อิรัก U-23 คู่แข่งศึกชิงแชมป์เอเชียนัดแรกของ ทีมชาติไทย ยู-23 ดีกรีระดับแชมป์
ศึก เอเอฟซี ยู-23 เอเชียน คัพ 2024 ที่มีเดิมพันสูงถึงการชิงตั๋วไปลุยศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งรายการนี้ ทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศ กาตาร์ พร้อมขนขุนพลและทีมสตาฟฟ์ไปเต็มพิกัด แล้วจะเป็นรายการแรกที่ทาง โค้ชหระ-อิสสระ ศรีทะโร กุนซือช้างศึกชุดเล็ก จะได้ร่วมงานกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชทัพช้างศึกชุดใหญ่เป็นรายการแรก
ทีมชาติไทย ยู-23 อยู่ร่วมกลุ่ม ซี กับคู่แข่งอย่าง อิรัก, ซาอุดิอาระเบีย และ ทาจิกิสถาน ซึ่งถ้ามองกันตามหน้าเสื่อแล้ว ถือว่าหนักพอสมควรเพราะเจอกับชาติอาหรับถึงสองชาติ ที่เคยมีดีกรีเป็นแชมป์รายการนี้มาก่อน แต่ขึ้นชื่อว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผลลัพธ์ต้องไปวัดกันในสนามแบบเกมต่อเกม ซึ่งถ้ามองในมุมนี้ ทัพช้างศึก ก็ยังมีลุ้นในการผ่านเข้ารอบอยู่
แม้ว่าการแข่งขันรายการนี้จะไม่ตรงกับ ปฏิทินฟีฟ่า เดย์ ซึ่งทำให้หลายสโมสร ไม่ปล่อยผู้เล่นคนสำคัญมาช่วยชาติแบบเต็มสูบ แต่ขุมกำลังชุดที่ โค้ชหระ ได้มาช่วยทีมในรอบนี้ ก็มีผู้เล่นที่น่าสนใจและดีกรีไม่ธรรมดาหลายราย ซึ่งก็ต้องไปวัดกันตรงๆ กับคู่แข่งร่วมกลุ่มเรื่องคุณภาพฝีเท้ากันอีกที โดยเกมที่จะเป็นบททดสอบด่านแรก คือ การดวลกับ ทีมชาติอิรัก ยู-23 ในคืนวันอังคารที่ 16 เมษายน เวลา 22.30 น.
คู่แข่งอย่าง อิรัก ถือว่ามีดีกรีไม่ธรรมดา เพราะพวกเขาคือแชมป์ WAFF 2023 แล้วยังเคยเถลิงแชมป์รายการนี้มาแล้วในปี 2013 ซึ่งนับว่าเป็นงานที่ไม่ง่ายสำหรับ ทีมชาติไทย ดังนั้นการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ตามสุภาษิตที่ว่า ‘รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง’
ขุมกำลังของ อิรัก ยู-23 มีความแข็งแกร่งแค่ไหน? มีการเรียกตัวยที่ค้าแข้งจากยุโรปมาช่วยหรือไม่? เฮดโค้ชของพวกเขาผ่านประสบการณ์คุมทีมใดมาบ้าง? ระบบการเล่นและรูปแบบเป็นเช่นไร? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
รออยู่ตรงนี้
ทีมชาติอิรัก ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี คุมทัพโดย ราดี้ เชไนชิล (Radhi Shenaishil) เฮดโค้ชวัย 57 ปี คนบ้านเดียวกัน ที่รับงานนี้มาตั้งแต่ปี 2022 และมีสัญญาผูกมัดกันจนถึงเดือนมิถุนายน 2024 สามารถตีความหมายโดยนัยได้ว่าอนาคตของเขา อาจขึ้นอยู่กับผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้
เชไนชิล เริ่มต้นงานสายโค้ชกับสโมสร อัล-คูวา อัล-จาวิย่า ตั้งแต่ปี 2006 ต่อมาในปี 2007 ก็ย้ายไปคุมทีม อัล-ซอว์รา เอสซี ซึ่งเป็นทีมในบ้านเกิดทั้งนั้น ก่อนจะมีโอกาสไปคุมทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2009 ในฐานะโค้ชรักษาการณ์ ประมาณแค่สองอาทิตย์เท่านั้น แต่นั่นนับว่าเป็นประสบการณ์คุมทีมระดับชาติครั้งแรก
