รอทวงแชมป์คืน : 5 ผู้เล่นไทยยู 23 ฟอร์มเดือดเกมเชือด เมียนม่าร์
ใกล้ได้บทสรุปกันแล้วสำหรับฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา หลังรอบรองชนะเลิศทั้งสองคู่จบลงไปเรียบร้อยแล้ว โดยคู่แรกเป็นทาง ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่พลิกล็อคเอาชนะแชมป์เก่า ทีมชาติเวียดนาม ไปได้แบบสุดระทึก 3-2
ส่วนงานของ ทีมชาติไทย ที่ต้องเจอกับ ทีมชาติเมียนม่าร์ รองแชมป์จากกลุ่ม เอ ที่มองจากหน้าเสื่อก่อนเกมดูเหมือนจะเป็นงานเบา งานง่าย แต่พอเสียงนกหวีดดังขึ้นในช่วงสองทุ่ม รูปเกมมันไม่ได้ออกมาเป็นไปตามที่คาด
สถานการณ์ของนักเตะทัพช้างศึกจูเนียร์ ภายใต้การทำทีมของ โค้ชหระ - อิสสระ ศรีทะโร ต้องมาเจอเกมแสนเขี้ยวของ เมียนม่าร์ ซึ่งวางแผนมารับคุมพื้นที่แน่นเอี้ยด รอจังหวะสวนกลับเพียงอย่างเดียว แล้วอาศัยลูกหนักลูกตอดยามเข้าบอล เล่นเอาจอมเทคนิคของเราหลายรายไปกันไม่เป็น
อย่างไรก็ตามหลังจากได้ประตูออกนำปลดล็อค 1-0 ในช่วงท้ายครึ่งแรก ส่งผลให้ครึ่งหลังผู้เล่นเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น เล่นในเกมของตัวเองได้ตามแผนที่วางไว้ แล้วปิดงานด้วยการยิงเพิ่มอีกสองประตู เอาชนะไปได้ 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปดวลกับ อินโดนีเซีย มหามิตรของเราตั้งแต่อดีต
แม้ว่ารูปเกมที่เห็นในสนามจะดูอึดอัดสำหรับแฟนบอล แต่สุดท้ายแล้ว ขุนพลทีมชาติไทย ก็ได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการ ก้าวผ่านเกมที่ยากไม่น้อยไปได้อีกครั้ง ซึ่งเกมนี้ผลงานรวมๆ ทั้งทีมถือว่าไม่มีใครทำผิดพลาดจนก่อความเสียหาย ยิงประตูได้ถึงสามเม็ด แถมยังเก็บคลีนชีทได้อีกด้วย ครบเครื่องทั้งเกมรุกและเกมรับ
แล้วนี่คือ 5 นักเตะที่โดดเด่นสุดๆ ในเกมนี้ มีส่วนสำคัญกับชัยชนะและพาทีมเข้าไปชิงเหรียญทองได้สำเร็จ แต่จะเป็นใครกันบ้างที่เล่นได้เข้าตา ร่วมหาคำตอบไปกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
โจนาธาร เข็มดี
การได้ตัวแนวรับวัย 21 ปี จากสโมสร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี บินตามมาสมทบ หลังจากเสร็จภารกิจการรับใช้สโมสรเรียบร้อยแล้ว ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีม จากการขันน็อตเกมรับที่แข็งแกร่ง รูปร่างสูงใหญ่ของเขา สามารถช่วยในการเล่นลูกกลางอากาศได้ยอดเยี่ยม การอ่านเกมล่วงหน้าไม่เป็นรองใคร มีแรง
ขับแรงกระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมรู้สึกตื่นตัว เวลาที่ขึ้นบอลจากแดนหลังไม่ได้ ก็ได้ทักษะส่วนตัวของ โจนาธาร ที่ลากตะลุยฝ่าแผงผู้เล่นของ เมียนม่าร์ ที่ตั้งโซนรับ แหวกจนมีช่องให้เพื่อนเล่นเกมบุกต่อได้ นับมาจนถึงตอนนี้ทุกนาทีที่ ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ มีเขายืนปักหลักอยู่ในแนวป้องกัน ยังไม่เคยพลาดท่าเสียประตูให้กับคู่แข่งแม้แต่ลูกเดียว
ทรงชัย ทองฉ่ำ
กีต้าร์ เซนเตอร์แบ็ควัย 21 ปี จากสโมสร ชลบุรี เอฟซี คงตอบทุกคำถามจากแฟนบอลได้แล้วว่า ทำไมทีมชาติไทยชุดนี้ ถึงต้องเรียกตัวดาวรุ่งมาจาก ฉลามชล จำนวนหลายรายมากกว่าสโมสรอื่นๆ เกมในครึ่งแรกที่พาร์ทเนอร์ของเขาอย่าง โจนาธาร ยังมีออกลูกตื่น รอจับจังหวะเกมให้เข้าที่เข้าทาง ก็เป็นทาง ทรงชัย ที่เข้าสู่เกมได้เร็วกว่า คอยประคองแนวรับ ช่วยสกัดจังหวะชี้เป็นชี้ตายของทีมเอาไว้ได้หลายครั้ง สอดประสานเข้าคู่กับปราการหลังลูกครึ่งได้เป็นอย่างดี เสมือนแนวรับของทีมชาติไทยมียักษ์ปักหลั่นถึงสองคน ทำให้เกมบุกของ เมียนม่าร์ ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัด ทรงชัย อยู่ช่วยทีมจนจบเกม แล้วก็สามารถรักษาคลีนชีทเอาไว้ได้ น่าเสียดายที่โอกาสยิงประตูของเขาจากลูกเตะมุม มันไปชนเสาเข้าอย่างจัง ไม่อย่างงั้นคงมีชื่อบนสกอร์บอร์ดไปแล้ว
ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว
เพลย์เมคเกอร์อีกหนึ่งรายจากค่าย ฉลามชล เป็นหัวใจสำคัญของ ทีมชาติไทยชุดนี้ ในการสร้างสรรค์เกมรุกแทบทุกจังหวะ ลงมาล้วงบอลจากแดนหลัง หาจังหวะวางบอลสั้นสลับยาว และการลากตะลุยใช้ความสามารถเฉพาะตัวฝ่าแนวรับคู่แข่ง รวมไปถึงการรับเหมาเตะลูกเซ็ตพีซต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ยังไม่นับประโยชน์ในเกมรับ ที่ทางเจ้า หนึ่ง นั้นไล่แบบสุดทุกจังหวะ จังหวะ 50-50 กล้าเข้าไปบวกแบบไม่มีกลัวเจ็บ จนแฟนบอลที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ คงรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยเขาเป็นพิเศษ เพราะถ้าเจ็บไปสักคน รับรองเกมรุกของทีมได้เฉาไปมากกว่านี้แน่นอน เขาเป็นคนโยนฟรีคิกในช่วงท้ายครึ่งแรก ไปเข้าหัวของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โขกเข้าไปอย่างเหมาะเหม็ง เป็นประตูปลดล็อคที่ทำให้เพื่อนๆ เล่นได้อย่างผ่อนคลายมากขึ้น แล้วก็เป็นการเก็บสถิติส่วนตัวในการทำเพิ่มไปอีก 1 แอสซิสต์ในทัวร์นาเมนต์นี้
ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์
อีกหนึ่งไพ่ตายในการแก้เกมของ โค้ชหระ ในช่วงเวลาที่แดนกลางของทีมเริ่มเป็นรอง เมียนม่าร์ แล้วในสภาพที่ผู้เล่นกองกลางคนอื่นๆ ยังไม่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน การส่ง นาย แบ็คซ้ายวัย 21 ปี จากสโมสร ชลบุรี เอฟซี ซึ่งเคยเล่นเป็นมิดฟิลด์มาก่อน ลงมาเติมความสมดุลย์ให้กับทีม กลายเป็นหมากเด็ดที่ช่วยทำให้เกมมีความไหลลื่นมากขึ้น ฉัตรมงคล มีหน้าที่ในการเล่นเกมรับเป็นส่วนใหญ่ รอเก็บบอลจังหวะสอง หากมีจังหวะที่เหมาะสมก็จะแลบขึ้นไปเล่นเกมรุกให้เห็นกันอยู่บ้าง คอยปัดกวาดขัดแข้งขัดขาแนวรุกของ เมียนม่าร์ ไม่ให้ทำอะไรได้ถนัด ช่วยประคองการเล่นเกมรับให้เป็นทรงมากขึ้น หลังจาก อิรฟาน ดอเลาะ กัปตันทีมเริ่มอ่อนแรง เพราะต้องรับบทบาทคอยตัดเกมอยู่คนเดียว พอมีทาง นาย ลงมาช่วยเป็นลูกหาบเพิ่มเติม ภาระของ อิรฟาน ก็เบาบางลง สามาถพักหายใจหายคอได้ แล้วสุดท้ายทีมก็ทำเพิ่มสองประตูได้ในช่วงท้ายเกม ปิดจ็อบผ่านเข้าชิงได้ตามแผน
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
ต้น กองหน้าวัย 20 ปี จากสโมสร การท่าเรือ เอฟซี ยังคงเป็นที่พึ่งได้เสมอยามที่ทีมต้องการประตู แม้ว่าอายุอานามจะไม่ได้มาก แต่การเล่นเป็นหน้าเป้าของเขา ซึ่งต้องคอยชนกับแผงแนวรับ เมียนม่าร์ ที่รับแน่น 3-4 คนต่อหนึ่งจังหวะ แล้วสามารถใช้ข้อดีของตนเอง อาทิ รูปร่างที่แข็งแกร่ง ความขยันในการวิ่งหาช่อง และ สัญชาติญาณการทำประตู ถือว่าสอบผ่านในเกมนี้แบบสบายๆ เมื่อเทียบกับ ยศกร บูรพา ดาวรุ่งวัยแค่ 17 ปี ที่ยังมีอาการตื่นสนามให้เห็นกันอยู่ ทำให้การตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย ดูขาดๆ เกินๆ จากกระดูกฟุตบอลที่ยังไม่เก๋าพอ จังหวะการโหม่งประตูปลดล็อคให้ทีมในช่วงท้ายครึ่งแรกของ ธีรศักดิ์ ช่วยคลายความกดดันให้เพื่อนร่วมทีมได้มาก กลับมาเล่นเกมของตัวเองด้วยสถานการณ์ที่เหนือกว่า สร้างความหั่นเกรงให้กับแนวรับ เมียนม่าร์ ให้ไม่สามารถคลาดสายตาไปจากเขาได้ น่าเสียดายที่ช่วงท้ายเกมเขามีโอกาสบวกประตูที่สองของตัวเอง แต่ยิงบอลด้วยขวาเหินไปชนคานนิดเดียว แต่การยิงไปแค่เม็ดเดียว บวกกับประโยชน์อื่นๆ รอบด้าน มันก็เพียงพอแล้วที่เขาพาทีมเข้าไปชิงเหรียญทองได้สำเร็จ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ใจได้ สู้สนุก : 5 แข้งไทยยู 23 ฟอร์มเยี่ยมเกมดวล ซาอุดิอาระเบีย
โจนาธาร เข็มดี : เซนเตอร์พันธุ์ห้าวดาวดวงใหม่ทัพช้างศึก
ไม่มีเกมแต่มีของ : ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท ไพ่เด็ดทีมชาติไทยชุดยู-23
จากดาวรุ่ง T3 : ธีรศักดิ์ เผยพิมาย วันเดอร์คิดท่าเรือฯ ผู้แจ้งเกิดสำเร็จเพียง 1 เดียว