รุย ปินโต : แฮ็คเกอร์ผู้เจาะข้อมูลลับของ แมนฯ ซิตี้ ได้เป็นคนแรก “เพื่อความยุติธรรม”

รุย ปินโต : แฮ็คเกอร์ผู้เจาะข้อมูลลับของ แมนฯ ซิตี้ ได้เป็นคนแรก “เพื่อความยุติธรรม”
ธนกรณ์ ปราโมกข์ชน


"ผมไม่ใช่แฮ็คเกอร์ผมเป็นผู้แจ้งเบาะแส" รุย ได้ให้คำนิยามเกี่ยวกับตัวเองผ่านทางการให้สัมภาษณ์กับสื่อของเยอรมันอย่าง แดร์ สปีเกล เขาถูกเพ่งเล็งว่าข้อมูลของเขาเป็นหัวใจหลักสำคัญในการให้ความช่วยเหลือแก่พรีเมียร์ลีกในการสืบสวนเรื่องการละเมิดกฎการเงินของสโมสรสรชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้

หลายคนอาจสงสัยว่า เขาเป็นใคร เขาทำไปเพื่ออะไร เขาได้ผลประโยชน์จากการเปิดโปงสิ่งเหล่านี้หรือไม่

ติดตามไปพร้อมกับพวกเรา Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ต้นกำเนิดแบทแมนแห่งวงการลูกหนัง

หนุ่มเนิร์ดรายนี้เกิดที่เมืองบียาโนวาเดอไกอา ในประเทศ โปรตุเกส เขาเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่บ้าฟุตบอลเข้าเส้น และเติบโตมากับการเป็นแฟนคลับของสโมสรปอร์โต้ แต่ในสมัยที่เขายังเรียนหนังสือเขามักจะโดดเรียนเพื่อไปใช้เวลาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่บ้านซะส่วนใหญ่ พ่อของเขาเป็นช่างรองเท้า ซึ่งที่แม่ของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตอนที่เขาอายุได้แค่ 11 ปี

"มันยากมากที่จะอธิบายลักษณะของ รุย เขาอาจจะเป็นนักเรียนที่ดีที่สุดจากชั้นเรียน ถ้าหากเขาต้องการนะ แต่เขาไม่ใช่"

"ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ของเขาเรียนรู้ด้วยตัวเองและเขาไม่เคยได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการในสาขานี้เลย" ครูสอนภูมิศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมของเขากล่าว

Photo : Manchester Evening News

ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาของตัวเขามีน้อยมาก แหล่งข้อมูลระบุว่าเขาเคยเรียนในคณะประวัติศาสตร์ในระดับมหาวิทยาลัย ก่อนจะตัดสินใจลาออก และมีการเปิดเผยอีกว่าเขาใช้เวลาช่วงหนึ่งไปเรียนที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ซึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มปฏิบัติการแก้ไขเข็มทิศในโลกฟุตบอล เขายังเคยกระทำเรื่องในลักษณะนี้มาก่อน นั่นคือ เขาถูกกล่าวหาว่าขโมยเงิน 300,000 ยูโร จากธนาคารแคลิโดเนียในหมู่เกาะเคย์แมน แม้ว่าเขาจะปฏิเสธการกระทําผิดใด ๆ ซึ่งเขาระบุว่าการกระทำของเขาก็เพื่อท้าทายธนาคารเพื่อแสดงให้เห็นว่า "ธนาคารในหมู่เกาะเคย์แมนส่วนใหญ่ใช้สําหรับการหลีกเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน"

รุย ปินโต เริ่มก่อตั้งเว็บไซด์ Football Leaks ในเดือนกันยายนปี 2015 ชายผู้เข้ามาเขย่าวงการฟุตบอลอย่างรุนแรง เขาใช้นามแฝงในชื่อ จอห์น เว็บมาสเตอร์แห่ง Football Leaks หรือที่แปลว่า "ข้อมูลที่รั่วไหลของโลกฟุตบอล" เพราะเขาเชื่อว่าวงการฟุตบอลกำลังเดินไปในทิศทางที่ผิด

Photo : The Guardian

เว็บไซด์นี้จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจุดมุ่งหมายในการสร้างความโปร่งใสให้กับวงการฟุตบอล โดยหน้าที่หลัก ๆ ของเขาคือการเปิดเผยข้อมูลและเอกสารลับต่าง ๆ ของแต่ละสโมสรในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่เอกสารเหล่านั้นล้วนเป็นปัญหาสุด ๆ หากมีการนำมาเผยแพร่บนสื่อสาธราณะ

