พวกเขาอยู่ที่ไหน ? ตามหา นักเตะบุรีรัมย์ ชุด 5 แชมป์ในตำนาน

พวกเขาอยู่ที่ไหน ? ตามหา นักเตะบุรีรัมย์ ชุด 5 แชมป์ในตำนาน
วิสูตร ดำหริ

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงสถานะทีมเบอร์หนึ่งแห่งแดนสยาม หลังเข้าป้ายคว้าแชมป์ไทยลีกฤดูกาล 2023/24 นับเป็นสมัยที่ 9 ของยอดทีมแห่งอีสานใต้ ภายใต้การนำของบิ๊กบอส เนวิน ชิดชอบ

หากพูดถึงความยิ่งใหญ่ของปราสาทสายฟ้า คงไม่มีทีมชุดไหนน่าจดจำไปกว่านักเตะชุดปี 2015 ที่มี อเล็กซานเดร กาม่า กุมบังเหียนอีกแล้ว เพราะนั่นคือหนึ่งในทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอลไทยเลยก็ว่าได้

บุรีรัมย์ชุดนั้นแข็งแกร่งทั่วแผ่นและไร้เทียมทาน กวาดแชมป์ในประเทศปีเดียว 5 รายการ ประกอบด้วย ถ้วยพระราชทาน ก. , ไทยลีก (ด้วยสถิติไร้พ่าย),​ โตโยต้า ลีกคัพ ,​ โตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ และ ช้าง เอฟเอคัพ กลายเป็นทีมที่ 6 ของโลก และทีมแรกของเอเชียที่ทำแบบนี้ได้

เวลาล่วงเลยไปเกือบทศวรรษ ปัจจุบันนักเตะชุดนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ? Think Curve - คิดไซด์โค้ง อาสาพาทุกท่านไปติดตามพร้อมกันในซีรี่ส์ "Where are they now : พวกเขาอยู่ที่ไหน ?

PHOTO : Buriram United

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
ถือเป็นผู้รักษาประตูคู่บุญของปราสาทสายฟ้า อยู่กับทีมมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม และคอยป้องกันหลังบ้านของทีมจนประสบความสำเร็จตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สิ่งที่น่าทึ่งของ ศิวรักษ์ คือมาตรฐานการเล่นระดับสูงของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี แต่ฟอร์มของเขาแทบไม่เคยตก แม้ปัจจุบันอายุจะล่วงเลยไป 40 ปีแล้ว แต่ ศิวรักษ์ ยังรักษาตำแหน่งโลกมือหนึ่งของ บุรีรัมย์ ไว้อย่างเหนียวแน่น และเป็นนักเตะคนเดียวที่คว้าแชมป์ไทยลีกร่วมกับทีมครบทุกสมัย (9 ครั้ง)

ยศพล เทียงดาห์
เป็นนักเตะที่อยู่กับทีมมาตั้งยุคแรก ๆ เช่นกัน แต่ใช้เวลาแทบจะทั้งหมดนั่งรอโอกาสอยู่ข้างสนาม ด้วยความที่มี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อยู่ขวางทางอยู่ข้างหน้า แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือ ยศพล ไม่เคยงอแง ทำตัวเป็นมืออาชีพที่ดีเสมอมา ฤดูกาลที่ผ่านมาเขาย้ายไปเฝ้าเสากับ โปลิศ เทโร เอฟซี

PHOTO : Andres Tunez's IG

อันเดรส ตูเญซ
หัวใจในแผงหลังของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดนั้น เขาเข้ามายกระดับเกมรับของทีมจนแข็งแกร่ง กลายเป็นสโมสรที่เสียประตูน้อยที่สุดในไทยลีก ที่สำคัญยังมีทีเด็ดที่การเติมขึ้นไปโหม่งลูกเซ็ตพีซจนซัดไป 9 ประตูในลีก ถือเป็นหนึ่งในปราการหลังต่างชาติที่สมบูรณ์แบบที่สุดตั้งแต่ไทยลีกเคยมีมา ตูเญซ ลงเล่นกับปราสาทสายฟ้าถึงปี 2021 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และแขวนสตั๊ดไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ปัจจุบันเขากลับไปใช้ชีวิตที่ประเทศสเปน

กรวิทย์ นามวิเศษ
แข้งที่หมดอนาคตกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไม่อยู่ในแผนทำทีมจนถูกปล่อยตัว ใครจะคิดว่าเขาจะเข้ามาเติมเต็มเกมรับของ บุรีรัมย์ ได้ดีแบบไม่น่าเชื่อ กรวิทย์ จับคู่กับ ตูเญซ ได้อย่างแข็งแกร่ง กลายเป็นคู่ภูผาหินของทีมในปีนั้น เขาลงเล่นไปมากกว่า 50 เกม ช่วยทีมคว้า 5 แชมป์ จนถูกเรียกติดทีมชาติไทย กรวิทย์ ถือเป็นดีลแห่งปีของปราสาทสายฟ้า ปัจจุบันในวัย 37 ปี กรวิทย์ ค้าแข้งอยู่กับ สุพรรณบุรี เอฟซี ในไทยลีก 2

PHOTO : Buriram United

ธีราทร บุญมาทัน
แทบไม่ต้องบรรยายความสุดยอดของเขาคนนี้ ธีราทร เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ บุรีรัมย์ เขาอยู่กับทีมมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม จนก้าวขึ้นไปเป็นทีมเบอร์หนึ่งของประเทศ และแน่นอนว่า ธีราทร คือคีย์แมนคนสำคัญของทีมชุด 5 แชมป์ เขาจัดเป็นกองหลังที่ครบเครื่อง เล่นเกมรับดี อ่านทางบอลขาด เติมเกมรุกตลอด และมีทีเด็ดอยู่ที่การจ่ายบอลที่แม่นยำ จนทำแอสซิสต์ได้แบบเป็นกอบเป็นกำ เขาอยู่กับปราสาทสายฟ้าถึงปี 2016 ก่อนย้ายไปเล่นกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด, วิสเซล โกเบ และ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส พร้อมจารึกประวัติศาสตร์เป็นนักเตะไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีก ปัจจุบัน ธีราทร กลับมาค้าแข้งกับ บุรีรัมย์ อีกครั้ง และช่วยทีมคว้าแชมป์ไทยลีกตลอด 3 ซีซั่นที่ผ่านมา

สุรีย์ สุขะ
หลังจากประสบความสำเร็จกับ ชลบุรี เอฟซี จนได้ย้ายไปเล่นต่างแดนกับ แมนฯ ซิตี้ กับ กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค และกลับมาอยู่กับ ชลบุรี อีกรอบ สุรีย์ ก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ บุรีรัมย์ และเขาเป็นอยู่ในทีมชุดคว้า 5 แชมป์ แม้จะมีส่วนร่วมไม่มากในฤดูกาลนั้น ปัจจุบัน สุรีย์ แขวนสตั๊ดไปแล้ว และย้ายไปอเมริกาเมื่อปี 2023 โดยไปฝึกงานในร้านอาหารของ มานะ นพเนตร อดีตนายด่านระดับไทยลีก ก่อนมีแผนเปิดร้านเองต่อไป

นุกูลกิจ ครุฑใหญ่
ถูกดึงมาจาก บีอีซี เทโรศาสน (โปลิศ เทโร) แต่ก็เบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงไม่ได้ ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเป็นอะไหล่บนม้านั่งสำรอง ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียง 5 เกมในลีก นุกูลกิจ อยู่กับ บุรีรัมย์ 2 ฤดูกาล ก่อนย้ายไปอยู่กับ อุบล ยูทีเอ็ม, เมืองทอง ยูไนเต็ด, สุโขทัย เอฟซี, ราชบุรี เอฟซี และ เชียงใหม่ เอฟซี ต้นสังกัดปัจจุบัน

PHOTO : หนองบัว พิชญ

อนาวิน จูจีน
ย้ายมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ตั้งแต่ปี 2012 และยืนระยะเป็นตัวหลักจนถึงทีมยุค 5 แชมป์ แม้ว่าจะมี นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ย้ายเข้ามาเป็นคู่แข่ง ในตำแหน่งแบ็คขวา แต่เขาก็ยังได้ลงเล่นในไทยลีกไปถึง 25 เกม ทำได้ 3 ประตู จากนั้นชีวิตค้าแข้งของ อนาวิน ก็ผจญภัยไปอยู่กับหลายสโมสร ทั้งในไทยลีกและต่างแดน ก่อนปัจจุบันจะมาอยู่กับ หนองบัว พิชญ และมีส่วนช่วยทีมคว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกในซีซั่นที่ผ่านมา

นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม
ถือเป็นหนึ่งในดาวโรจน์ของวงการบอลไทยยุคนั้น จนถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาร่วมทีม และก็กลายเป็นจิ๊กซอว์เติมเต็มเกมกราบขวาของทีม นฤบดินทร์ ลงเล่นไป 36 เกมในทุกรายการ ช่วยปราสาทสายฟ้าประกาศสักดาคว้า 5 แชมป์ทันที และเขาก็เป็นคีย์แมนของสโมสรมาตลอดจนถึงปัจจุบัน จนได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมของสโมสร

PHOTO : Buriram United

ชิติพัทธ์ แทนกลาง
เติบโตขึ้นมาจากอะคาเดมี่ของ บุรีรัมย์ จนก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ เขาถือเป็นนักเตะคู่บุญของสโมสรที่อยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน แม้ในช่วงหลังเขาจะตกเป็นตัวเลือกลำดับท้าย ๆ ในตำแหน่งเกมรับ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชิติพัทธ์ เป็นฟันเฟืองที่มีส่วนร่วมกับความสำเร็จของสโมสร พร้อมคว้าแชมป์ไทยลีกกับปราสาทสายฟ้าไป 8 สมัย ล่าสุด ชิติพัทธ์ ตัดสินใจแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา จารึกชื่อตัวเองเป็นอีกหนึ่งตำนาน วัน คลับ แมน ของวงการฟุตบอลเมืองไทย

ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา
ถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่พร้อมกับ อานนท์ ในปี 2014 แต่เบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงจากแข่งรุ่นพี่ไม่ได้ ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการนั่งดูทีมเล่นอยู่ข้างสนาม ได้ลงสัมผัสเกมไทยลีกแค่ 1 แมทช์ในปีนั้น นั่นทำให้ ณัฐวุฒิ ต้องย้ายออกไปหาโอกาสที่อื่น ทั้งกับ ราชนาวี, ราชุบรี เอฟซีล, เชียงใหม่ เอฟซี และ ตราด เอฟซี ปัจจุบันเขาเล่นอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี

อานนท์ อมรเลิศศักดิ์
ตอนขึ้นมาใหม่ ๆ เขาถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามาก แต่อย่างที่รู้ว่า บุรีรัมย์ ชุดนั้นขุมกำลังแกร่งทั่วแผ่นจริง ๆ มันจึงยากสำหรับดาวรุ่งที่จะเบียดไลน์อัพ 11 ตัวจริง อานนท์ เองก็ไม่ต่างกัน เขามีโอกาสลงเล่นแค่ 7 เกมในไทยลีก เขาค้าแข้งอยู่กับปราสาทสายฟ้า 5 ฤดูกาล ก่อนย้ายออกไปผจญภัยกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ราชบุรี เอฟซี และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้นสังกัดปัจจุบัน

PHOTO : Ratchaburi FC

จักรพันธ์ แก้วพรม
นี่คือจอมทัพของบุรีรัมย์ชุด 5 แชมป์ เขาคือคนควบคุมจังหวะเกมของทีมทั้งหมด จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับการออกบอลของเขา แถมยังจับคู่กับ โก ซุล-กี ได้อย่างเนียนตาชนิดไร้รอยต่อ ทำให้เกมแดนกลางของทีมไหลลื่นสุด ๆ ที่สำคัญ จักรพันธ์ ยังมีทีเด็ดสอดขึ้นไปทำประตูได้อยู่เรื่อย ๆ ว่ากันว่า ณ ตอนนั้น เขานี่แหละคือมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของเมืองไทย ปัจจุบันในวัย 36 ปี คลาสฟุตบอลของ จักรพันธ์ ยังเล่นในไทยลีกได้แบบสบาย ๆ และทำผลงานได้ดีจน ราชบุรี เอฟซี จับเขาต่อสัญญาไปอีก 1 ฤดูกาลแล้ว

สันติราษฎร์ เวียงอินทร์
ปีกตัวจี๊ดจากนครพนมทำผลงานได้อย่างร้อนแรงกับ ศรีสะเกษ เอฟซี จน บุรีรัมย์ ทนไม่ไหวต้องดึงเข้ามาร่วมทีม และเขาก็ประสบชะตากรรมไม่ต่างจากอีกหลายคน นั่นคือเบียดตัวจริงในทีมไม่ได้ แถมยังเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวน จนได้ลงเล่นกับทีมเพียง 6 เกม รวมเวลาในสนาม 67 นาที นั่นทำให้ สันติราษฎร์ ถูกปล่อยตัวออกจากสนามหลังจบฤดูกาล และเขาก็พเนจรไปอยู่กับ พีทีที ระยอง, สุโขทัย เอฟซี, ขอนแก่น เอฟซี และ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด เป็นต้น ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาลงเล่นกับ ร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด พร้อมช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกเซมิ-โปรเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 3

ประกิต ดีพร้อม
แจ้งเกิดกับ ทีโอที เอฟซี จนมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 นั่นทำให้เขาถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดึงมาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 10 ล้านบาท แต่พอมาอยู่กับทีมใหญ่ ประกิต กลับเล่นไม่ออกและปรับตัวเข้ากับสไตล์ของทีมไม่ได้ สุดท้ายเขาก็เล่นกับปราสาทสายฟ้าได้แค่ฤดูกาลเดียว ก่อนย้ายไปอยู่กับ ชลบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, อุดรธานี เอฟซี และ แพร่ ยูไนเต็ด ตามลำดับ ปัจจุบันเขาค้าแข้งอยู่กับ นครศรี ยูไนเต็ด ในไทยลีก 2

PHOTO : Consadole Sapporo

สุภโชค สารชาติ
ถือเป็นความภาคภูมิใจของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพราะเขาเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของสโมสรโดยตรง ก่อนเติบโตขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ และก้าวไปติดทีมชาติไทย ฤดูกาล 2015 คือปีแรกที่ สุภโชค ขึ้นมาเล่นกับปราสาทสายฟ้า ทำสถิติลงเล่นเกมไทยลีกไป 5 เกม ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ พาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 4 สมัย จนถูก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ดึงไปร่วมทีม ปัจจุบัน เจ้าเช็ค กำลังไปได้สวยกับเส้นทางค้าแข้งในเจลีก

นฤพล อารมณ์สวะ
เป็นหนึ่งในกองกลางฟอร์มแรงของไทยลีกยุคนั้น จนได้เซ็นสัญญากับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่กลับโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนัก ทำให้มีโอกาสลงสนามกับสโมสรแค่ 12 เกม สุดท้ายก็อยู่กับปราสาทสายฟ้าได้แค่ฤดูกาลเดียว โดย นฤพล พเนจรไปอยู่กับ ชลบุรี เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และฤดูกาลที่ผ่านมาเล่นอยู่กับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในไทยลีก ล่าสุด นฤพล มีชื่อเข้าอบรมหลักสูตรโค้ช ซี ไลเซนซ์ ของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย

PHOTO : BG Pathum United

เชาว์วัฒน์ วีระชาติ
เป็นหนึ่งในผลผลิตของอะคาเดมี่ลูกเจี๊ยบสายฟ้า และได้ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ฤดุกาล 2013/14 เมื่อเทียบกับดาวรุ่งรุ่นเดียวกัน เขาน่าจะเป็นคนที่ได้รับโอกาสลงเล่นกับ บุรีรัมย์ ชุด 5 แชมป์ในลำดับต้น ๆ จากสถิติ 12 เกมในไทยลีก แต่ เชาว์วัฒน์ ก็แจ้งเกิดกับทีมไม่สำเร็จ จนต้องย้ายไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปี 2016 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในระหว่างนี้เขาถูกส่งไปชุบตัวกับ เซเรโซ่ โอซาก้า พันธมิตรของกระต่ายแก้วในเจลีก 2 ฤดูกาล

