ป้องกันแชมป์ไม่ง่าย : วิเคราะห์จุดอ่อน ‘บุรีรัมย์’ หลังพ่าย ‘แบงค็อก’ ชวดถ้วยแรก
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ประจำศึก ไทย ลีก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในฤดูกาลก่อน จากการคว้าสามแชมป์เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน เก็บครบทั้งถ้วย ไทย ลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ แบบไม่แบ่งทีมใดเลย แต่กลับเปิดหัวซีซั่น 2023/24 ได้อย่างไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ หลังชวดแชมป์ ไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2023 ด้วยการพ่ายให้กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 0-2
หากเป็นแฟนบอลที่คอยเอาใจช่วย ปราสาทสายฟ้า ให้จบซีซั่นด้วยการเป็นแชมป์ลีกแบบไร้พ่ายในฤดูกาลก่อน คงจะจำกันได้เป็นอย่างดีว่า ‘แข้งเทพ’ ภายใต้การนำทัพของ โค้ชแบน-ธชตวัน ศรีปาน ทีมนี้เองที่ดับฝันพวกเขา ด้วยการบาดเอาชนะว่าที่แชมป์ไป 4-3 แบบสุดมัน
กลายเป็นว่าการเจอกันของทั้งคู่ ใกล้จะเหมือน ‘งูเหลือมเจอเชือกกล้วย’ เข้าไปทุกที เพราะทางลูกทีมของโค้ชแบบนั้นสามารถกำราบสโมสรระดับ ทริปเปิ้ล แชมป์ ได้เป็นเกมที่สองติดต่อกันแล้ว แถมครั้งนี้ยังเก็บคลีนชีทได้อีกด้วย
จากผลสกอร์และรูปเกมนัดล่าสุดพอจะมองเห็นได้ว่างานของ มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชญี่ปุ่นมากฝีมือของ บุรีรัมย์ นั้นไม่ง่ายเหมือนเดิมแน่ในซีซั่นนี้ เพราะลูกทีมของเขาเริ่มเผยจุดบอดมาให้เห็นแล้วหลายจุด ซึ่งจะกลายเป็นช่องโหว่ให้อีกหลายทีมจ้องเล่นงานแน่นอน จุดอ่อนเหล่านั้นคืออะไรกันบ้าง? ร่วมวิเคราะห์หาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
การเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น
ซีซั่นนี้ บุรีรัมย์ ต้องเจอกับความท้าทายอย่างสูง หลังจากทีมมีการเปลี่ยนแปลงขุมกำลังภายในทีมหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นนักเตะไทยหรือโควต้าต่างชาติ ล้วนสวนทางเข้า-ออกกันให้วุ่นอยู่หลายดีลเลยทีเดียว
แน่นอนว่าการเสีย ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ โจนาธาน โบลิงกิ สองแนวรุกคนสำคัญของทีมออกไป ทำให้ขุมกำลังในเกมบุกจำเป็นต้องหานักเตะที่ดีกรีฝีเท้าใกล้เคียงกันเข้ามาทดแทน ซึ่งจากที่ทีมงานซื้อ-ขายของ ปราสาทสายฟ้า คัดมาแล้ว หวยก็ไปออกที่ รามิล เชย์ดาเยฟ ดาวซัลโวจากสโมสร คาราบัค ในลีกอาเซอร์ไบจาน และ นิโคเลา คาร์โดโซ่ ตัวริมเส้นเจ้าของฉายา ‘เงาอองรี’ ที่เคยผ่านการเล่นให้กับ นาโปลี มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เชย์ดาเยฟ ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ ถูกจับถ่างออกไปเล่นริมเส้นทางด้านซ้าย ซึ่งดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวเท่าไหร่นัก เลยทำผลงานได้แค่ประคองตัว ต่อบอลได้ เชื่อมบอลได้ มีจังหวะโยนจากริมเส้นเข้าไปลุ้น แต่ขาดจังหวะลากตะลุยแบบทะลุทะลวง ส่วนทาง คาร์โดโซ่ ไม่มีชื่อแม้แต่การเป็นตัวสำรอง
แม้ว่าผลงานของ เชย์ดาเยฟ จะยังไม่เข้าตามากนักแต่เรื่องของทัศนคติและความมุ่งมั่น อาจพอทำให้แฟนบอล GU12 เบาใจได้บ้าง เพราะเขาเคยให้สัมภาษณ์ตอนที่ย้ายสังกัดช่วงแรกๆ ของอาชีพไว้ว่า