โดยเว็บไซด์ Football Leaksได้มีการนำเอาเอกสารที่ปกปิดมาแฉ เผยแพร่สัญญานักเตะ ค่าจ้าง สัญญาของสโมสรที่ขัดต่อกฎหมายชัด ๆ รวมทั้ง ค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขที่ไม่ธรรมดาในการโอนย้ายสโมสรของนักเตะบางราย ซึ่งมักเป็นเรื่องของการกระทำที่เกี่ยวข้องกับสโมสร ผู้จัดการทีม และนักเตะ ที่ไม่ต้องการเปิดเผย ผิดกฎหมาย หรือเพื่อหลบเลี่ยงการเสียภาษี

เปิดมาก็เอาเลย

"ผมโตมากับการเป็นเด็กคลั่งบอล ผมรู้ว่ากฎต่าง ๆ อย่างกฎบอสแมน (ย้ายตัวได้แบบไม่มีค่าตัวเมื่อสัญญาเหลือกับต้นสังกัดน้อยกว่า 6 เดือน) ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าฟุตบอลกำลังเดินไปในทิศทางที่ผิด ผู้เล่นดาวรุ่งเก่ง ๆ ของทีมเล็ก ๆ รอโดนทีมยักษ์ใหญ่ดูดไปใช้ ทุกอย่างส่งเสริมให้บิ๊กทีมกุมความได้เปรียบเอาไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะในโปรตุเกสบ้านผม ผมเห็นความผิดปกติในการซื้อขายนักเตะมากมาย มีนักลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง และนั่นทำให้ผมเริ่มรวบรวมข้อมูลด้วยตัวเอง"

ซึ่งภารกิจแรกในบทบาทของ “ผู้ทวงคืนความโปร่งใส” เขาเริ่มที่การเปิดโปงข้อมูลการซื้อขายของสโมสร ทเวนเต้ ทีมจากลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์ ที่มีการนำบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยบริษัทที่มีชื่อว่า ดยอร์น สปอร์ต ซึ่งส่งผลให้สมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์สั่งแบน ทเวนเต้ จากการแข่งขันฟุตบอลยูโรเป็นเวลา 3 ปี ในฤดูกาล 2016-17 ถึง 2018-19

"ผมรู้ว่าข้อมูลในมือของผมนั้นมีศักยภาพ ผมติดต่อกับ ดยอร์น สปอร์ต เพื่ออยากรู้ว่าพวกเขาพร้อมจะจ่ายเท่าไหร่เพื่อให้ผมเงียบ จริง ๆ ผมไม่ได้อยากได้เงินหรอก แต่ผมอยากจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของพวกเขามากกว่า" รุยกล่าวในการให้สัมภาษณ์ เพื่อยืนยันว่าตัวของเขาเองไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อเงิน

Photo : Die Zeit

ต่อมาเป็นการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดีลการซื้อขายของ อาแอส โมนาโก โดยทางสโมสรได้มีการซื้อนักเตะอย่าง ราดาเมล ฟัลเกา มาจาก แอตเลติโก มาดริด เมื่อปี 2013 ซึ่งทางสโมสรหรือสำนักข่าวใหญ่ยืนยันว่าดีลนี้ราคา 43 ล้านยูโร แต่จริง ๆ ข้อมูลที่ รุย สืบค้นมาได้คือ 60 ล้านยูโร

แน่นอนว่าตัวเลขที่แจ้งมาไม่ตรงกับจำนวนที่แท้จริง ทำให้สโมสรต่าง ๆ จะถูกเพ่งเล็งไปด้วยหากมีการซื้อขายนักเตะเกิดขึ้นในภายหลัง หากว่ากันตามกฎรายได้กับรายจ่ายต้องสัมพันธ์กัน เช่น หากสโมสรมีรายได้ 80 ล้านยูโร แต่ซื้อนักเตะ 100 ล้านยูโร ถือว่าเป็นการผิดกฎ บางสโมสรจึงมีการแจ้งมูลค่านักเตะที่ต่ำลงจากความเป็นจริงเพื่อให้การซื้อขายเป็นไปได้ ซึ่งการหาข้อมูลทั้งหมดนี้ รุย เป็นคนลงมือเองทั้งหมด

"ผมอ่านทุกอย่าง อ่านข้อเสนอของแต่ละดีล ผมใช้เวลาหลายชั่วโมง ง่วนกับกองเอกสารและวิเคราะห์การกระทำของสโมสรต่างๆ และยิ่งผมอ่านผมก็ยิ่งตกใจ โดยเฉพาะเรื่องตัวแทนนักเตะที่เป็นบริษัทจากต่างประเทศ พวกเขาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังและทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย เช่นการเลี่ยงภาษีซึ่งเป็นเงินก้อนโตด้วย"

หรือไม่ว่าจะเป็นดีลของสตาร์ระดับโลกอย่าง เนย์มาร์ ในขณะที่เขาเซ็นสัญญากับ สโมสร บาเซโลน่า เขาได้รับค่าธรรมเนียมการเซ็นสัญญา 8.5 ล้านยูโร โดยมีเงื่อนไขการซื้อขาด 190 ล้านยูโร (152 ล้านปอนด์) และเขาได้รับ 77,000 ยูโรต่อสัปดาห์ หรือจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลในดีลของ แกเร็ธ เบล จาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ไปยัง เรอัล มาดริด มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่า 96 ล้านยูโรที่สโมสรจ่ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เสียอีก

Photo : CaughtOffside

หรือนักเตะโคตรแข้งอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไอดอลในดวงใจของตัวเขาเองยังไม่รอด รุย เปิดเผยข้อมูลเรื่องหนีภาษีสมัยเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ที่สเปน โรนัลโด้ ถูกสรรพากรของสเปนตามเป็นเงาอย่างต่อเนื่อง เป็นสาเหตุให้ โรนัลโด้ ต้องย้ายไปเล่นที่ ยูเวนตุส ในอิตาลี

"โรนัลโด้ เป็นคนโปรดของผม ผมว่าเขาดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล อย่างไรก็ตามการประพฤติตัวนอกสนามของเขา ต้องถูกตัดสินแตกต่างกับผลงานสนามโดยสิ้นเชิง Football Leaks ไม่เคยสนใจเรื่องผลประโยชน์ ไม่สนใจว่าใครจะได้รับผลกระทบกับใครหรือไม่ ผมมีจุดมุ่งหมายวางตัวเป็นกลางเสมอ" รุย กล่าว

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ก่อตั้งเว็บไซด์ Football Leaks ซึ่งตัวมันเองทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากกว่าที่จะทำเรื่องไร้ประโยชน์ มันเปิดเผยทุกอย่างตั้งแต่การฉ้อโกงภาษีไปจนถึงสโมสรที่ละเมิดไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ รุย มีเอกสาร 70 ล้านฉบับและข้อมูล 3.4 เทราไบต์รวมถึงอีเมลส่วนตัวอีกมากมาย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ไม่ต้องถึงกล้อง แค่ยืนมองยังเรื่องใหญ่ : เมื่อ บิเอลซ่า ส่งนักสืบไปดูคู่แข่งซ้อม | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
Think Curve - คิดไซด์โค้ง จากเหตุการณ์การติดกล้องวงจรปิดในห้องพักทีมเยือนใน สนามบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันอย่างล้นหลามในหมู่แฟนบอลไทยในขณะนี้ ทำให้เกิดคำถามคำถามขึ้นมากมายว่า สโมสรบุรีรัมย์ฯ เอาเปรียบสโมสรอื่นหรือไม่ นี่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของสโมสรอื่นหรือไม่


Tag Team

น่าแปลกทั้ง ๆ ที่ รุย มีข้อมูลที่เชื่อถือได้อยู่ในมือที่สามารถช่วยเหลือองกรค์ต่าง ๆ ได้ แต่ไม่มีแม้องค์กรเดียวที่จะเหลียวมองข้อมูลของเขาซึ่งเขานั้นพร้อมให้ความร่วมมือแน่นอนอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟีฟ่า และ ยูฟ่า กลับไม่สนใจข้อมูลและเว็บไซต์ของเขาเลยตลอดระยะเวลาที่ก่อตั้งขึ้นมา

"ฟีฟ่า และ ยูฟ่า ไม่เคยติดต่อกับเว็บไซต์ของผมเลย มันน่าหงุดหงิดชะมัด ผมให้สัมภาษณ์ในฐานะ จอห์น ซึ่งเป็นนามแฝง ผมบอกพวกเขา ผมมีเอกสารเจ๋ง ๆ ที่โคตรชัดเจนพร้อมจะมอบให้ แต่พวกเขาไม่เคยติดต่อมาเลย" รุย กล่าว

อย่างไรก็ตามการค้นข้อมูลของผู้โดยไม่ได้รับอนุญาติก็ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลอยู่เช่นกัน

