Road To Paris : เปิดปัญหาทีมชาติไทยชุดปรีโอลิมปิกสรุปเน้น-ไม่เน้น?
ก่อนหน้านี้ทาง เจ-วรปัฐ อรุณภักดี ได้ออกมาเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นในการส่งสาส์นไปถึง ‘สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย’ ที่อาจปล่อยโปรแกรมการเก็บตัวของ ทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ให้ว่างเว้นไปเปล่าๆ หลังทัวร์นาเมนต์ ‘แพนด้า คัพ’ ที่ทาง สาธารณรัฐประชาชนจีน เชิญไปแข่งถูกยกเลิก
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว โค้ชหระ-อิสสระ ศรีทะโร ผู้ฝึกสอนของทีมชุดนี้ ถูกมอบหมายงานที่แสนหนักหนาสาหัสด้วยการวางเป้าพาทีมผ่านการคัดเลือก ไปลุญศึก ‘ฟุตบอล โอลิมปิก เกมส์’ ที่กรุงปารีส ประเทศ ฝรั่งเศส ในปี 2024
อย่างไรก็ตามการสนับสนุนของสมาคมฯ ที่มอบภาระหนักให้กับ โค้ชหระ ดูเหมือนจะเป็นทิศทางแบบตรงกันข้าม ตัดลดงบประมาณ เกือบจะไม่มีการจัดตั้งแคมป์เก็บตัวในเดือนพฤศจิกายน ก่อนจะมาเปลี่ยนท่าทีหลังจาก ‘บิ๊กหยิม’ - ยุทธนา หยิมการุณ ออกมาให้ข่าวว่าโปรแกรมดังกล่าวถูกกำหนดใหม่แล้ว ให้ทาง ช้างศึก จูเนียร์ มีการอุ่นเครื่อง 2 นัด ระหว่างวันที่ 13-21 พฤศจิกายน ตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์
ก่อนหน้าที่ทาง สมาคมฯ ภายใต้การบริหารของ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จะเปลี่ยนท่าที สถานการณ์ดังกล่าวนั้นมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง? เหตุใดโปรแกรมนี้จึงถูกคลอดออกมาได้ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ - Think Curve - คิดไซด์โค้ง
โฆษณาชวนเชื่อแล้วปล่อยจอย
แผนงาน Road to Paris ของ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในการพา ทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ไปลุยศึก โอลิมปิก เกมส์ ในปี 2024 ไม่ต่างกับโฆษณาชวนเชื่อ ให้แฟนบอลตั้งเป้าเอาไว้แบบสูงลิบ มองภาพไกลจากจุดเริ่มต้น ทั้งที่ยังไม่มีการบริหารงานและการสนับสนุนที่เป็นรูปเป็นร่างชัดเจน
โดยทาง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มอบหมายภารกิจให้กับ โค้ชหระ เคยออกมากล่าวถึงเหตุผลที่เขาเลือกโค้ชรายนี้มาทำทีมเอาไว้ว่า
“โค้ชหระ เป็นโค้ชที่รู้จักนักบอลรุ่นนี้เป็นอย่างดี ใกล้ชิดนักเตะ การทำงานน่าพอใจ อิสสระ ศรีทะโร อยู่ในแผนที่วางไว้ของสมาคม กับการนำทีมสู้ศึกชิงแชมป์เอเชียแย่งตั๋ว โอลิมปิก เกมส์ อยู่แล้ว เชื่อว่าเขาคือคนที่เหมาะสมที่สุด”
อย่างไรก็ตามหลังจาก โค้ชหระ พาทีมสู้ศึกผ่านไปหลายรายการ เขาต้องเจอสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและไม่ได้รับความร่วมมืออยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นสโมสรต้นสังกัดไม่ต้องการปล่อยตัวนักเตะ, แผนงานที่เสนอไปให้กับสมาคมร่วมกับทีมงานไม่ได้รับการตอบรับ และ ต้องแบกรับความรับผิดชอบเอาไว้คนเดียว หากทีมทำผลงานออกมาได้ไม่ดี
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อทาง พล.ต.อ. สมยศ กำลังจะหมดวาระการนั่งแท่นเป็น นายก ส. บอล ในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า แล้วเหมือนท่าทีของ บิ๊กอ๊อด นั้นเตรียมที่จะหลีกทางให้กับผู้ชิงตำแหน่งที่เหมาะสม เข้ามาบริหารงานแทน แผนงานต่างๆ ที่ยังไม่เสร็จสิ้นดี ก็แทบไม่มีส่วนที่ได้รับการสะสาง มีเพียงแค่สิ่งปลูกสร้างบางอย่าง ที่พอจะเป็นหน้าเป็นตาแล้วเป็นรูปธรรมได้เท่านั้น ส่วนอื่นๆ แทบไม่เห็นการพัฒนาเลยแม้แต่น้อย
เช่นเดียวกับการสนับสนุนการทำทีมของ โค้ชหระ และ บิ๊กหยิม ที่เสนอแผนงานไว้ยาวถึงปีหน้า แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ แต่พอมีสื่อมาทวงถามโดยตรงถึงเรื่องดังกล่าว จึงมีการเปลี่ยนท่าทีแบบที่เห็น
ไหนบอกงบเหลือ?
