สามนัดแต้มเดียว : วิเคราะห์ผลงาน ‘เมืองทอง’ เปิดรังพ่ายการท่าเรือ แบบหมดรูป 1-3
‘
มาริโอสูทส้มแทบล้มตึง ทำเกมเหนือท่าเรือเถือไม่เข้า โชคยังดีได้จุดโทษตามตีเจ๊า ท้ายเกมเศร้าโดนยิงแซงแฟนเหงาเอย’
กุนซือจอมซ่าของ กิเลนผยอง อย่าง มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่เกมนี้อุตส่าห์ใส่สูทสีส้มแป๊ด ซึ่งเป็นสีหลักของสโมสร การท่าเรือ เอฟซี ต้อนรับการมาเยือนของทีมคู่แข่งที่ต้องเล่นในสนาม ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม แบบที่ไม่สามารถให้แฟนบอลเข้ามาเชียร์ด้วยได้เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องความปลอดภัย
ถ้ามองกันตามสภาพแล้วดูเหมือนว่าขุนพล เมืองทอง ค่อนข้างได้เปรียบอยู่เล็กๆ เรื่องกำลังใจจากแฟนบอลที่คอยส่งเสียงเชียร์ที่ข้างสนาม รวมไปถึงความคุ้นเคยในพื้นที่ทำการที่ได้เล่นในรังเหย้าของตัวเอง แต่ปรากฏว่าผลการแข่งขันกลับไม่เป็นใจอีกตามเคย พ่ายคารังไปด้วยสกอร์ 1-3 แบบน่าเจ็บใจ
ผ่านมาแล้วสามเกมพวกเขาเก็บไปได้เพียง 1 แต้ม นับจนถึงตอนนี้ยิงประตูในเกมลีกได้แค่ลูกเดียวจากจุดโทษ แถมเกมรับก็ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะพร้อมเสียประตูให้กับคู่แข่งได้ทุกเมื่อ เป็นการออกสตาร์ตบอลลีกที่ไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก สำหรับทีมที่มองเป้าหมายถึงการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของตัวแทนบอร์ดบริหาร
วิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นกับทัพ กิเลนผยอง ตอนนี้คืออะไร? จุดอ่อนที่เป็นผลเดิมของพวกเขาคือจุดไหน? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
มีแค่ทรงจบไม่ลงก็เท่านั้น
สถิติที่น่าปลื้มใจของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ คือ เรื่องของการครองบอลต่อบอลเหนือคู่แข่ง หลังจากผ่านไปสองเกมแรกในลีก พวกเขามีสถิติการผ่านบอลเป็นอันดับหนึ่งของลีก ด้วยจำนวน 1,036 ครั้ง
อย่างไรก็ตามแนวรุกของพวกเขาที่มีทาง สเตฟาน เชโปวิช กองหน้าที่เคยผ่านการค้าแข้งในลีกยุโรปมาอย่างโชกโชนหลายประเทศ กลับกลายเป็นเหมือนตัวตลกหน้าปากประตู ไม่มีออร่าหรือรังสีที่จะทำอันตรายแนวรับคู่แข่งได้เลยตลอดสองเกมที่ผ่านมา จากการที่ยังยิงไม่ตรงกรอบสักครั้งก่อนที่จะมาดวลกับคู่แข่งอย่าง การท่าเรือ ยิ่งไปกว่านั้นการดวลลูกกลางอากาศของเขา 4 ครั้งในเกมล่าสุดผลออกมาคือแพ้หมด
ผลงานของ เชโปวิช เกมนี้พัฒนาขึ้นหากวัดกันตามตัวเลขสถิติ เพราะเขาสามารถยิงตรงกรอบได้เป็นครั้งแรก จากการพยายามจะโชว์เหนือ ชิพบอลข้ามตัว สมพร ยศ นายทวารของอาคันตุกะ แต่ผลจบลงที่บอลไปเข้ามือแบบง่ายๆ ไร้ความอันตรายโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าบอร์ดบริหารของ เมืองทอง พยายามลงทุนหาตัวต่างชาติเข้ามาเสริมทัพให้ได้มากที่สุด แต่เมื่องบประมาณมีให้ใช้แบบจำกัดจำเขี่ย แน่นอนว่าคุณภาพของนักเตะที่คว้าตัวมาครองได้ย่อมลดหลั่นไปตามสภาพ ซึ่งตอนนี้ปัญหาปืนฝืดของแนวรุก กำลังเล่นงานลูกทีมของ มาริโอ จนอาการน่าเป็นห่วง
หลังเกมที่บุกไปแบ่งแต้มกับ แบงค็อก ด้วยการเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ มาริโอ ได้ส่ง ดานโญ่ เซียก้า หนึ่งในทีมงานสตาฟฟ์โค้ชมาให้สัมภาษณ์แทนตัวเขา ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าปัญหาที่มองเห็นทุกคนมองไปทางเดียวกันคือการจบสกอร์ ตามที่ได้กล่าวถึง เชโปวิช ไว้ว่า
“เขาเพิ่งมา คิดว่าต้องให้เวลาเขาด้วย เพราะจังหวะเของเขากับเพื่อนร่วมทีมยังไม่ลงตัว ทำให้อาจจะยังไม่เข้าใจ หน้าที่ของเราคือทำให้นักเตะทุกคนเข้าใจกันมากกว่านี้”