Photo : The Guardian

รุย ถูกจับกุมในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 ในอพาร์ทเมนท์ที่กรุง บูดาเปสต์ เจ้าหน้าตำรวจนำทีมบุกจับเขาฐานลอบยักยอกข้อมูลส่วนตัว และสร้างความเสื่อมเสียให้กับผู้ถูกกล่าวหา

"ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองทำผิดกฎหมาย มีแต่ความผิดหวังเท่านั้นที่เกิดขึ้น ระบบการเลี่ยงภาษีทำให้คนวงในรับเงินใต้โต้ะก้อนโตเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงภาษี ทุกคนเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องชั่วร้ายทั้งหมด ทั้งเอเย่นต์, ทนายความ, นายธนาคาร หรือใครก็ตาม แต่ไม่มีใครทักท้วงเลย เพราะทุกคนได้ผลประโยชน์กันหมด" รุย กล่าว

ซึ่งในปี 2021 รุย อยู่ในโครงการคุ้มครองพยานในบ้านเกิดของเขาในโปรตุเกสเพื่อความปลอดภัยของเขาเองในขณะที่เขารอการเริ่มต้นการพิจารณาคดีอีกครั้งสําหรับข้อกล่าวหาการแฮ็กและความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

รุย ได้บอกผ่านทนายความของเขาว่าเขายินดีที่จะช่วยการสอบสวนของพรีเมียร์ลีกซึ่งลากมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018

Photo : The Guardian

ทนายความของเขา ฟรานซิสโก และ ลุยซา เตลเซล่า ดา โมตา บอกผ่านกับ Mail On Sunday ว่า "รุยยังคงมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับหน่วยงานระดับชาติและระดับนานาชาติเพื่อช่วยเปิดเผยการกระทําผิดในวงการฟุตบอลและนําไปสู่ความโปร่งใสของฟุตบอล"

อย่างไรก็ตามข้อมูลของเขานำมาซึ่งการตรวจสอบสโมสรต่าง ๆ และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นทาง พรีเมียร์ลีก ได้ยืนยันการตั้งข้อกล่าวหา แมนฯ ซิตี้ ละเมิดกฎการเงิน หลังมีการสืบสวนนานถึง 4 ปี

จากแถลงการณ์ของทาง พรีเมียร์ลีก ได้ระบุว่ามีการละเมิดกฎรวมกันถึง 9 ฤดูกาล นับตั้งแต่ปี 2009/10 ถึงปี 2017/18 ในช่วง ชีค มานซูร์ บุกเบิก แมนฯ ซิตี้ และอัดฉีดเงินทุนเพื่อยกระดับทีมทั้งในและนอกสนามในช่วงที่ผ่านมา

โดยคดีจะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการอิสระในการพิจารณา ซึ่งหากพบว่า แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาจริง จะทำให้พวกเขาโดนลงโทษสถานหนักคือตัดแต้มหรืออาจรุนแรงถึงขั้นขับพ้นลีกเลยทีเดียว

Photo : Forbes

"ตามกฎพรีเมียร์ลีก ข้อ W.82.1 ทางพรีเมียร์ลีกยืนยันว่าวันนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาการละเมิดกฎพรีเมียร์ลีกโดยสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปยังคณะกรรมการภายใต้กฎพรีเมียร์ลีก ข้อ W.3.4"

"คณะกรรมการแยกเป็นอิสระจากพรีเมียร์ลีกและสโมสรสมาชิก สมาชิกของคณะกรรมการอิสระจะถูกแต่งตั้งโดยคณะตุลาการพรีเมียร์ลีก ตามกฎพรีเมียร์ลีกข้อ W.19, W.20 และ W.26 "

"การดำเนินการต่อหน้าคณะกรรมการตามกฎพรีเมียร์ลีกข้อ W.82 จะดำเนินอย่างเป็นความลับ ภายใต้กฎของพรีเมียร์ลีก ข้อ W.82.2 คำตัดสินสุดท้ายของคณะกรรมการอิสระจะถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์พรีเมียร์ลีก"

"การยืนยันครั้งนี้มีขึ้นตามกฎพรีเมียร์ลีก ข้อ W.82.1 พรีเมียร์ลีกจะไม่แถลงเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าวจนกว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม"