“ผมคงรู้สึกเสียใจภายหลังแน่ๆ หากไม่ย้ายทีมมาที่นี่ สโมสรแห่งนี้ทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าพวกเขาสนใจผมอย่างจริงจัง และรอชมผลงานที่ดีจากผมและจำนวนประตูมากมายที่หวังว่าผมจะยิงได้”
“ผมต้องปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ให้เร็วที่สุด ผมจะพยายามทำอย่างดีที่สุดในการลงประเดิมสนามเกมแรกให้กับทีม”
อย่างไรก็ตาม เชย์ดาเยฟ เป็นแนวรุกที่มีจุดเด่นอยู่ที่สัญชาติญาณการยิงประตู การสอดเข้าไปหาจังหวะทำสกอร์ หากตำแหน่งของเขานั้นถูกจับมายืนห่างจากกรอบ 16 หลา โอกาสที่จะใช้จุดเด่นของเขาในการโจมตีก็จะหายไป ยิ่งเรื่องของการใช้ความเร็ว กระชากลากเลื้อย แหวกแผงหลังคู่แข่ง ไม่ใช่สไตล์ที่เขาถนัดอยู่แล้ว ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับทีมอาจเค้นออกมาได้ไม่เต็มที่
ส่วนทางด้านกองหลังตัวเก๋าชาวเกาหลีใต้อย่าง คิม มิน-ฮยอก ก็ได้ลงมาเล่นเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง โควต้าการย้ายทีมของเขา ถูกตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า จะมาแทนที่ เรบิน ซูลาก้า ที่ย้ายสวนทางออกไป แต่ดูแล้วยังต้องใช้เวลาปรับตัวอีกพอสมควร เนื่องจากเรื่องของความเร็วนั้นยังไล่ตามแนวรุกคู่แข่งแทบไม่ทัน
แนวทางการเล่นที่ถูกแก้ทาง
เกมนี้ อิชิอิ โค้ชจากแดนอาทิตย์อุทัย เลือกใช้ระบบการเล่น 4-2-3-1 ในการออกสตาร์ท แนวรับยังเป็นตัวหลักจากซีซั่นก่อนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (แบ็คขวา), พรรษา เหมวิบูลย์ (เซนเตอร์แบ็ค), ดิออน คูลส์ (เซนเตอร์แบ็ค) และ ธีราทร บุญมาทัน (แบ็คซ้าย)
กองกลางตัวปัดกวาดหน้าแผงหลังสองคน ก็ยังเลือกใช้สองตัวหลักหน้าเดิมจากซีซั่นก่อน เป็นการจับคู่กันของ โกรัน เคาซิช และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่เล่นเกมรับได้ดีทั้งคู่ เคาซิช จะรับหน้าที่เชื่อมบอลสร้างสรรค์เกม ส่วนทาง พีรดนย์ จะคอยไล่ตัดบอล แล้วหาจังหวะสอดไปยิงจากแถวสอง
แนวรุกทั้ง 4 คนประกอบไปด้วย ศศลักษณ์ ไหประโคน (ปีกขวา), ศุภชัย ใจเด็ด (หน้าต่ำ), รามิล เชย์ดาเยฟ (ปีกซ้าย) และ ลอนซาน่า ดูมบูย่า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า คอยพักบอล เก็บบอล และโฉบเข้าหาพื้นที่อันตรายในกรอบเขตโทษเพื่อจบสกอร์
ปัจจัยหลักที่ทำให้ บุรีรัมย์ ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำเมื่อซีซั่นก่อน คือ การฉกฉวยความผิดพลาดของคู่ต่อสู้ ตัดบอลอย่างรวดเร็วในแดนคู่แข่ง แล้วหาจังหวะลงโทษได้อย่างเฉียบคม ซึ่งมีจุดเริ่มมาจากการดันผู้เล่นจำนวนหลายคนขึ้นไปเพรสซิ่ง หรือ กดดันคู่แข่งในแดนบน เพื่อลุ้นที่จะฉกบอลได้กลางทาง
อย่างไรก็ตาม โค้ชแบน ของทางฝั่ง แบงค็อก ยูไนเต็ด รู้ดีถึงความน่ากลัวในการเล่นจุดนี้ของ บุรีรัมย์ จึงหาวิธีรับมือเอาไว้แล้ว คือ การเคาน์เตอร์เพรสซิ่ง ใส่กองกลางที่มีจุดเด่นในการแก้เพรสเก่ง ออกบอลได้ดี เอาตัวรอดได้ ลงมาหลายราย อาทิ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, ปกเกล้า อนันต์ และตัวโจ๊กเกอร์อย่าง รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ที่เคลื่อนที่ไปทั่วสนาม