แม้ว่าตัวสนับสนุนรอบข้างของ เชโปวิช ที่ประกอบไปด้วย วิลเลี่ยน พ็อพพ์, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, วีระเทพ ป้อมพันธุ์ หรือแบ็คซ้าย-ขวา จะหาทางป้อนบอลให้กับดาวยิงรายนี้หลายรอบ แต่ทุกครั้งกลับจบลงแบบเปล่าประโยชน์ทั้งหมด ไม่ยิงแป้ก ก็โหม่งเบา หรือเข้าไม่ถึงบอล
หากรูปแบบการเข้าทำทุกอย่างมันถูกหมด ทำมาดี ตรงกับที่ซ้อมมาทุกอย่าง แต่สุดท้ายมาตกม้าตายที่ตัวจบสกอร์ ผ่านไปอีกสักเกมสองเกมสตาฟฟ์โค้ช เมืองทอง อาจต้องคิดเรื่องการปรับเปลี่ยนกองหน้าตัวเป้าของทีมก็เป็นได้ ถ้าเกมนี้ไม่ได้ประตูจากจุดโทษของ วิลเลี่ยน พ็อพพ์ เผลอๆ อาจยิงไม่ได้เหมือนเดิม
แผลเก่าแผลเดิม
เกมรุกที่อาการค่อนข้างหนักแล้ว เกมรับที่เคยพอไว้ใจได้ในการยันเสมอกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-0 ต้องมาพังพาบจากการที่ การท่าเรือ เอฟซี เห็นจุดอ่อน แล้วตัดสินใจโจมตีตรงแผลนั้นแบบซ้ำไปซ้ำมาจนได้ผล
ปัญหาที่เป็นแผลเรื้อรังของ กิเลนผยอง ในแนวรับ ย่อมหนีไม่พ้นฟูลแบ็คทั้งสองฝั่ง ที่ทางแท็คติกของ มาริโอ ต้องหวังพึ่งพวกเขาในการเติมขึ้นไปทำเกมรุก แต่สุดท้ายแล้วจังหวะการลงมาเล่นเกมรับ รักษาตำแหน่งพื้นที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ทริสตอง โด หรือ ธีรภัทร เลาหบุตร กลับไม่มีใครทำได้ดีเลย
เวลาของเกมผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงฟูลแบ็คฝั่งซ้าย เริ่มเดินเล่นแบบหมดแรงข้าวต้มให้เห็นกันแล้ว เล่นเอากองหลังตัวแบกอย่าง ฌอง โคล้ด บิลลง ไล่ตามเก็บกวาดให้ไม่ทัน แถมการประสานงานกับคู่ขาในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำให้จังหวะการเล่นของตัวเขาเองเกิดอาการรวนไปด้วย
หลังจบเกมกับ แข้งเทพ ทางตัวแทนของทีมอย่าง ดานโญ่ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
“ต้องเข้าใจด้วยว่าเราเปลี่ยนผู้เล่นหลายคน ทั้งกองหลังและกองหน้าเกมรุกก็ยังไม่ลงตัว ก็ต้องใช้เวลาหน่อย ไม่ใช่แค่เกมรุกอย่างเดียว เกมรับก็พยายามแก้ไขอยู่ เอาจริงเกมรุกก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ก็สร้างโอกาสกันได้เหลือเพียงจังหวะสุดท้าย คิดว่าต้องกลับไปทำงานแก้ไขกันใหม่เพราะแมตช์หน้าต้องกลับไปเล่นในบ้าน”
อย่างไรก็ตามเวลาที่ผ่านไป 1 อาทิตย์ เมืองทอง ได้กลับมาลงเล่นในสนามเหย้าของตัวเอง มีแค่แฟนบอลของทีมที่เข้ามาให้กำลังใจเชียร์ เหมือนกับรุมกินโต๊ะผู้เล่นของ สิงห์เจ้าท่า อยู่ฝั่งเดียว กลับโดนเกมสวนกลับเล่นงานจนพังคาบ้านแบบไม่เป็นท่าด้วยสกอร์ 1-3
ไม่รู้ว่าบอร์ดบริหารของ กิเลนผยอง จะมีเวลาให้ มาริโอ และทีมงานอีกนานแค่ไหน เพราะหากยังเก็บแต้มเพิ่มไม่ได้อีกเกมสองเกม ดูท่าแล้วภาพจำเดิมๆ เกี่ยวกับการประกาศบอกลาตำแหน่ง อาจวนมาให้แฟนบอลได้เห็นอีกแน่นอน
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การชมเกมถ่ายทอดสด
https://www.ballthai.com/มีการบ้านต้องแก้-ดานโญ่-พอใจกับ-1-แต้มชี้แนวรุก-กิเลน-ยังไม่คม/
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ประทุม ชูทอง : นักสู้มืออาชีพแห่งโลกบอลเดินสาย
เปิดใจ ‘เบ็ค-สมเกียรติ คุณมี’ : ทำไมตัวท็อป ‘ฟ็อกซ์ฮันท์’ ถึงเลือกเส้นทางบอลเดินสาย ?
‘ผักบุ้ง PBDS’ : หญิงแกร่งแห่งวงการฟุตบอลเดินสาย
‘ใหญ่ นิลวงษ์ ’: โค้ชจอมเลื่อนชั้นแห่ง T3 ที่คุมทีมเดินสายที่ชนะ 100%
สโมสร ‘แตงโม’ : ตำนานแชมป์เงินล้านบอลเดินสายสองปีติดทีมเดียวในประเทศไทย
ศราวุฒิ มาสุข : กับชีวิตใหม่ในเส้นทางฟุตบอลเดินสาย