สุรัตน์ สุขะ
หลังจากช่วย ชลบุรี เอฟซี คว้าแชมป์ไทยลีก จนก้าวไปติดทีมชาติไทย และกลายเป็นแข้งไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้เล่นในเอลีกกับ เมลเบิร์น วิตตอรี่ สุรัตน์ ก็ย้ายกลับมาเล่นในไทยลีกกับ บุรีรัมย์ ตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งในชุดคว้า 5 แชมป์ ร่างกายของเขาเริ่มโรยราจนกลายสภาพเป็นเพียงแข้งอะไหล่ของทีม และมีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกแค่ 2 เกม หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปอยู่กับ อุบล ยูไนเต็ด และ ศรีสะเกษ เอฟซี ปัจจุบันเขาแขวนสตั๊ดไปแล้วและผันตัวไปทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับร้านขายของชำที่จังหวัดสระแก้ว

PHOTO : จันทบุรี เอฟซี

โก ซุล-กี
หัวใจในแดนกลางของปราสาทสายฟ้าชุดนั้น เขาเข้ามายกระดับแผงมิดฟิลด์ของทีมจนแข็งแกร่งขึ้นทันตา พลังกำลังอันเหลือล้นของเขาที่วิ่งขึ้นสุดลงสุดสไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ ทำให้ โก ซุล-กี กลายเป็นอาวุธสำคัญของ บุรีรัมย์ สถิติ 8 ประตู กับ 7 แอสซิสต์ จาก 30 เกม บ่งบอกถึงคุณภาพของเขาได้เป็นอย่างดี เขาค้าแข้งอยู่กับทีม 3 ฤดูกาล ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี และ ชลบุรี เอฟซี ฤดูกาลที่ผ่านมา โก ซุล-กี ในวัย 38 ปี ลงเล่นกับ จันทบุรี เอฟซี ในไทยลีก 2 แถมยังโชว์ฟอร์มลืมแก่ กดไป 6 ประตู จาก 12 เกม

วันเฉลิม ยิ่งยง
เป็นดาวรุ่งอีกคนที่แจ้งเกิดกับ บุรีรัมย์ ไม่ได้ เขาถูกดึงมาจาก เพื่อนตำรวจ หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น แต่พอมาอยู่กับทีมใหญ่ เจอการแข่งขันเยอะ โอกาสของเขาก็แทบไม่มีเลย ได้ลงเล่นเพียง 2 เกม และอยู่กับทีมแค่ครึ่งฤดูกาล ก่อนถูกปล่อยไปอยู่กับ ชัยนา ฮอร์นบิล ด้วยสัญญายืมตัว ปัจจุบัน วันเฉลิม ค้าแข้งอยู่กับ นครศรี ยูไนเต็ด ที่พลาดตั๋วเลื่อนขึ้นไทยลีกอย่างน่าเสียดาย หลังแพ้ ระยอง เอฟซี ในเกมเพลย์ออฟ ด้วยกฎอเวย์โกล

สิทธิโชค กันหนู
ก้าวขึ้นสู้ชุดใหญ่ของทีมรุ่นราวคราวเดียวกับ สุภโชค แต่เมื่อดูจากขุมกำลังในแนวรุกที่มีแข้งต่างชาติเกรดเอจับจองพื้นที่อยู่แล้ว ทำให้เขาได้รับโอกาสลงสนามอย่างจำกัด ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกแค่ 3 เกม สิทธิโชค อยู่กับ บุรีรัมย์ 2 ฤดูกาล จากนั้นเขาก็ย้ายไปอยู่กับ ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ปัจจุบันในวัย 27 ปี สิทธิโชค ยังลงเล่นในลีกสูงสุดอยู่กับ ราชบุรี เอฟซี

PHOTO : DP Kanchanaburi FC

สุเชาว์ นุชนุ่ม
พี่ใหญ่ในแดนกลางของ บุรีรัมย์ ชุดนั้น พร้อมทั้งยังได้รับมอบหมายให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม คงไม่ต้องบอกว่าเขาสำคัญต่อความสำเร็จของสโมสรในปีนั้นมากขนาดไหน แถมยังเป็นคนที่ดูแลสภาพร่างกายดีมาก ไม่มีปัญหาบาดเจ็บกวนใจ ลงเล่นไป 47 เกมรวมทุกรายการ จนถูกจารึกเป็นหนึ่งในตำนานแข้งของสโมสร ปัจจุบัน สุเชาว์ ในวัย 41 ปี ยังคงโลดแล่นในลีกเมืองไทย ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวซบ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี ลุยศึกไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า