สามกองกลางที่เล่นเกมรับได้ดีอย่าง ทศวรรษ, ฐิติพันธ์ และ ปกเกล้า ทุกคนมีทักษะเฉพาะตัวเรื่องการออกบอลสั้น-ยาวที่แม่นยำได้ทั้งหมด แล้ววิชั่นในการออกบอลนั้นก็ไม่ธรรมดา สามารถเห็นว่าผู้เล่นแดนบนของพวกเขานั้นอยู่ตรงไร เตรียมจะออกตัววิ่งช่องใด แล้วก็พร้อมจะออกบอลไปยังเป้าหมายแบบไม่มากจังหวะ
แนวรุกแดนบนที่มี มาห์มู้ด เอด และ วิลเล่น โมต้า ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากมาย รอจังหวะออกตัววิ่ง รอรับบอลยาวจากการตักข้ามแนวรับผู้เล่น บุรีรัมย์ ที่ดันกันขึ้นมาในแดนของ แบงค็อก เมื่อไล่ไม่จน พื้นที่ไลน์หลังแนวกองหลังก็เหมือนรันเวย์ให้วัดสปีดกันแบบยาวๆ
พอมีทาง รุ่งรัฐ ที่เลี้ยงกินตัวได้ดีคอยป่วนอีกทาง ยิ่งทำให้จับทางได้ยากขึ้นไปใหญ่ สุดท้ายก็เป็นที่มาของสองประตูในเกมนี้ที่เกิดขึ้นจากการฉวยโอกาสทำเร็ว ไม่มากจังหวะ แล้วเป็นทาง โมต้า และ เอด ที่ลงโทษเข้าไปแบบไม่มีพลาด
หลังจบเกม อิชิอิ เฮดโค้ชของ บุรีรัมย์ ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับความพ่ายแพ้โดยดุษฎีในเกมนี้เอาไว้ว่า
“เราไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา ผมเห็นข้อผิดพลาดจากเกมนี้แล้วหลายต่อหลายอย่าง การจะคว้า 3 แชมป์มันคือเป้าหมายของเรา แฟนบอลต่างก็คาดหวังที่จะเห็นเราเป็นแชมป์ เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ออกมาดีที่สุด”
ว่ากันตามตรงแล้วแท็คติกการ ‘เพรสิซิ่งแดนบน’ ของ อิชิอิ นั้นไม่ใช่แนวทางที่ผิดพลาดอะไร แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมเป็นเรื่องของตัวผู้เล่นที่เปลี่ยนไปจากชุดทริปเปิ้ลแชมป์ปีก่อนต่างหาก ที่ทำให้ศักยภาพของรูปแบบการเล่นนั้นลดลง
หากแนวรุกแดนบนยังมี ศุภณัฏฐ์ กับ โบลิงกิ ซึ่งเป็นสองผู้เล่นที่ไล่บอลเก่ง เข้าถึงตัวคู่แข่งได้ไว และตัดบอลได้ดี สร้างจังหวะการเข้าทำช็อตต่อไปได้เอง ความน่ากลัวทั้งเกมบุกและเกมรับประสิทธิภาพคงไม่ต่างจากปีก่อน
แต่พอเปลี่ยนมาเป็น เชย์ดาเยฟ แนวรุกสายเทคนิค เชิงสูง ไม่ถนัดในการเล่นเกมรับ และ ศศลักษณ์ ที่รูปร่างความแข็งแกร่งเป็นรอง แบงค์ พอสมควร หากคาดหวังให้ทั้งคู่ทำผลงานได้เทียบเท่ามาตรฐานเจ้าของตำแหน่งเดิมคงยาก ดังนั้นต้องมาลุ้นกันอีกทีว่า อิชิอิ จะใช้กึ๋นของตัวเอง แก้ข้อบกพร่องต่างๆ อย่างไรต่อไป
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
https://www.naewna.com/sport/748403
https://www.transfermarkt.com/buriram-united/startseite/verein/25449
https://www.sofascore.com/true-bangkok-united-buriram-united/tJnsQoJ#11424191
https://report.az/en/football/ramil-sheydayev-my-hopes-great-for-azerbaijani-national-team/
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รามิล เชย์ดาเยฟ : แข้งใหม่ บุรีรัมย์ ที่ทำให้ รัสเซีย และ อาเซอร์ไบจาน แย่งตัวกัน
นิโคเลา คาร์โดโซ่ : กองหน้า บุรีรัมย์ ที่เคยถูกเรียกว่า “เงา อองรี”
เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก
คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ
เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?
บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้
คุณสมบัติอะไรที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ?