ปิดฉากทีมคนญี่ปุ่นในเอสลีก : อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ปรับตัวสู่ท้องถิ่น สร้างทีมโดยใช้แข้งสิงคโปร์
ก่อนที่นักเตะไทยจะได้ไปเฉิดฉายในเจลีกอย่างในปัจจุบัน สิงคโปร์เคยเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของตำนานแข้งไทยในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ธชตะวัน ศรีปาน, ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ล้วนผ่านการเล่นในเอสลีกมาแล้วทั้งนั้น
ความพิเศษของเอสลีกอยู่ตรงที่ไม่ได้มีแค่สโมสรจากสิงคโปร์ลงแข่งเท่านั้น แต่พวกเขายังไปเชิญสโมสรจากต่างแดนเข้ามาร่วมฟาดแข้งกันด้วย หนึ่งในนั้นคือ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ซึ่งเป็นทีมเดียวกับที่ส่งแข่งในเจลีก
ย้อนกลับไปปี 2004 สมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ (FAS) ต้องการเพิ่มความนิยมและยอดคนดูในสนาม พวกเขาจึงไปเชิญ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ เข้ามาแข่งในลีก โดยทีมดังจากญี่ปุ่นก็ตอบตกลงและส่งทีมร่วมแข่งนับแต่นั้นเป็นต้นมา
แรกเริ่มเดิมที อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ จะใช้นักเตะญี่ปุ่นลงสนามอย่างเดียว พวกเขาจะส่งเด็กอคาเดมี่ของสโมสร หรือ เด็กมหาวิทยาลัยที่มีแวว มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่นี่ ก่อนกลับไปเจอของจริงในเจลีก
กระทั่งในปี 2018 อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ได้เริ่มเปิดรับนักเตะสิงคโปร์เป็นครั้งแรก จากนั้นก็เปิดรับมาเรื่อย ๆ จนมาถึงปัจจุบัน แข้งสิงคโปร์ที่สร้างชื่อกับทีมก็อย่าง อิลฮาน ฟานดี้ น้องช้ายแท้ ๆ ของ อิรฟาน และ อิคซาน สองดาวเตะของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เพิ่งย้ายไปเล่นในลีกเบลเยี่ยมเมื่อปลายปี 2022
อย่างไรก็ดี นักเตะส่วนใหญ่ของ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ยังเป็นญี่ปุ่นอยู่ดี แม้แต่ชุดปัจจุบันยังมีนักเตะสิงคโปร์ในทีมแค่ 6 คน หนึ่งในนั้นคือ ฮัสซัน ซันนี่ อดีตนายประตูของ อาร์มี่ ยูไนเต็ด แต่ที่เหลือเป็นนักเตะญี่ปุ่นทั้งหมด
ด้วยคุณภาพของนักเตะญี่ปุ่น อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ จึงครองความยิ่งใหญ่ในเอสลีกมาตลอด พวกเขาเข้าป้ายคว้าแชมป์ไปครอง 3 สมัย จาก 4 ฤดูกาลหลังสุด แต่พวกเขาก็ต้องพบกับปัญหาตามมาเช่นกัน
ด้วยความที่พวกเขายังมีศักดิ์เป็นทีมลูกของ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ในเจลีก, ใช้นักเตะจากสโมสรแม่เป็นหลัก และยังใส่ชุดแข่งแบบเดียวกัน อีกทั้งยังได้รับการยกเว้นเรื่องโควตานักเตะต่างชาติจากลีก พวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ไปเล่นถ้วยสโมสรเอเชีย แม้จะคว้าแชมป์ได้ก็ตาม
จุดนี้เองนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อล่าสุด อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ประกาศเปลี่ยนแนวทางการทำทีมที่ยึดมาตลอดเกือบ 20 ปี ด้วยการสร้างทีมโดยใช้นักเตะสิงคโปร์เป็นหลัก รวมถึงอยู่ภายใต้กฎโควตาต่างชาติเหมือนกับทุกทีมในลีก โดยจะเริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2024 เป็นต้นไป
นอกจากความต้องการไปเล่นถ้วยสโมสรชิงแชมป์เอเชียในฐานะตัวแทนจากลีกสิงคโปร์แล้ว อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ยังมีเป้าหมายช่วยเหลือฟุตบอลสิงคโปร์และทีมชาติ ผ่านการปรับตัวเข้าสู่ท้องถิ่นในครั้งนี้ด้วย
"ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา เราพยายามดึงนักเตะท้องถิ่นเข้ามาสู่ทีมมากขึ้น เราเปิดตัวอคาเดมี่เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การพัฒนาเยาวชน ตอนนี้เราตัดสินใจที่จะเป็นสโมสรของคนในท้องถิ่น ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป" แถลงการณ์ของ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ
ด้าน ไดสุเกะ โคเรนางะ ประธานของ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเรามี 3 ภาระหน้าที่ คือช่วยสร้างทีมชาติสิงคโปร์ที่แข็งแกร่งขึ้น, ช่วยเพิ่มความนิยมของฟุตบอลสิงคโปร์ และเชื่อมต่อกับผู้คนในท้องถิ่น เราจะช่วยเหลือฟุตบอลสิงคโปร์ต่อไป"
การปฏิวัติแนวทางการทำทีมของ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ จะเริ่มตั้งแต่ฤดูกาลหน้า ดังนั้น ไลอ้อน ซิตี้ เซลเลอร์ส รองแชมป์เอสลีกในฤดูกาลนี้ จะยังคงได้สิทธิ์ไปเล่นถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาล 2024/25 แทนเช่นเดิม
อ้างอิง : https://www.channelnewsasia.com/sport/albirex-niigata-local-players-singapore-premier-league-3767171 https://www.straitstimes.com/sport/football/six-time-champions-albirex-niigata-to-become-local-singapore-premier-league-side-from-2024