หลังจากนั้นในปีช่วงกลางปี 2009 เชไนชิล ก็หันกลับไปรับงานคุมทีมสโมสรอีกครั้งกับ อัล-ตาลาบ้า กลับไปคุม อัล-ซอว์ร่า เป็นแชมป์ลีกในฤดูกาล 2010/11 มีแวะเวียนไปคุมทีมชาติอิรักชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ก่อนจะออกไปคุมทีมนอกประเทศครั้งแรกกับสโมสร กาตาร์ เอสซี ในปี 2014 อยู่ได้เพียงเดือนเดียวก็ถูก อิรัก ดึงมาคุมทีมชาติชุดใหญ่ พาทีมคว้าอันดับ 4 ในศึก ชิงแชมป์เอเชียปี 2015
หลังจากนั้นก็มีเปลี่ยนงานไปคุมทีมระดับสโมสรทั้งในและนอกประเทศอยู่บ้าง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ใดๆ อีก ซึ่งในระหว่างที่ตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอิรักชุดเล็กหรือชุดใหญ่ว่างเว้นลงเมื่อใด เชไนชิล มักจะเป็นตัวเลือกแรก ที่เข้ามารักษาการณ์เสมอ
สาเหตุดังกล่าวเป็นเพราะว่า เชไนชิล คือ ดาวเตะระดับตำนานของ ทีมชาติอิรัก ที่ประสบความสำเร็จในการเป็นแชมป์ระดับสโมสรมามากมาย ทั้งบอลลีกและบอลถ้วยทั้งในประเทศและนอกประเทศอย่าง กาตาร์ นับรวมแล้วตลอดอาชีพการค้าแข้งเป็นแชมป์รวมๆ ถึง 20 รายการ ติดทีมชาติชุดใหญ่ไปถึง 80 นัด
โดยในปีก่อนเขาเป็นคนพา ทีมชาติอิรัก ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ Waff U-23 Championship 2023 มาครองได้สำเร็จ ด้วยสถิติไม่พลาดท่าพ่ายให้กับทีมใดเลย แต่ผลงานในถ้วยเดียวกันปีนี้ กลับพาทีมจบในอันดับที่ 6 ด้วยสถิติเสมอ 1 นัด และแพ้ไป 2 นัด
ระบบการเล่นที่เขาชื่นชอบ คือ 4-1-4-1 เน้นอัดแดนกลางให้แน่น อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นแนวรุก หาจังหวะเข้าทำแบบฉาบฉวยหรือจังหวะสวนกลับเร็ว หากเจอทีมในเกรดใกล้เคียงกันจะเน้นความแน่นอนในเกมรับมาก่อน จะเห็นได้ว่าผลสกอร์ที่ออกมาถ้าไม่เจอทีมอ่อนชั้นกว่า จะจบด้วยผลเสมอ เฉือนชนะ หรือพ่ายแบบฉิวเฉียดเท่านั้น
ขุมกำลังหน้าเดิม
แน่นอนว่าความสำเร็จในการคุมทีมชาติอิรัก ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี เชไนชิล ยังคงยึดมาจากชุดที่เขาพาทีมประสบความมสำเร็จเป็นแชมป์ Waff Cup U-23 Championship 2023 แต่ก่อนที่จะมาถึงการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศกาตาร์รอบนี้ ระหว่างที่พาทีมลงแข่งรอบคัดเลือก มีผู้เล่นหายไปจากชุดนั้นถึง 11 คนที่แตกต่างจากเดิม
ส่วนรายการอุ่มเครื่อง Waff Cup U-23 Championship 2024 ที่พวกเขาคว้าอันดับที่ 6 มาครอง เป็นทัวร์นาเมนต์ลองตัวผู้เล่น ที่มีตัวหลักประคองเทียบเป็นสัดส่วนแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นตัวหลักภายในประเทศเท่านั้น
หากนับรายชื่อที่ประกาศออกมา 25 คนสุดท้ายในชุดลุ้นคว้าตั๋วไปลุย โอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงปารีส มีถึง 14 คนที่เป็นลูกทีมของ เชไนชิล ที่คว้าแชมป์ Waff Cup 2023 ไม่ว่าจะเป็นประตู 2 คน กองหลัง 5 คน กองกลาง 6 คน และ กองหน้า 1 คน โดยมีตัวผู้เล่นที่เรียกตัวมาจากลีกยุโรปถึง 5 รายด้วยกัน
ผู้เล่นที่น่าสนใจของ ทีมชาติอิรัก ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี แนวรับมีการเรียกตัว โจเซฟ อัล-อิมาม (Josef Al-Imam) แนวรับ วันเดอร์ คิด วัยแค่ 19 ปี อดีตผู้เล่นของสโมสรชื่อดังในสวีเดนอย่าง มัลโม่ ที่เพิ่งย้ายไปเล่นให้กับ บีเค โอลิมปิก สโมสรระดับลีก 4 แดนไวกิ้ง เป็นเซนเตอร์เท้าซ้ายที่เบสิคฟุตบอลแทบไม่ต้องห่วง
นอกจากนี้ยังมีเซนเตอร์แบ็คดาวรุ่งที่น่าจับตามองอีกหนึ่งรายอย่าง โรมัน ดูลาชี่ (Roman Doulashi) ลูกครึ่ง อิรัก-เยอรมัน วัยแค่ 18 ปี ที่สังกัดอยู่กับสโมสร ชาลเก้ 04 ที่มีส่วนสูงถึง 194 เซนติเมตร รวมไปถึงตัวประสบการณ์สูงอย่าง ซาอิด ทาห์ซีน (Zaid Tahseen) และ คาร์ราร์ ซาอัด (Karrar Saad) สองตัวประสบการณ์สูงที่เป็นตัวหลักมาตั้งแต่ชุดแชมป์ Waff Cup 2023 คอยประคองน้องๆ
กองกลางมี อาลี อัลโมซาวี่ (Ali Almosawe) ตัวริมเส้นจากสโมสร เอสเตรล่า อมาโดร่า (ชุดสำรอง) สโมสรโซนท้ายตารางในลีกสูงสุดประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นลูกครึ่ง อิรัก-เดนมาร์ก นับมาจนถึงตอนนี้เขาผ่านประสบการณ์ฝึกฟุตบอลในยุโรปและค้าแข้งในแดนโคนม รวมไปถึงเล่นในลีกเยาวชนในประเทศออสเตรียมาแล้ว
นอกจากนี้ยังมี คาร์ราร์ อัล-มุคห์ตาร์ (Karrar Al-Mukhtar), มุนตาเดอร์ โมฮัมเหม็ด (Muntadher Mohammed) และ นิฮัด โมฮัมเหม็ด (Nihad Mohammed) ที่เป็นขุนพลแชมป์ Waff Cup 2023 เป็นตัวคุมจังหวะเกม ซึ่งเป็นหัวใจหลักในพื้นที่แดนกลาง
ด้านผู้เล่นในแนวรุกยังมี บลินด์ ฮัสซาน (Blnd Hassan) กองหน้ากึ่งปีกจากสโมสร เดอ กราฟชาป สโมสรในลีกรองประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งได้ลงเล่นซีซั่นนี้รวมทุกรายการไปแล้ว 13 นัด เป็นลูกครึ่งเนเธอร์แลนด์วัยเพียงแค่ 20 ปี
สุดท้ายตำแหน่งกองหน้ายังมี อามิน อัล-ฮามาวี (Amin Al-Hamawi) กองหน้าวัย 20 ปี ลูกครึ่งอิรัก-สวีเดน ที่เคยค้าแข้งอยู่กับสโมสร เฮลซิงบอร์ก ประเทศสวีเดน แต่เพิ่งถูกยกเลิกสัญญาไปในเดือนมกราคมปีนี้แบบสดๆ ร้อนๆ ซึ่งเป็นเด็กปั้นของสโมสรแท้ๆ ไต่เค้ามาตั้งแต่ระดับเยาวชนจนขึ้นทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ เล่นระดับอาชีพไปทั้งหมด 52 นัด ยิงไป 16 ประตู ฤดูกาลก่อนลงเล่นไปถึง 28 นัด ยิงไป 5 ประตู
ผลงานล่าสุดและการเจอกันก่อนหน้านี้
ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดของ ทีมชาติอิรัก ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ถือว่าไม่ดีเท่าไหร่นัก ชนะ 2 นัด และแพ้ 3 นัด เริ่มจาก ชนะ โตโก ยู-23 แบบฉิวเฉียด 3-2 (อุ่นเครื่อง), แพ้ ออสเตรเลีย ยู-23 แบบหวุดหวิด 1-2 (Waff Cup U-23 2024), ชนะ ยูเออี ยู-23 แบบหืดจับ 2-1 (Waff Cup U-23 2024), แพ้ จอร์แดน ยู-23 ขาดลอย 1-3 (Waff Cup U-23 2024) และแพ้ ญี่ปุ่น ยู-23 แบบเกือบยันอยู่ 0-1 (อุ่นเครื่อง)
ส่วนผลงานการเจอกันกับ ทีมชาติไทย ยู-23 ก่อนหน้านี้ทั้งหมด 4 เกม นับว่า อิรัก มีผลงานที่ดีกว่าชัดเจน เพราะไม่เคยพลาดท่าพ่ายให้กับ ทัพช้างศึก เลยแม้แต่เกมเดียว ชนะไป 2 นัด ด้วยสกอร์ที่ห่างกันเพียงแค่ 1 ลูก และ เสมอ 2 นัด ด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งสองเกม
อย่างไรก็ตามเกมล่าสุดที่เจอกันนั้นผ่านมาแล้ว 2 ปีเศษ แล้วเป็นทางฝั่ง ทีมชาติไทย ที่พ่ายไป 1-2 ในศึกดูไบ คัพ 2022 หลายสิ่งหลายอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้เล่นหรือโค้ช ที่ผันแประไปตามกาลเวลาและผลงาน
ย้อนกลับไปในเวลานั้น ทีมชาติไทย ยู-23 คุมทีมโดย โค้ชโย่ง-วรวุฒิ ศรีมะฆะ แม้ว่าหลายผู้เล่นจากชุดนั้น จะไม่มีชื่อในชุดชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 2024 แต่ยังเหลือแกนหลักที่หวังพึ่งได้อยู่บ้าง อาทิ ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท เพลย์เมคเกอร์ซ้ายผ่านตลอด, ชิษณุพงษ์ โชติ แนวรุกฟอร์มแรง และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าจมูกไวจอมถล่มประตู ถือว่าพวกเขาเหล่านี้มีโอกาสได้ล้างตาจากความพ่ายแพ้ครั้งก่อน
ส่วนทาง ทีมชาติอิรัก ยู-23 เปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชจากชุดนั้นที่คุมโดย มิโรสลาฟ ซูคุป (Miroslav Soukup) มาเป็น เชไนชิล ซึ่งแน่นอนว่า รูปแบบการเล่นและรายละเอียดแท็คติกย่อมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่อย่างน้อยก็ยังมี มุนตาเดอร์ โมฮัมเหม็ด มิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกมคนสำคัญ ที่เคยดวลกับ ทีมชาติไทย ยู-23 ครั้งก่อนในปี 2022 คอยถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการต่อกรกับ ทัพช้างศึก ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นการปะทะกันรอบนี้ ผลลัพธ์มีโอกาสออกได้ทั้งสามหน้า ต้องมารอลุ้นกันว่า การเตรียมตัวของทั้งสองทีม ฝั่งไหนจะมีความพร้อมในระยะเวลาอันสั้นมากกว่ากัน
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
https://www.flashscore.com.au/h2h/football/thailand-zchuuC0a/iraq-6H4JTV2m/#/overall
https://en.wikipedia.org/wiki/2024_WAFF_U-23_Championship
https://www.transfermarkt.com/iraq-u23/spielplan/verein/40739/plus/0?saison_id=2023
https://en.wikipedia.org/wiki/2023_WAFF_U-23_Championship
https://en.wikipedia.org/wiki/Iraq_national_under-23_football_team
ข่าวและบทความล่าสุด