สาเหตุสำคัญที่ทาง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะตัดสินใจไม่เก็บตัว ทีมชาติไทย ยู-23 ก่อนหน้านี้ เป็นผลมาจากการที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หากจำเป็นต้องดำเนินการจริงๆ ต้องควักทุนจ่ายเองทั้งหมด เพราะไม่ใช่การเดินทางไปอุ่นเครื่องที่ได้รับเชิญไปเหมือนเดิม แล้วมีทางเจ้าภาพช่วยออกค่าใช้จ่ายให้บางส่วน
อย่างไรก็ตาม โค้ชหระและทีมงาน ได้นำเสนอแผนเก็บตัวที่ใช้เวลาเพียงแค่ 7 วัน เพื่อประหยัดงบประมาณให้ไปแล้ว แล้วเมื่อคิดคำนวนตัวเลขออกมาจะใช้งบที่ราว 1.5 ล้านบาท ซึ่งนับว่าไม่ได้สูงเกินความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งทาง เจ-วรปัฐ ได้นำเสนอความคิดเห็นเอาไว้ในคลิปทางช่อง คิดไซด์โค้ง เอาไว้ว่า
“จะให้คุณ ยุทธนา หยิมการุณ ออกไปหางบคนเดียว ผมมองว่าไม่ถูกต้อง สมาคมเองก็ต้องมีงบในการจัดการอยู่ ไหนว่ากองทุนพาบอลไทยไปบอลโลกนั้นยังอยู่ ที่มีเม็ดเงินราว 83 ล้าน ผมว่ากรณีนี้มันสามารถยืมงบฉุกเฉินกันได้”
“ผมว่าสมาคมฟุตบอลที่เป็นองค์กรใหญ่ ควรมีการบริหารจัดการได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ไปรอทำใกล้ๆ ทัวร์นาเมนต์จะแข่ง ไม่งั้นมันก็ได้แค่นั้น ลองทำอะไรให้มันเต็มที่หน่อยก่อนจะหมดวาระ เชื่อว่าควรฝากอะไรดีๆ ไว้มากกว่าแค่สิ่งปลูกสร้างหรือศูนย์ฝึกฟุตบอล เพราะถึงบ้านสวยแต่ไม่มีคนอยู่ มันก็ไม่เกิดประโยชน์”
ความจริงแล้วมีอีกหลายภาคส่วนที่พร้อมให้ความร่วมมือ ยกตัวอย่างเช่น สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่พร้อมให้ยืมศูนย์ฝึกในการเก็บตัวทีมชาติชุดนี้ แถมยังเตรียมงบประมาณสนับสนุนบางส่วนไว้ให้เพิ่มเติมอีกด้วย ทางผู้เกี่ยวข้องก็ได้วางแผนงานกันเอาไว้เกือบหมดแล้ว ขอแค่ได้รับไฟเขียวจาก สมาคมฯ เท่านั้น
ขนาดฟุตซอลกีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นรอง แต่จัดอยู่ในประเภทที่ใกล้เคียงกัน ยังยอมหลีกทางให้บอลใหญ่ในเรื่องของการของบประมาณ ทั้งที่มีทัวร์นาเมนต์สำคัญที่จะแข่งช่วงต้นปี ด้วยการมอบหมายหน้าที่ให้ ‘บิ๊กป้อม’ อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมบอลโต๊ะเล็ก เดินหน้าหางบสนับสนุนทีมด้วยตัวเอง
ซึ่งหลายฝ่ายที่มองสถานการณ์ของ ทีมชาติไทย ยู-23 เชื่อว่า ช้างศึกจูเนียร์ มีลุ้นที่จะผ่านเข้าไปถึงรอบ เพลย์ ออฟ ได้หากจบในอันดับที่ 4 ในรายการชิงแชมป์เอเชีย ดังนั้นหากหวังจะทำทีมให้ประสบความสำเร็จจริงๆ ผู้บริหารของสมาคมควรจะสนับสนุนทีมงานอย่างจริงจังหมากกว่านี้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=GeBsnT01YY4&t=320s