พ่อ “ซน ฮึง-มิน” เผยเคยโดนเพื่อนบ้านแจ้งตำรวจจับ เพราะฝึกลูกชายหนักเกินไป

กว่า ซน ฮึง-มิน จะก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ของพรีเมียร์ลีกอย่างทุกวันนี้ เป็นที่รู้กันว่าเขาผ่านการฝึกฝนสุดโหดจาก ซน อุง-จง ผู้เป็นพ่อ มาตั้งแต่เด็ก ชนิดผู้ใหญ่หลายคนยังอาย ซึ่งกว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้เรียกว่าเลือดตาแทบกระเด็น แต่มันก็คุ้มค่าเมื่อดูจากผลลัพธ์ที่ออกมา

ล่าสุด ซน อุง-จง ได้ไปออกรายการวาไรตี้ “You Quiz on the Block” ทางสถานีโทรทัศน์ TVN ของเกาหลีใต้ และได้เล่าถึงวิธีการเคี่ยวเข็ญลูกชายตั้งแต่วันแรก จนในที่สุด ซน ฮึง-มิน ก็กลายเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ

ซน อุง-จง เล่าว่า ซน ฮึง-มิน เข้ามาบอกเขาว่า อยากเล่นฟุตบอลตั้งแต่ตอนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เขาจึงเริ่มถ่ายทอดศาสตร์ลูกหนังให้กับลูกชายแบบหนักหน่วง เฉลี่ยแล้ววันละ 6 ชั่วโมง ตั้งแต่ตอนนั้นไปจนถึงตอนที่ ซน ฮึง-มิน อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งมีครั้งหนึ่งเคยถูกเพื่อนบ้านแจ้งตำรวจจับมาแล้ว เพราะถูกมองว่าฝึกลูกชายหนักเกินไป

“คุณไม่สามารถให้เด็กที่ยังเดินไม่ได้ วิ่งในระยะ 100 เมตรได้ ถ้าคุณเพิกเฉยต่อเบสิคพื้นฐาน ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะไม่ดี นั่นคือเหตุผลที่ผมเริ่มฝึกเบสิคกับ ซน ฮึง-มิน ตั้งแต่การควบคุมลูกฟุตบอล” ซน อุง-จง กล่าวในรายการ

“ครั้งหนึ่งมีคนแจ้งความจับผม เพราะเราซ้อมกันอย่างหนัก โดยไม่มีวันหยุดพักเลย ไม่ว่าจะเป็นวันคริสต์มาส หรือ วันขึ้นปีใหม่ พวกเราก็ไม่หยุดซ้อม”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสุขของเขา เขาต้องมีความสุขเมื่อเล่นฟุตบอล และการที่จะมีความสุขได้ เขาต้องเล่นฟุตบอลให้ดี”

ซน อุง-จง ยังเล่าวิธีการฝึกที่น่าสนใจอีกว่า เขาไม่ให้ลูกชายยิงบอลจนกว่าอายุจะครบ 18 ปี เพราะคิดว่ากล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่าง ๆ ของเด็กวัยนั้นยังโตไม่เต็มที่ และอาจส่งผลต่ออาการบาดเจ็บในระยะยาว หากอนาคตก้าวเข้าไปเล่นในลีกอาชีพได้

“เด็กเริ่มฝึกฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาถูกใช้งานหนักเกินไปในระหว่างนั้น ซึ่งเมื่อพวกเขาเข้าไปเล่นในลีกอาชีพแล้ว พวกเขาก็จะเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บ คุณคงเห็นนักเตะอายุน้อย ๆ เข้ารับการผ่าตัด เพราะพวกเขาฝืนตัวเองมากเกินไป” ซน อุง-จง กล่าว

“วัยเด็กยังไม่พร้อมที่จะยิงบอลเต็มแรง เพราะยังเด็กและอ่อนแอเกินไป กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นของพวกเขายังอยู่ระหว่างเติบโต ดังนั้นพวกเขาไม่ควรฝึกยิงประตู”

ซน ฮึง-มิน ถือเป็นตัวจบสกอร์ที่สมบูรณ์แบบ เขาสามารถยิงได้ทั้งเท้าขวาและซ้าย โดยผลลัพธ์ที่ออกมาแทบไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งเป็นผลมาจากการฝึกของ ซน อุง-จง ที่สอนให้เขาใช้เท้าข้างไม่ถนัดมาตั้งแต่เด็ก

“ในวัยเด็ก ซน ฮึง-มิน (ถนัดขวา) ต้องล้างเท้าซ้ายก่อน เขาต้องใส่ถุงเท้าข้างซ้ายก่อน และใช้เท้าซ้ายเดินลงไปในสนามก่อน” ซน อุง-จง เล่าต่อ

“ตอนซ้อมเขาต้องใช้เท้าซ้ายมากกว่าเท้าขวา 1.5 เท่า ถ้าเขาใช้แต่เท้าขวา คู่ต่อสู้ก็จะจับทางได้ง่าย ดังนั้นผมจึงต้องฝึกให้เขาใช้เท้าซ้าย”

ปิดท้ายรายการ ซน อุง-จง ยังคงยืนกรานคำเดิมว่า ซน ฮึง-มิน ยังไม่ใช่นักเตะระดับโลกในสายตาเขา โดยกล่าวว่า “เขายังไม่ใช่นักเตะระดับโลก มันยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

“เพราะเขาคือลูกชายของผม ผมอาจมองแบบอนุรักษ์นิยมไปนิด ผมจึงหวังว่าฟุตบอลของเขาจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน้อยครั้งละ 10% แต่เมื่อถึงช่วงขาลงแล้ว เขาต้องลงอย่างสง่างามด้วย”

สำหรับ ซน ฮึง-มิน กลายเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก และเพิ่งช่วยทีมชาติเกาหลีใต้ทะลุรอบน็อคเอาท์ในฟุตบอลโลก 2022 ทั้งที่สภาพร่างกายจะไม่สมบูรณ์ เพราะเข้ารับการผ่าตัดกระดูกเบ้าตาแตก จนต้องใส่หน้ากากลงสนาม

แหล่งที่มา : https://www.dipe.co.kr/2231061?fbclid=IwAR1h2GRuUkmHJWaYya2OyN3y32q82vQKJkZ73jSuWwU6UorxapuT-Quid44

https://www.football-asian.com/news/articleView.html?idxno=2972

https://korea.postsen.com/sports/111419/Mr-Son-Woong-jeong-Son-Heung-min-is-not-yet-%E2%80%98world-class%E2%80%99%E2%80%A6-Still-unchanged.html

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด