมองที่ทำงานกับสโมสรอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็เก่งมาก ๆ ” อีริคส์สันกล่าว
แม้ว่าหลังจากนั้น เรือใบสีฟ้าต้องพบกับความปราชัยในนัดที่ 4 และ 5 แต่พวกเขาก็คว้าชัยได้ถึง 6 เกมจาก 10 เกมหลังจากนั้น และมันก็ทำให้ ทักษิณ เริ่มฝัน ฝันในสิ่งที่แม้แต่ อีริคส์สัน ยังไม่กล้าคิด
เฮดของเฮดโค้ช
แม้ว่า ทักษิณ จะแสดงให้เห็นว่าเขารักฟุตบอลมากแค่ไหน แต่หลายคนก็วิเคราะห์ว่า การเข้ามาซื้อสโมสร แมนฯ ซิตี้ ของเขามีนัยยะทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะการสร้างความนิยม ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของไทยที่จะมีขึ้นในปี 2008
“หลัง ทักษิณ เริ่มหมดหวังมากขึ้นในการรักษาสถานภาพทางการเมืองที่เริ่มเลือนลางลงไปในประเทศไทย เขาจะทำทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ เพื่อเพิ่มความนิยมในบ้านเกิดของเขา” ฟาร์เรลลี่ กล่าว
เขามีไอเดียแปลกใหม่ที่คนอังกฤษไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการเอาถ้วยรูปช้างสองใบ และผลึกคริสตัล ฝังไว้ในสนาม ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์, สั่งห้ามสโมสรใช้ชุดเยือนสีม่วง โดยให้เหตุผลว่าเป็นสีกาลกิณี ไปจนถึงจ้างหมอนวดแผนไทย มานวดให้นักเตะที่เขามองว่าไม่ฟิต
“เขามีส่วนร่วมตลอดแหละ เขามีความคิดบ้าๆ บอ ๆ และเราก็ต้องห้ามเขา” อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของแมนฯ ซิตี้ กล่าวกับ Sportsmail
แต่ความความพยายามมีส่วนร่วมมากเกินไป ก็นำมาซึ่งจุดตกต่ำในไม่นาน เพราะหลังทีมผลงานดี ทักษิณ ก็มากดดันให้ อีริคส์สัน พาทีมคว้าแชมป์ให้ได้ในฤดูกาลนั้น แม้กุนซือชาวสวีดิช จะยืนยันว่าเป็นไปได้ยากก็ตาม
“เขาไม่เข้าใจเรื่องฟุตบอลเลย ตอนคริสต์มาส ผมคิดว่าตอนนั้นเราอยู่ 2 หรือ 3 เราเริ่มต้นในลีกได้ดี ผมจำได้ว่าอาร์เซน เวนเกอร์ บอกกับผมว่าเราน่าทึ่งมาก ซึ่งเราเข้ากันได้ดีในเวลาไม่กี่เดือน” อีริคส์สัน กล่าวกับ Planet Football
“ดังนั้นเราจึงแฮปปี้มาก ผมบอกกับ ทักษิณ ชินวัตร ว่าเราเป็นทีมที่ดีมาก แต่ผมไม่คิดว่าเราจะคว้าแชมป์ลีกในซีซั่นนี้ หรือจบในอันดับ 2 หรือ 3 เราดีจริง แต่ไม่ได้ดีขนาดนั้น”
“จากนั้นในเดือนมีนา-เมษา ผมก็เริ่มรู้ว่าเขาไม่ค่อยแฮปปี้ เพราะตอนที่ผมอยากคุยเรื่องฤดูกาลหน้า เพื่อทำให้ทีมดีขึ้น แต่เขาก็มีข้อแก้ตัวเสมอ และไม่ยอมเข้าประชุม”
“ผมคิดว่าเราทำได้ดีจริงๆ หากมองว่าเราใช้เงินไปแค่ไหน ผมรู้ว่าทีมมันโอเค และฤดูกาลหน้า ผมคิดว่าเราต้องดีกว่านี้”
“พวกเรา โค้ชและแมวมอง นั่งวิเคราะห์ตลอดปีที่ผ่านมา และหาวิธีว่าเราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างไร และผมก็พร้อมที่จะนำเสนอ ทักษิณ ชินวัตร แต่ผมแทบไม่มีโอกาส เพราะตั้งแต่เดือนมีนาคม เมษายน เขาก็ไม่คุยกับผมอีกเลย”
การเมืองภายในส่งผลกระทบต่อทีมเช่นกัน เพราะแม้ว่า ซิตี้ จะบุกไปคว้าชัยเหนือ แมนฯยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งกลายเป็นชัยชนะแบบไปกลับของพวกเขาต่อคู่แข่งร่วมเมืองในรอบ 38 ปี แต่ครึ่งซีซั่นหลัง พวกเขาคว้าชัยได้เพียงแค่ 5 นัด
นอกจากนี้ การออกมากดดัน อีริคส์สัน ของ ทักษิณ ก่อให้เกิดเสียงต่อต้านจากผู้เล่นในทีม แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะสุดท้ายในเดือนเมษายน ก็มีข่าวออกมาว่า กุนซือชาวสวีเดน น่าจะได้ทำทีมถึงแค่ซีซั่นนี้
และนั่นก็ทำให้การประท้วงเจ้าของสโมสรชาวไทย ลามไปถึงในสนาม แฟนบอลร่วมกันแต่งเพลงขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจให้ อีริคส์สัน โดยท่อนหนึ่งระบุว่า “ทักษิณ ปล่อยให้สเวนทำงานไป”
ก่อนที่นั่นก็เป็นฉากท้ายๆของ ทักษิณ กับ แมนฯ ซิตี้ เช่นกัน
หมดศรัทธา
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด กลับมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นกับ แมนฯ ซิตี้ไม่เว้นแต่ละวัน หนึ่งในนั้นคือการที่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ถูกพามาที่ไทยเพื่อเคารพพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อนที่ถูกพาไปฟัง ทักษิณ ร้องคาราโอเกะ
“ภายในเวลาเหล่านี้ มีช่วงเวลาที่น่าตลก แคสเปอร์ ชไมเคิล ถูกพาไปกรุงเทพ เพื่อไว้อาลัยแก่พระเชษฐภคินีของกษัตริย์ไทย” รายงานของ Daily Mail ระบุ
“คืนหนึ่งโกลดาวรุ่งของทีมสำรอง ได้เห็นชินวัตรร้องคาราโอเกะ พร้อมกับนักร้องที่ช่วยสนับสนุนเพื่ออำพรางเสียงเพี้ยนของเขา”
แต่ที่อังกฤษ ความศรัทธาที่มีต่อ ทักษิณ ได้เลือนลางหายไป เขาเริ่มถูกพูดถึงในทางเสียหาย หรือแม้กระทั่งโดนเจ้าที่ของสโมสรตัวเองล้อเลียน
จากรายงานของ Daily Mail ระบุว่า ครั้งหนึ่ง เลส แชปแมน เจ้าหน้าที่ดูแลชุดแข่งของแมนฯ ซิตี้ ล้อเลียน ทักษิณ ด้วยการแต่งตัว เหมือนเขา หรือแม้กระทั่ง ใส่กุญแจมือมาสโมสร ที่สื่อไปถึงคดีที่ทักษิณเป็นผู้ต้องหา พร้อมกับพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทย-อเมริกันว่า “สักวัน สโมสรแห่งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าแมนฟิลด์”
ก่อนที่เกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล จะเป็นเกมที่ผู้เล่น แสดงว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับ ทักษิณ แม้ว่า อีริคส์สัน จะพยายามโน้มน้าว แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ และทำให้ทีมพ่ายไป 8-1 ซึ่งเป็นหนึ่งในความพ่ายแพ้มากที่สุดของสโมสรจนถึงวันนี้
“ผมจำได้ว่าก่อนหน้านั้น (ที่จะถูกไล่ออก) เล็กน้อย กัปตัน ริชาร์ด ดันน์ มาหาผมที่สำนักงานและบอกว่า ‘เราไม่อยากเล่น’ แต่ผมก็บอกว่า ‘เราต้องเล่น เราต้องเป็นมืออาชีพ’” อีริคส์สันย้อนความหลัง
“เกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล คือบุกไปเยือน มิดเดิลสโบรห์ และนั่นคือหายนะ ผมคิดว่า ดันน์ โดนใบแดงหลังผ่านไปห้านาที โชคร้ายที่ไม่มีใครอยากเล่นเกมนั้นเลย แต่เราน่าจะทำสำเร็จแล้ว”
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะโดนไล่ออก แต่อีริคส์สัน ก็ยังต้องคุมทีมไปทัวร์ที่ประเทศไทย ก่อนที่เขาจะโดนปลดอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น
“ไม่มีผู้เล่นคนไหนอยากไป และผมเองก็ไม่อยากไปด้วย” อีริคส์สัน กล่าวกับ Planet Football
“แต่ผมก็บอกนักเตะและตัวเองว่าเราต้องไป เรายังเป็นลูกจ้างของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเราต้องเป็นมืออาชีพ”
“แม้ว่าคุณจะรู้ว่าคุณจะถูกไล่ออก คุณต้องเป็นมืออาชีพจนวินาทีสุดท้าย และหลังจากนั้นผมก็สามารถบอกได้ว่าผมทำงานของผมเสร็จแล้ว นั่นคือสิ่งสำคัญ”
แต่ทักษิณ ก็อยู่กับ แมนฯ ซิตี้ เป็นปีสุดท้ายเช่นกัน เมื่อเขาต้องตกอยู่ในสถานะทางการเงินฝืดเคือง หลังโดนศาลไทยสั่งอายัดทรัพย์ มูลค่า 65,000 ล้านบาท ที่ถึงขั้นต้องยืมเงิน จอห์น วอร์ดเดิล อดีตประธานเรือใบสีฟ้า มาจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะ
และก่อนจะเริ่มฤดูกาล 2008-2009 เขาก็ตัดสินใจขายสโมสรให้ “อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป” ในราคาราว 150 ล้านปอนด์ (ราว 6,600 ล้านบาท) ที่ทำให้เขาได้กำไรไปถึง 70 ล้านปอนด์ (5,600 ล้านบาท) หลังซื้อมาด้วยราคา 23 ล้านปอนด์ ( 973 ล้านบาท)
หลังจากนั้น ทักษิณ ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลอีกเลย แต่ถึงอย่างนั้น ชื่อของเขาก็ยังจดจำเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในหมู่แฟนบอลแมนฯ ซิตี้ ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบก็ตาม
แหล่งอ้างอิง
https://www.express.co.uk/sport/othersport/25244/Thaksin-sets-top-target
https://www.itv.com/news/2017-06-19/remembering-the-thaksin-shinawatra-era-at-man-city-ten-years-on
ข่าวและบทความล่าสุด
MOST POPULAR
63 ทีมพร้อมระเบิดศึกฟุตบอลเยาวชน "LALIGA Youth Tournament" ครั้งแรกในประเทศไทย เฟ้นยอดนักเตะสู่ลาลีกา อะคาเดมี่
ปรับขนาดสนามแคบ : กลยุทธ์ที่เป็นดาบสองคมในศึกญี่ปุ่นปะทะจีน
ทิพยฯ จับมือ สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค ปั้นนักวอลเลย์บอล โครงการ ทิพย วอลเลย์บอล คลินิก ครั้งที่ 3
เปิด 4 ปัจจัยสำคัญพา อินโดนีเซีย สร้างประวัติศาสตร์เชือด ซาอุดิอาระเบีย
VOLT เปิดตัวช็อปเมืองทองธานี พ่วงคอลเล็กชั่นพิเศษ VOLT x Headaek