เคน วินเซนต์
ดาวยิงลูกครึ่งญี่ปุ่น-นิวซีแลนด์ ถูก บุรีรัมย์ ดึงมาร่วมทีมในปีนั้น หลังจากโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจกับ สงขลา ยูไนเต็ด แต่การมี ดิโอโก้ กับ มาเชน่า ขวางทางอยู่ ทำให้โอกาสลงสนามของ เคน วินเซนต์ มีเพียงน้อยนิด จนต้องเก็บข้าวของย้ายออกจากทีมอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ย้ายไปเล่นกับหลายในทีมไทย อาทิ การท่าเรือ, แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด และ บางกอก เอฟซี ปัจจุบันเขาแขวนสตั๊ดไปแล้วและผันตัวไปเอาดีกับการทำธุรกิจส่วนตัวที่นิวซีแลนด์บ้านเกิด

ราฟาเอล โคเอลโญ่
ย้ายมาพร้อมกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง ดิโอโก้ และ มาเชน่า แต่เขากลับโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักตอนซ้อม ทำให้ไม่ถูกใส่ชื่อในการทำศึกไทยลีกในปีนั้น หลังจากหายกลับมา เขาได้ลงเล่นแค่บอลถ้วยไม่กี่เกม ก่อนจะแยกทางกับทีมหลังจบฤดูกาล หลังจากนั้น โคเอลโญ่ ย้ายไปเล่นในหลายทีมในไทย เริ่มจาก เชียงราย ยูไนเต็ด, ลำปาง เอฟซี และ ชัยนาท ฮอร์นบิล ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Transfermarkt ปัจจุบัน โอเคลโญ่ วัย 36 ปี เป็นนักเตะไร้สังกัด

PHOTO : Buriram United FC

ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต
ดาวยิงชาวแซมบ้าย้ายมาเล่นกับ บุรีรัมย์ ปีแรก ก็สร้างปรากฏการณ์ทันที จากการซัลโวรวมทุกรายการ 45 ประตู พาทีมกวาด 5 แชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ตลอดระเวลา 4 ปีที่อยู่กับทีม เขาทำไป 133 ประตู ขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร พร้อมจารึกชื่อเป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดตลอดกาลของเมืองไทย

จากนั้น ดิโอโก้ ก็ย้ายไปอยู่กับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และกลับมาอยู่กับ ยะโฮร์ อีกครั้ง กระทั่งหลังจบฤดูกาลที่ผ่าน เขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดและผันตัวไปเอาดีกับเส้นทางเอเย่นต์ และงานแรกของเขาในบทบาทใหม่ก็คือการพา กิลเยร์เม บิสโซลี่ ย้ายมาเล่นกับ บุรีรัมย์ทีมเก่า ในช่วงเลกที่สอง

กิลแบร์โต้ มาเชน่า
ย้ายมาพร้อมกันและก็กลายเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมของ ดิโอโก้ ในแดนหน้า สอดประสานกันได้อย่างไหลลื่นและลงตัว จนทำให้เกมรุกของทีมอันตรายขึ้นทันตา เรียกว่าเป็นแข้งต่างชาติอีกคนที่ บุรีรัมย์ ดึงมาและทำผลงานได้อย่างคุ้มค่า สถิติ 21 ประตู กับ 11 แอสซิสต์ในไทยลีก คือหลักฐานยืนยันความสุดยอดของเขาได้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่ มาเชน่า อยู่กับทีมแค่ปีเดียว ก่อนพเนจรไปอยู่กับหลายสโมสร อาทิ แบงค็อก ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด และ พิษณุโลก เอฟซี ในระหว่างปี 2021-2023 ปัจจุบันในวัย 40 เขาเล่นอยู่กับ โทคันติโนโปลิส สโมสรในลีก เซเรีย ดี ของบราซิล

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด

ฟุตบอล, อนิเมะ, กาแฟ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