สืบจากเหล่าเซียน : เลือกมือปืน, ยิง, เซฟ อย่างไรให้ชนะจุดโทษ ?

การดวลจุดโทษเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เราได้เห็นประตูเซฟจุดโทษเก่ง ๆ มากมาย และผู้เล่นที่ยิงจุดโทษได้อย่างคม เฉียบขาดเหลือเชื่อ

เรื่องของจุดโทษคือศาสตร์ที่ไม่สามารถคาดเดาตอนจบได้ อย่างไรก็ตามคุณสามารถเพิ่มโอกาสชนะได้ และนี่คือเรื่องเล่าจากเหล่ามือยิง, จอมเซฟ และผู้จัดการทีม ถึงการดวลจุดโทษว่าพวกเขามีวิธีเอาชนะคูแข่งอย่างไรบ้าง ? ติดตามที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

จุดโทษไม่ใช่แค่ดวง

ว่ากันว่าการดวลจุดโทษนั้นเหมือนกับการแทงหวย มีโอกาส 50-50 ทว่าแท้จริงแล้วอาจจะไม่ใช่แบบนั้น

เรื่องนี้มีการวิจัยและเก็บสถิติกันอย่างจริงจัง โดยในปี 2020 มหาวิทยาลัยโคโลญจน์ ได้วิเคราะห์การดวลจุดโทษกว่า 1,000 ครั้ง จากทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลต่าง ๆ ในหลายระดับ และพวกเขาพบว่าเมื่อถึงช่วงการดวลจุดโทษ หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไป

จริงอยู่ที่โอกาสของทีมต่อจะมีมากกว่าอยู่ที่ 60% ส่วนทีมรองหรือทีมอ่อนกว่านั้นจะมีโอกาสชนะอยู่ที่ 40% แม้จะน้อยกว่า แต่นี่ก็เป็นอัตราการเอาชนะที่สูงกว่าในช่วงเวลาแข่งขันปกติเยอะมาก

เอาล่ะ จากตัวเลข 60-40 มันดูจะไม่ไกลจากตัวเลข 50-50 มากนัก แต่มันมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ทีมรองมีโอกาสเป็นผู้ชนะมากขึ้นด้วย

ประการแรกมีการอ้างอิงจากงานวิจัยของ เชียร์ จอร์เด็ต จาก Norwegian School of Sport Sciences ที่บอกว่าในช่วงการดวลจุดโทษนั้นสิ่งที่ตัดสินผู้ชนะได้ดีที่สุดคือ "ความตึงเครียด" โดยตัวของ จอร์เด็ต ระบุว่าทีมเล็ก ๆ จะมีความเครียดน้อยกว่า เพราะพวกเขาไม่ได้ถูกคาดหวังมากเท่า และการแพ้จุดโทษก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขั้นคอขาดบาดตาย ขณะที่ทีมที่เหนือกว่านั้นมีเรื่องต่าง ๆ ที่ให้คิดมากมาย ความพ่ายแพ้จะส่งผลกับพวกเขามากกว่าและมั่นจะทำให้พวกเขาเครียดขึ้นโดยธรรมชาติ ... ในจุดนี้สภาพจิตใจและวิธีการจัดการความเครียดของนักเตะแต่ละคนมีผลเป็นอย่างมาก...

คุณจะเห็นได้จากภาษากายของนักเตะ บราซิล ในเกมที่ดวลกับ โครเอเชีย ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา นักเตะของ บราซิล แบกความเครียดหนักมาตั้งแต่การโดนตีเสมอในช่วงต่อเวลาพิเศษ นอกจากนี้พวกเขายังส่งนักเตะที่มีประสบการณ์น้อย อยู่ในวัยแค่ 21 ปี อย่าง โรดรีโก้ มายิงเป็นคนแรก ... ในช่วงที่ความกดดันถาโถมขนาดนี้ตามคอมมอนเซนส์คนที่ควรเป็นตัวเปิด ควรเป็นคนที่ชัวร์ที่สุด ผ่านการรับมือกับสถานการณ์แบบนี้บ่อยที่สุดมากกว่า

โรดรีโก้ เดินมายิงด้วยภาษากายที่ไม่น่าไว้ใจ เขามีความเครียดอย่างเห็นได้จัด และวิธีการรับมือกับความเครียดของเขายังน้อยเกินไป เขาแบกความกดดันไว้ไม่ไหวและยิงได้ไม่ดีพอ บอลไม่เข้ามุม

งานวิจัยของ จอร์เด็ต ยังมีบางสิ่งที่อ้างอิงกับจุดโทษของ โรดรีโก้ ได้อีก นั่นว่าด้วยการหลบสายตาของคนยิงระหว่างเดินและเอาบอลมาตั้ง ตัวของ โรดรีโก้ เองหลบสายตาของ โดมินิค ลิวาโควิช สิ่งนี้นอกจากจะแสดงถึงความไม่มั่นใจแล้ว ผู้รักษาประตูจะมีความมั่นใจมากขึ้นด้วย ... และทีนี้ก็ขึ้นอยู่ฝีมือของคนเซฟแล้วว่าพวกเขาพร้อมสำหรับการดวลจุดโทษครั้งนี้ขนาดไหน ?

จากมุมมองคนเซฟ

จอมเซฟจุดโทษชื่อดังของโลกหลาย ๆ คนต่างพูดตรงกันว่า 1 ข้อสำหรับการเซฟจุดโทษว่าพวกเขาล้วนศึกษาการยิงของคู่แข่งเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ยาสซีน โบโน่ ประตูของทีม โมร็อกโก ที่โชว์เซฟใส่ สเปน จนตกรอบไปในฟุตบอลโลกครั้งนี้

โบโน่ บอกว่าตัวของเขาเชื่อเสมอว่าการดวลจุดโทษไม่ใช่เรื่องดวงแน่นอน และการซ้อมเซฟจุดโทษคือสิ่งที่ผู้รักษาประตูควรทำพอ ๆ กับการซ้อมอย่างอื่น เพราะการซ้อมบ่อย ๆ และศึกษาคู่แข่งก่อน มันจะมีผลต่อการอ่านจังหวะการวางเท้าของคนยิง ช่วยให้เขาสามารถคาดเดาทิศทางการยิงได้ดีขึ้น

“การดวลจุดโทษเป็นเรื่องสัญชาตญาณและการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มันจะออกมาดีกว่าการอยู่เฉย ๆ และปล่อยให้มันเรื่องของดวงอย่างแน่นอน คุณต้องคิดอยู่เสมอว่ามันเป็นงานที่เป็นส่วนหนึ่งของเกมและคุณต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น" โบโน่ ผู้เซฟจุดโทษไปถึง 12 ครั้งใน 2 ปีลังสุด กล่าว

นอกจากการซ้อมและศึกษาคู่แข่งเเล้ว สิ่งที่ต้องมีไม่แพ้กับคนยิงคือความมั่นใจ ผู้รักษาประตูจอมเซฟจุดโทษหลายคน เลือกใช้วิธีข่มขวัญคู่ต่อสู้ ด้วยการเล่นเกมจิตวิทยา การพูดหรือการดึงเวลาให้ช้าที่สุดเพื่อทำลายสมาธิของคู่แข่ง และเหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาเองก็ต้องทำตัวให้มันดูมั่นใจ แข็งกร้าว เพราะมันท่าทางที่มั่นใจนั้นจะทำให้พวกเขาดูตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งมันจะช่วยลดความมั่นใจของคนยิงลงไปได้ด้วย

"เราเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตประสาทสุดแกร่ง และความมั่น ก่อนจะง้างเท้ายิงหรือเซฟ กายพร้อม ใจพร้อม คือความลับของเรา เดินเข้ากรอบ 18 หลาด้วยความสง่า เรามั่นใจว่ายิงไป ผลลัพธ์ที่ตามมาจะดีงามแน่นอน" อันเดรียส ค็อปเค่ ตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมัน ว่าเช่นนั้น

การซ้อม การศึกษา และท้ายที่สุดคือการก้าวเท้าลงไปยืนอยู่หน้าปากประตูด้วยท่าทางที่มั่นใจ คือสิ่งที่พวกเขาแนะนำ นอกเหนือจากนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการอ่านทิศทางการยิงของแต่ละคนเเล้ว ว่าพวกเขามีวิธีเซฟแบบไหน บางคนใช้การยึกยักหลอกกองหน้า บางคนตัดสินใจเลือกทางแล้วพุ่งไปสุดตัว ซึ่งในส่วนนี้เป็นการดวลกันของคนยิงและคนเซฟแล้วว่าใครจะประสาทแข็งกว่ากัน

จากมุมมองคนเลือก

หน้าที่การเลือกคนยิงเป็นของโค้ช และโค้ชแต่ละคนก็มีวิธีการเลือกคนยิงแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาอยู่กับนักเตะทุกวัน รู้จักนิสัยใจคอเป็นอย่างดี และเห็นนักเตะซ้อมยิงจุดโทษว่าใครยิงได้ดี ใครยิงได้แย่ แต่เหนื่อสิ่งอื่นใดคือ เมื่อถึงเวลาจริง พวกเขาจะต้องทบทวนตัวเลือกอีกครั้งเพื่อให้รู้ว่ามือยิงของพวกเขา พร้อมแค่ไหนสำหรับการดวลจุดโทษครั้งนี้

อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือของ อาร์เซน่อล บอกว่าเขาจะถามนักเตะของเขาอย่างตรงไปตรงมาว่าพร้อมจะยิงจุดโทษหรือไม่ ถ้านักเตะคนนั้นบอกว่าไม่ เขาจะไม่ตอแยและไม่พยายามจะทำให้เขาเปลี่ยนใจ คนที่บอกว่าไม่พร้อมยิง นั่นหมายถึงพวกเขาไม่พร้อมจริง ๆ ต่อให้ซ้อมดีแค่ไหน แต่หน้างานอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดังนั้นคนที่ยิงดีที่สุด พร้อมที่สุด และมีประสบการณ์ที่สุด สมควรได้ออกมายิงเป็นคนแรกในช่วงดวลจุดโทษ

"อะไรคือการเลือกที่ดีที่สุด ผมบอกไม่ได้ เพราะมันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่สำหรับผม ผมจะเลือกคนที่เเข็งเกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ณ ตอนนั้นเป็นคนแรกแน่นอน เพราะถ้าคุุณเลือกคนที่ดีที่สุดไว้ยิงเป็นคนที่ 5 คุณเอาอะไรมาแน่ใจล่ะว่าการยิงจะโทษจะยาวไปถึงตอนนั้น ?" เวนเกอร์ กล่าว

จุดโทษไม่ใช่เรื่องของดวงอย่างแน่นอน เพียงแต่มันคือศาสตร์ที่ต้องศึกษากันไปไม่รู้จบ ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถหาสูตรสำเร็จในการดวลจุดโทษได้ อย่างไรก็ตามทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กันหมด เลือกคนยิ่งที่มั่นใจ เลือกคนเซฟที่สามารถอ่านจิตใจของฝั่งตรงข้ามได้เก่ง และสุดท้ายคือการส่งคนที่เหมาะสมที่สุดลงไปจัดการสถานการณ์ตรงนั้น ... แน่นอนมันไมได้การันตีว่าคุณจะชนะ แต่ที่แน่ ๆ มันช่วยเพิ่มโอกาสในการเอาชนะมากกว่าการปล่อยให้มันเป็นเรื่องของโชคชะตาอย่างแน่นอน

https://www.prospectmagazine.co.uk/philosophy/what-football-can-teach-us-about-philosophy-southgate-penalties-bernard-williams-agent-regret

https://barcainnovationhub.com/the-anatomy-of-a-penalty/

https://www.wsj.com/articles/world-cup-2022-croatia-brazil-penalty-shootout-11670503611

https://www.arsenal.com/news/news-archive/wenger-how-i-decide-my-penalty-takers

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด