โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส : "ออสซี่ เวย์ V.3" โดย แฮร์รี่ คีลล์ โหดแค่ไหนก่อนชน "แข้งเทพ"

โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส : "ออสซี่ เวย์ V.3" โดย แฮร์รี่ คีลล์ โหดแค่ไหนก่อนชน "แข้งเทพ"
ชยันธร ใจมูล

โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ถือเป็นทีมที่คุ้นหู คุ้นตาของแฟนฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี เพราะครั้งหนึ่งพวกเราต่างเคยติดตามทีมนี้อย่างใกล้ชิดในวันที่ ธีราทร บุญมาทัน เป็นนักเตะของ มารินอส และแน่นอนว่าความประทับใจไม่ลืมที่นักเตะไทยได้ชูถ้วยแชมป์ลีกของญี่ปุ่น ยังคงอยู่ในความทรงจำของเราอยู่เสมอ

ทว่าตอนนี้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป มารินอส ในเวอร์ชั่นปัจจุบันไม่มีกุนซืออย่าง แอนจ์ ปอสเตโคกลู ที่ปัจจุบันกุนซือใหญ่ของ สเปอร์ส, เควิน มุสแค็ต ที่ย้ายไปคุมทีม ซังไห่ พอร์ท หรือ เซี่ยงไฮ้ SIPG เดิม

พวกเขานำทัพโดยกุนซือหนุ่มอย่าง แฮร์รี่ คีลล์ ปีกซ้ายระดับตำนานของทีมชาติออสเตรเลีย ที่เคยค้าแข้งกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล มาก่อน

เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขากำลังจะเจอกับตัวแทนจากไทยลีกอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอาต์... ก่อนเกมๆ นี้ มารินอส โฉมใหม่ที่ยังใช้กุนซือชาวออสซี่อยู่เป็นอย่างไร ? แข็งขนาดไหน ? บียู จะสู้ได้หรือไม่ ไปดูกันเลย

ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง

โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เข้ามาในฐานะเเชมป์ของกลุ่ม G โซนตะวันตก โดยผลงาน 6 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาชนะ 4 เสมอ 0 และแพ้ 2 โดย 4 เกมที่ชนะคือการชนะ ซานตง ไท่ซาน 3-0 (เหย้า), คาย่า (ฟิลิปปินส์) 3-0, ชนะ อินชอน ยูไนเต็ด (เกาหลีใต้) 2-0 , และชนะ คาย่า อีก 2-1 (เกมเยือน)

อย่างไรก็ตามแม้เป็นแชมป์กลุ่ม แต่ โยโกฮาม่า มารินอส ที่มี 12 แต้ม ก็มีแต้มเท่ากับ ซานตง และ อินชอน (คาย่าแพ้ทุกเกม) แต่โชคดีที่พวกเขามี H2H ที่ดีกว่า จึงทำให้เข้ารอบมาเป็นแชมป์ได้ ซึ่งนั่นแสดงว่าผลงานของพวกเขาไม่ได้ดีมากนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมรับว่า โยโกฮาม่า มารินอส เองก็มีการหมุนเวียนนักเตะ ใช้ตัวสำรองลงสนามหลายเกม เนื่องจากในช่วงเวลาที่เตะ ACL รอบแบ่งกลุ่ม เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาขับเคี่ยวเเย่งเเชมป์ลีกกับ วิสเซล โกเบ ซึ่ง มารินอส ก็ไปจัดเต็มในลีกมากกว่า เนื่องจากเห็นแชมป์ใกล้กว่า และพวกเขายังเป็นแชมป์เก่าของศึกเจลีกอีกด้วย

นอกจากนี้ประเด็นสำคัญคือ คนที่คุมทีมจบรองแชมป์เจลีก และพาทีมเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกอย่าง เควิน มุสแค็ต ไม่ได้คุมทีมทีม มารินอส แล้ว โดยมีกุนซือใหม่อย่าง แฮร์รี่ คีลล์ เซ็นสัญญากับทีมในช่วงวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนับเวลาตอนนี้เขามีเวลาทำทีมราว 1 เดือนเท่านั้น

เควิน มุสแค็ต ไม่ได้ไปต่อกับทีมก่อนประแข้งกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (เครดิตภาพ : PHILIP FONG / AFP)

ในช่วง 1 เดือนคร่าว ๆ มารินอส มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ก่อนที่พวกเขาจะต้องเจอกับ ทรู แบงค็อกฯ จ่าฝูงของไทยลีกในเวลานี้

ของใหม่มากมาย

ไม่ใช่แค่ คีลล์ เท่านั้น ที่มาใหม่ในฐานะกุนซือ กลุ่มนักเตะหลายคนก็มีการเปลี่ยนแปลง โดย 2 ตัวหลักของทีมในซีซั่นที่แล้วอย่าง เรียวทาโร่ สึโนดะ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และ พาลล์ โอบินน่า โอบิ ผู้รักษาประตูของทีม ได้ย้ายออกไปหลังจากจบฤดูกาล

ตัวที่เข้ามาแทนคือ วิลเลี่ยม พ๊อพพ์ ผู้รักษาประตูจาก มาชิดะ เซลเวีย ที่พาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้ในซีซั่นที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้ เร็น คาโตะ แบ็คซ้ายตัวหลักที่พาโตเกียว เวอร์ดี้ เลื่อนชั้นมาเสริมทัพด้วยเช่นกัน

นอกจาก 2 ตัวนี้ที่เข้ามาเป็นตัวหลักยังมี คาซึยะ ยามามูระ กองหลังจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล่, ไทกิ วาตานาเบะ แบ็คจาก อัลบิเร็กซ์ นีงาตะ ซึ่งเรียกง่ายๆ ว่าแผงเกมรับของ มารินอส ที่เป็นจุดอ่อนที่ทำให้ทีมเสียเเชมป์ในซีซั่นที่แล้ว โดนโละใหม่เกือบยกเเผงเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตามในส่วนของเกมรุกนั้นตัวหลัก ๆ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงนำโดย อันแดร์สัน โลเปส กองหน้าชาวบราซิล (2 ประตูในรอบแบ่งกลุ่ม), เอลแบร์ (2 ประตู 4 แอสซิสต์), เรียว มิยาอิจิ (1 ประตู 1 แอสซิสต์), โคตะ มิซึสุมะ (2 ประตู), ยาน มาเธอุส (2 ประตู) ที่ยังอยู่กับทีมทั้งหมด

เอลแบร์ ตัวแสบแห่ง มารินอส เตรียมลงประชันกับ ทรู แบงค็อกฯ เกม ACL (เครดิตภาพ : YUICHI YAMAZAKI / AFP)

ซึ่งมองจากจุดนี้ น่าจะทำให้แข้งเทพเห็นโอกาสเล็กๆ ในการเอาชนะ เพราะอย่างน้อยที่สุดแล้ว พวกเขาจะต้องจัดแนวรับชุดใหม่ ดังนั้นเรื่องการสื่อสารน่าจะพอมีช่อง มีจังหวะให้ บียู ได้ลุ้นประตูง่ายขึ้นตามธรรมดาของการปรับตัว เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา โยโกฮาม่า มารินอส ไม่ได้มีเกมอุ่นเครื่องทางการเลย มีแต่เกมอุ่นเเบบปิด กับทีมท้องถิ่นซึ่งไม่มีสกอร์แจ้งให้ทราบ ซึ่งจากชื่อชั้นแล้วก็คงยังไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมายนัก

แต่เกมรุกมองดูแล้วงานหนักแน่นอน เพราะกลุ่มนักเตะชุดนี้ถือเป็นชุดที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ตอนคว้าเเชมป์เจลีกปี 2023 และรองแชมป์ 2024 เรื่องความเข้าขา รู้ใจไม่ต้องพูดถึง น่าจะเป็นอันตรายกับเกมรับแข้งเทพไม่มากก็น้อย

สไตล์การเล่น ?

สาเหตุที่ มารินอส เลือก คีลล์ เข้ามาคุมทีมต่อ เพราะพวกเขาเชื่อว่าในระยะเวลานั้น ๆ ที่มีโอกาสปรับปรุงทีมเพียง 2 เดือนกว่า ๆ การใช้กุนซือออสเตรเลีย ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันกับกุนซือเก่าของพวกเขาทั้ง 2 คนไม่ว่าจะเป็น แอนจ์ โปอสเตโคกลู และ มุสแค็ต เพราะเคยทำงานด้วยกันมาแล้วที่ เซลติก และในทีมชาติออสเตรเลีย

ในช่วงระยะเวลาที่กระชั้นชิดการเลือก คีลล์ ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีมมากนัก เพราะแนวทางและโครงในการทำทีมไม่ต่างกันเยอะ โดย คีลล์ ก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำทีมของเขาว่าจะเป็นฟุตบอลที่เล่นเกมบุก เน้นความฟิต และเข้าแย่งบอลแบบเพรสซิ่งเเดนบนเหมือนกับที่ แอนจ์ และ มุสเเค็ต ทำ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยอมรับคือแม้เขาจะบอกว่าเล่นเกมบุก แต่มันจะมีคุณภาพขนาดไหน? เพราะ คีลล์ ไม่เคยประสบความสำเร็จในระดับที่ตัวเองเป็นกุนซือใหญ่เลย หลายครั้งที่เขาคุมทีมจบลงด้วยการถูกไล่ออก และมีอัตราการชนะต่ำมาก ยกตัวอย่างเช่นการคุม บาร์เน็ท เมื่อ 5 ปี ก่อน ที่เป็นทีมดิวิชั่น 5 ของอังกฤษ คีลล์ ได้คุมทีม 7 นัด แพ้ 5 เสมอ 2 จนต้องออกจากตำแหน่งด้วยอัตราการชนะ 0%

จะหมู่หรือจ่า? แฮร์รี่ คีลล์ ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ เริ่มต้นกับเกมเจอแข้งเทพเลย (เครดิตภาพ : ANDY BUCHANAN / AFP)

แต่แน่นอนที่สุดการเวลาเปลี่ยนคนอาจจะเปลี่ยน ช่วงที่ผ่านมา คีลล์ ทำงานกับ แอนจ์ อย่างใกล้ชิดที่ เซลติก ในฐานะมือขวา นอกจากนี้ยังรับตำแหน่งมือขวาของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต่ออีก 1 ซีซั่น การทำงานกับยอดโค้ชในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา น่าจะให้ไอเดียอะไรกับเขาไม่มากก็น้อย แต่ที่แน่ ๆ เกมรุกยังคงเป็นสิ่งสำคัญของเขาเป็นหลัก ส่วนจะร้อนแรงแค่ไหน ก็ต้องไปรอดูกันในเกมกับ บียู คืนวันนี้

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