ส่องฟอร์มลูกครึ่งไทย-ออสซี่ใน เวทีเอเชีย อารอน เกิร์ด กองหลังซิดนีย์ เอฟซี

ส่องฟอร์มลูกครึ่งไทย-ออสซี่ใน เวทีเอเชีย อารอน เกิร์ด กองหลังซิดนีย์ เอฟซี
Korkit PS

ศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2 นอกจากจะมีทีมตัวแทนจากไทยลงแข่งขันอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ในเวทีนี้ จะมีแข้งเชื้อสายไทย ลงเล่นให้กับทีมอื่นในรายการนี้ และเพิ่งจะประเดิมสนามในเวทีนี้ ในเกมที่พบ อีสต์เทิร์น ทีมจากฮ่องกง

แข้งลูกครึ่งที่กำลังพูดถึง นั่นคือ อารอน เกิร์ด เซนเตอร์แบ็กลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ที่ลงเล่นให้กับ ซิดนี่ย์ เอฟซี และเป็นดาวรุ่งที่เริ่มมีบทบาทกับทีมในซีซั่นนี้มากขึ้น

ที่มาที่ไปของเขาคนนี้เป็นอย่างไร Think Curve - คิดไซด์โค้ง จะมารู้จักตัวตนของเขาและฟอร์มการเล่นให้ลึกกว่านี้กัน

เกิร์ด เกิดเมื่อ 18 กันยายน 2001 โดยมีคุณพ่อเป็นคนออสเตรเลีย และ แม่เป็นคนไทย เขาเกิดที่ ซิดนี่ย์ และฝึกฟุตบอลกับ แมนลี่ย์ ยูไนเต็ด ทีมท้องถิ่นในลีกรัฐนิวเซาท์เวลส์ ก่อนจะย้ายมาร่วมทีมอะคาเดมี่ของ ซิดนี่ย์ เอฟซี ตั้งแต่รุ่น U15 กระทั่งในปี 2020 เขาได้รับโอกาสประเดิมสนาม ในวัย 20 ปี ในเกมออสเตรเลีย คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย กับ เบนต์เล่ย์ ยูไนเต็ด พร้อมกับทำประตูให้ทีมชนะในเกมดังกล่าว

ซึ่งจากฟอร์มการทำประตูในเกมดังกล่าว ทำให้เขาได้รับสัญญา Scholarship ของทีมในปีนั้น ก่อนที่เขาจะพัฒนาฝีเท้า และได้สัญญานักเตะอาชีพในอีก 2 ปีถัดมา ซึ่งซีซั่นแรกของเขา เขาได้รับความไว้วางใจลงสนามถึง 12 เกม

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของเกิร์ด คือ เขาได้รับบาดเจ็บหนักขาหัก เมื่อเดือนมกราคม 2024 ซึ่งหนนั้น เขาต้องพักนานถึง 3 เดือน ก่อนจะบาดเจ็บซ้ำในช่วงการฝึกซ้อม เมื่อเดือนสิงหาคม และต้องพักอีก 3 เดือน ซึ่งทำให้ 2 ฤดูกาลหลังสุด เขาลงสนามรวมกันเพียง 205 นาที

ซึ่งกว่าที่ เขาจะกลับมาลงเล่นให้ ซิดนี่ย์ อย่างเป็นทางการ ก็เป็นเกม เอลีก นัดล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ เวลเทิร์น ซิดนี่ย์ฯ ไป 4-2 ซึ่งเกมนั้นเขาลงสนามครบ 90 นาที ซึ่งเป็นเกมแรกของเขาในฤดูกาล 2024/25 อีกด้วย

ขณะที่เกม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 เขาได้รับโอกาสลงสนามในเกมที่ชนะ อีสต์เทิร์น ทีมจากฮ่องกง และลงสนามไป 90 นาทีในเกมนี้ โดยสถิติของเขาในเรื่องของเกมรับ มีจังหวะแย่งบอลในเกมนี้ 2 ครั้ง, เข้าสกัด 2 ครั้ง และ เคลียร์บอล 3 ครั้ง ขณะที่การดวล เขาชนะการดวล 3 ครั้ง แพ้การดวล 5 ครั้ง และเสียฟาว์ล 1 ครั้ง ซึ่งเป็นจังหวะที่เขาทำทีมเสียจุดโทษ แต่ทว่า โนอา บาฟโฟ แข้งของอีสต์เทิร์น ยิงข้ามคานออกไป

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของเขา แน่นอนว่า ด้วยความเป็นแข้งลูกครึ่ง สิ่งหนึ่งที่ได้เปรียบกว่าแข้งไทยแน่ๆ คือเรื่องของสรีระ ที่สูงถึง 188 เมตร และเป็นกองหลังเท้าซ้าย ที่สามารถขึ้นไปเล่นเป็นกองกลางตัวรับได้ ขณะที่เรื่องการออกบอลแบบกองหลังสมัยใหม่ ตัวเขาเองก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่กระนั้น ด้วยประสบการณ์การลงเล่นที่ยังมีไม่มากหลังจากบาดเจ็บหนักมา ก็เป็นโจทย์หนึ่งที่เขาจะต้องพัฒนาฝีเท้าในฐานะกองหลัง เพื่อโอกาสการลงสนามที่สม่ำเสมอให้มากกว่านี้

แน่นอนว่า เขาเองยังมีโอกาสลงเล่นให้กับทีมชาติไทย หลังก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเคยอยู่ในข้อมูลที่ อิสสระ ศรีทะโร ที่เวลานั้นยังคุมทีมชาติไทย U23 จับตาฟอร์มของเขาอยู่ ซึ่งประสบการณ์ในการเล่นระดับนานาชาติ เขาเคยติดทีมนักเรียนออสเตรเลีย ในปี 2019 มาแล้ว

แชร์บทความนี้
ขมิ้นน้อยบนหลังเสือ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