Photo : Football365

สำหรับการสอบสวนเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2018 หลังจากที่เว็บไซต์ของเยอรมนี แดร์ สปีเกล ได้ตีพิมพ์เอกสารจาก ฟุตบอล ลีกส์ ซึ่งข้อมูลที่ได้มาก็ไม่ใช่จากใครที่ไหน นั่นคือคือ รุย นั่นเอง

ซึ่งเป็นการเปิดเผยว่า แมนฯ ซิตี้ มีรายได้จากสปอนเซอร์ที่มากเกินจริง โดยที่เจ้าของสโมสรจาก อาบู ดาบี จ่ายเงินเข้าทีมเอง แทนที่จะเป็นเงินจากสปอนเซอร์ และยังมีการเพิ่มค่าจ้างของอดีตผู้จัดการทีม โรแบร์โต้ มันชินี่ ผ่านการติดต่อกันอย่างลับ ๆ กับสโมสรในอาบูดาบี รวมถึงแหกกฎเรื่องการเข้าทาบทามนักเตะเยาวชน

และหากย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 ทาง เรือใบสีฟ้า เคยโดนแบนจากรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว และปรับเงินอีกถึง 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,000 ล้านบาท) หลังถูกทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ยูฟ่า พบว่าทำผิดกฏไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะถูกศาลสั่งลดโทษเหลือปรับเงิน 9 ล้านปอนด์ (ราว 360 ล้านบาท)

Photo : Manchester City FC

ซึ่งในช่วงเวลา 9 ฤดูกาลดังกล่าว แมนฯ ซิตี้ ของกลุ่มนายทุนจาก อาบู ดาบี ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไป 3 สมัย, เอฟเอ คัพ อีก 1 และ ลีก คัพ อีก 3 สมัย โดยหลังจากที่ทางพรีเมียร์ลีกออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 ก.พ. 2023 ฝั่งสโมสรจากถิ่นเอติฮัด ยังไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ

ต่อจากนี้หากว่าข้อมูลและความสามารถของเขาสามารถเอาผิดสโมสรมหาอำนาจอย่าง แมนฯ ซิตี้ ได้ รุยจะถูกพูดถึงและจดจำไปอีกนานอย่างแน่นอน และแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เขาทุ่มเทและยอมเสียสละการใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปมันไม่ได้สูญเปล่า

และในอนาคตหากเขาได้เป็นส่วนหนึ่งขององกรค์ที่ถูกกฎหมาย ความสามรถของเขาจะช่วยทำให้วงการลูกหนังโลกขาดสะอาดขึ้นอย่างแน่นอน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

รวดเร็ว ละเอียด แม่นยำ : OPTA เก็บสถิติอย่างไร จนทีมดัง ๆ ยังต้องมาขอซื้อข้อมูล ?

เมา,ชน มีคนเสียชีวิต : นักเตะต่างประเทศกับคดีเมาเเล้วขับจบแบบไหนบ้าง ?

ผลงาน วิธีการ วิธีคิด : ทำไม อาร์เตต้า จึงถูกมองว่าเป็นร่างทรง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ?

แหล่งอ้างอิง :

https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/man-city-ffp-rui-pinto-21139440?fbclid=IwAR3tMyhCJgQ49t5NgRkhtGEGjjHUbbCWn1-PpfOtOE8cbYUCj1BR4p_Dmgo

https://www.transcend.org/tms/2020/02/interview-with-football-leaks-whistleblower-rui-pinto-this-football-mafia-is-everywhere/?fbclid=IwAR37Rpj0UUpO41CYeJSWSx-3pV4Ih_BI8J4zMkiXG_Tf0zVPaS4Q57M578w

https://www.thesun.co.uk/sport/football/10967290/football-leaks-man-city-ban-rui-pinto/?fbclid=IwAR3d9cs8YXoiRf6XWg5hzUuLe-JImM_VIdB2l3wx399nSOnR8rnR27RmPn4

https://www.thesun.co.uk/sport/football/7710996/manchester-city-champions-league-football-leaks/

https://www.euronews.com/2020/01/27/luanda-leaks-who-is-rui-pinto-the-portuguese-hacker-behind-the-leak?fbclid=IwAR0D3wA33hV5lJ5r_jYnXUAQaMl6Oz1zzn2lLy9ptSe-s-w26i_C7tqMnik

https://en.wikipedia.org/wiki/Football_Leaks?fbclid=IwAR3UUp1acqjeHeXSYQ4AACKKR3tLtzhS8n1j0AXa4pwih6kcOMhjTRLQfEk

https://en.wikipedia.org/wiki/Rui_Pinto

แชร์บทความนี้
Content Creator - คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