รามิล เชย์ดาเยฟ : แข้งใหม่ บุรีรัมย์ ที่ทำให้ รัสเซีย และ อาเซอร์ไบจาน แย่งตัวกัน

รามิล เชย์ดาเยฟ คือใคร ?

รามิล เชย์ดาเยฟ เป็นกองหน้าลูกครึ่ง อาเซอร์ไบจาน-รัสเซีย เล่นให้กับสโมสร คาราบัค ในอาเซอร์ไบจาน เชื่อว่าทีมนี้คงจะเป็นที่คุ้นหูแฟนฟุตบอลไทยที่ติดตามฟุตบอลยุโรปเป็นอย่างดีเพราะผ่านประสบการณ์การเล่นในทั้งในฟุตบอลยุโรปทั้งถ้วยใหญ่และถ้วยเล็กอยู่เสมอในยุคหลัง

กลับมาว่ากันที่เรื่องของ เชย์ดาเยฟ นั้นดีกรีที่เขาสร้างมาถือว่าไม่ธรรมดา วัดกันที่ผลงานสด ๆ ร้อน ๆ กับ คาราบัค ต้องบอกว่านี่คือ 1 ของจริงก็คงไม่ผิดนัก เพราะ ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาคือดาวซัลโวของ อาเซอร์ไบจาน พรีเมียร์ลีก โดยยิงไป 22 ประตูจาก 34 เกม และแน่นอนว่าสโมสรของเขากลายเป็นแชมป์ประจำฤดูกาลล่าสุดอีกด้วย

และถ้าใครคิดว่าเขาอาจจะเหมือนกองหน้าต่างชาติคนอื่น ๆ ที่มาหากินในไทยตอนอายุเยอะ ๆ ก็คงต้องคิดใหม่เพราะปัจจุบัน เชย์ดาเยฟ อายุ 27 ปีเท่านั้น อยู่ในช่วงกำลังพีกของอาชีพนักฟุตบอลพอดิบพอดี นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสไตล์การเล่นของ เชย์ดาเยฟ ที่หากใครได้ลองไปส่อง ๆ ดูในยูทูบมาบ้าง คุณจะพบว่าส่วนสูงของเขาหลอกตาแน่นอน เพราะ แม้จะสูงเกือบ 190 เซ็นติเมตร(บางแหล่งบอก 188 บางแหล่งบอก 190) แต่วิธีการเล่นของเขาไม่ได้เป็นหน้าเป้าโบราณที่มีไว้พักบอลเลยแม้แต่น้อย

เชย์ดาเยฟ สไตล์ไหน

อย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น เชย์ดาเยฟ ไม่ใช่กองหน้าเป้าโบราณที่มีไว้โหม่งหรือพักบอล เขาคือกองหน้าตัวเป้าในแบบฉบับของกองหน้ายุคใหม่ที่สามารถขยับออกมาเป็นตัวริมเส้นได้ทั้งสองฝั่ง ถ้าหากจะบอกว่าเขาเล่นเหมือนใครและเห็นภาพที่สุดก็คงต้องตอบว่าเหมือนกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในเวอร์ชั่นที่ดรอปเรื่องคุณภาพลงมา

คำว่าสไตล์เหมือน โรนัลโด้ ที่กล่าวมาคือเป็นกองหน้าตัวใหญ่ที่มีสปีดสูง จังหวะการเอาตัวรอดแบบ 1-1 ถือว่าร้ายกาจ มีจังหวะสับขาโยกหลอกที่ทำแล้วดูเนียนตาไม่เก้งกาง และนอกจากจะเร็วแล้วร่างกายที่แข็งแรงของเขาชนกองหลังกระเด็นไปหลายคน(จากคลิปวีดีโอ)

หากจะอ้างอิงจากยูทูบอย่างเดียวก็คงจะดูง่ายไปหน่อย เราไปให้ลึกลงอีกในส่วนของการบันทึกสถิติของ เชย์ดาเยฟ ในเว็บไซต์เก็บสถิติอย่าง Whoscored.com เราก็จะพบว่าสถิติการเล่นเกมรุกของเขานั้นไม่ธรรมดา

โดยสถิติที่เว็บไซต์นี้บันทึกได้นั้นเป็นสถิติจากการที่เขาลงเล่นในระดับยุโรปทั้ง ยูฟ่า เนชั่นส์ คัพ และ ยูโร รอบคัดเลือก กับทีมชาติอาเซอร์ไบจาน, ยูโรป้า ลีก, คอนเฟอร์เรนซ์ลีก ซึ่งต้องถือว่าเป็นการเจอกับคู่แข่งที่เก่งกว่าหากเทียบจากชื่อชั้นของทีมชาติของเขาและกับสโมสร แต่ในปีล่าสุด เชย์ดาเยฟ มีค่าเฉลี่ยหาโอกาสยิงได้ 2.3 ครั้งต่อ 1 เกม และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งเฉลี่ย 2 ครั้งต่อ 1 เกม (ยิงประตูใส่ทีมชาติระดับท็อป10 ของโลกมาแล้วทั้ง เยอรมัน และ โครเอเชีย)

คุณอาจจะมองว่ามันไม่ใช่ตัวเลขที่เยอะ แต่เราจะลองไปเทียบกับนักเตะระดับสูง ๆ ในสไตล์ที่คล้ายกัน (เล่นหน้าเป้า+ตัวรุกฝั่งซ้าย) คนอื่น ๆ อย่าง โคดี้ กักโป (ได้ยิงเกมละ 2.3 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่าน 2.3 ครั้ง) หรือคนที่ฟอร์มร้อน ๆ อย่าง แรชฟอร์ด ก็มีสถิติในการหาจังหวะยิงประตูและเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้มากกว่า เชย์ดาเยฟ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (โอกาสยิง 2.9 ครั้งต่อ 1 เกม, เลี้ยงบอลผ่าน 1.5 ครั้งต่อเกม)

เรียกได้ว่า ณ ตอนนี้ เชย์ดาเยฟ คือนักเตะเบอร์ 1 ของอาเซอร์ไบจาน ก็คงไม่ผิดนักโดยมีคำอ้างอิงจาก นาซิม อาลิเยฟ ตำนานนักเตะชาวอาเซอร์ไบจาน ที่คว้าดาวซัลโวลีกมา 3 ครั้ง และเป็นดีกรีแข้งทีมชาติสหภาพโซเวียตในปลายยุค 80s และติดทีมชาติ อาเซอร์ไบจาน หลังจากแยกประเทศ ยังพูดถึง เชย์ดาเยฟ ว่า

"เชย์ดาเยฟ คือกองหน้าที่ผมชื่นชอบที่สุด เขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง สามารถเล่นและเอาชนะการเล่นแบบตัวต่อตัวได้ดีมาก ๆ ที่สำคัญเขาคือกองหน้าที่มีเซ้นส์ในการยิงประตูโดดเด่นมาก เขาทำได้ทุกอย่างในสิ่งที่คุณต้องการจากกองหน้าคนหนึ่ง" ตำนานเเข้งโซเวียต กล่าว

ว่ากันง่าย ๆ ว่าความเก่งกาจของ เชย์ดาเยฟ นั้นเคยทำให้สมาคมฟุตบอลของรัสเซียต้องหัวเสียมาแล้วที่เขาเลือกเล่นให้กับทีมชาติอาเซอร์ไบจาน แทนที่จะเล่นให้กับทีมชาติรัสเซีย

ดราม่าเรื่องทีมชาติ

อย่างที่ได้กล่าวไว้ เชย์ดาเยฟ เป็นลูกครึ่งรัสเซีย อาเซอร์ไบจาน เขามีพ่อและแม่เป็นเชื้อสายอาเซอร์ไบจาน แต่เกิดและโตในรัสเซีย ก่อนจะเริ่มเล่นฟุตบอลกับอคาเดมี่ที่ดีที่สุดในประเทศของสโมสรเซนิตเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมเดียวกับที่ผลิตนักเตะทีมชาติรัสเซียแทบยกชุด

ซึ่ง เชย์ดาเยฟ ถือเป็นเบอร์ต้น ๆ ของรุ่นที่ฝั่ง เซนิต บอกว่าจะกลายเป็นอนาคตของทีมชาติรัสเซีย แต่สุดท้ายเมื่อ เชย์ดาเยฟ โตขึ้นและไม่ได้โอกาสกับเซนิตมากนัก เขาออกไปค้าแข้งในหลายประเทศทั้ง ตุรกี ลิธัวเนีย ก่อนจะมาลงตัวกับที่ อาเซอร์ไบจาน และสุดท้ายเขาเลือกที่จะเล่นให้ อาเซอร์ไบจาน ทั้ง ๆ ที่ติดทีมชาติรัสเซียมาตั้งแต่รุ่นยู 16 จนถึงรุ่นยู 21 มาเสมอ

เว็บไซต์ฟุตบอลของ อาเซอร์ไบจาน อย่าง Offsidepus เขียนถึงกรณีนี้ว่า "เมื่อต้องเลือกระหว่างรัสเซียและอาเซอร์ไบจาน รามิล เองก็คิดหนักมากเพราะรัสเซียเป็นประเทศที่เหมือนกับเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก แต่สุดท้ายเขาก็เลือกสายเลือดของเขาคืออาเซอร์ไบจาน เขาอยู่กับพวกเรา และในทุกเกมที่เขาเล่นให้กับทีมชาติ เขาแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้น เพื่อบอกว่าเขามุ่งมั่นกับการเล่นให้ทีมของเราขนาดไหน ... แน่นอนเขาถูกนักวิจารณ์และคนใหญ่คนโตในวงการฟุตบอลรัสเซียประณาม แต่สุดท้ายเขาคือหนึ่งในเลือดเนื้อเชื้อไขของเรา"

อย่างไรก็ตามดราม่าของฝั่งตะวันตกจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ที่รู้แน่คือจากสถิติล่าสุด ฟอร์มการเล่นในระดับทีมชาติ ต้องบอกว่า ณ ตอนนี้ บุรีรัมย์ มีโอกาสที่จะได้หนึ่งในกองหน้าต่างชาติที่ดีที่สุดของพวกต่อจาก ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ อย่างแน่นอน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เปิดกฎเวิร์คเพอร์มิตพรีเมียร์ลีก : ศุภณัฎฐ์ ไป เลสเตอร์ ได้จริงหรือ ?

ศุภณัฏฐ์ นำทัพ : 6 วันเดอร์คิดเอเชียที่ติดอันดับโลกปี 2019 ทุกวันนี้เป็นอย่างไร ?

ยุโรปไม่ไกลเกินฝัน : 5 ลีกทางเลือกที่แข้งไทยเล่นได้ไม่ต้องห่วงเรื่องเวิร์คเพอร์มิต

แหล่งอ้างอิง :

http://www.futbolgrad.com/ramil-sheydayev-symbol-russias-failed-youth-policy/

https://en.offsideplus.az/azerbaijan/national-teams/26321-ramil-sheydayev-and-his-national-anniversary

https://qarabagh.com/en/news/qarabag-fk-signed-a-contract-with-ramil-sheidaev/12092.

https://en.offsideplus.az/other-sports/26761-what-happened-to-ramil-old-people-speak

https://offsideplus.az/maraqli/m%C3%BCsahib%C9%99/40244?fbclid=IwAR34Z1RWbGkz3Urn8ZyinrwKN4KOpNhK2HnzxJzSXjrH0Q8dxeljue-2gbE

https://www.whoscored.com/Players/300299/Show/Marcus-Rashford

แชร์บทความนี้