สิทธิโชค ภาโส : ความฝันนักกอล์ฟ, บอลสนามปูน สู่บทพิสูจน์ดาวรุ่งตลอดกาล

สิทธิโชค ภาโส : ความฝันนักกอล์ฟ, บอลสนามปูน สู่บทพิสูจน์ดาวรุ่งตลอดกาล
admin

จะมีผู้เล่นสักกี่คนในเมืองไทย ที่ได้โอกาสโผบินไปเล่นฟุตบอลที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง จากเด็กผู้ชายที่ชอบดูกอล์ฟ หันเหสู่การเตะฟุตบอล คุ้นชินกับสนามฟุตบอลเล็กๆ ก่อนพัฒนาที่ฝีเท้าสู่หนึ่งในอคาเดมีที่ดีที่สุดของเมืองไทย และก้าวไปสู่โอกาสการค้าแข้งที่ญี่ปุ่น

วันนี้ เขาจำเป็นต้องกลับมาพิสูจน์ตัวเอง ด้วยสองแข้งที่เขามี เพื่อหลีกหนีคำว่า "ดาวรุ่งตลอดกาล" อีกครั้งหนึ่ง

และนี่คือเรื่องราวชีวิตแข้งของ "ย้า" สิทธิโชค ภาโส

ย้า ณ ปากน้ำ

ย้า เกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร แต่หารู้ไม่ว่า กีฬาแรกที่ ย้า ชอบ กลับไม่ใช่ลูกหนัง แต่เป็น กีฬากอล์ฟ ที่เขามีโอกาสดูตอนเด็กๆ แต่ด้วยฐานะทางบ้าน และการปลูกฝังจากพ่อของเขา ที่ชอบดูฟุตบอล ทำให้เขาเบี่ยงเบนมาเล่นฟุตบอลตั้งแต่ตอนนั้น

"ตอนแรกผมชอบกีฬากอล์ฟ แต่พ่อไม่มีเงินส่งให้เล่น พ่อเลยบอกว่าลองมาดูบอล ตอนนั้นที่ดูคือบอลโลก อีกวัน เลยให้เขาซื้อลูกบอลมาให้ เลยได้เตะตั้งแต่ตอนนั้น"

จากนั้น ทุกเย็นหลังกลับจากโรงเรียน ย้าจะขี่จักรยาน โดยมีลูกฟุตบอลคู่ใจ มาเตะเล่นอัดกำแพงโรงงานในซอยที่บ้านเขาอยู่ วันแล้ววันเล่า จนพนักงานโรงงาน ชวนเขามาเล่นฟุตบอลด้วยกัน บนสนามปูนแห่งนั้น ทำให้เขาเริ่มต้นเอาจริงเอาจังกับฟุตบอลตั้งแต่ตอนนั้น

จะเห็นได้ว่า สนามฟุตบอลสาธารณะใกล้บ้านเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการบ่มเพาะนักฟุตบอลฝีเท้าดีสักคนขึ้นมา ทำให้ Think Curve - คิดไซด์โค้ง และผู้สนับสนุนโครงการอย่าง SC Asset พร้อมด้วย Big One Group, สโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, สีทาบ้าน TOA , แบรนด์เสื้อผ้ากีฬา Volt และบริษัท ธานนอส จำกัด สานต่อโครงการ 'Dream Stadium…สนามแห่งฝัน' จากปี 2566 อีกครั้ง โดยหนึ่งในนั้นคือสนามที่ ลานกีฬาเคหะร่มเกล้า ลาดกระบัง ที่มีภาพของ สิทธิโชค ภาโส ลายเส้นแบบถูกลิขสิทธิ์จาก โยอิจิ ทากาฮาชิ ผู้วาด “กัปตันซึบาสะ” อยู่ในนั้น

จากวันที่เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลเตะอัดกำแพงมาถึงวันที่เล่นฟุตบอลบนพื้นสนามปูน นั่นทำให้เขาค่อยๆ พัฒนาฝีเท้าฉายแววเก่ง จนติดทีมอคาเดมีของสมุทรปราการ เอฟซี ยาวไปถึงเล่นให้ทีมจังหวัดสมุทรปราการ เล่นในรายการใหญ่ๆ มาแล้ว

"มีช่วงหนึ่งที่ผมกลับจากญี่ปุ่น แล้วพอดีมีอุบัติเหตุทางรถยนต์ เลยไม่ได้กลับไป และมาทำอคาเดมีต่อ หลังจากที่ไม่ได้ทำนาน เราประกาศรับเด็ก และไปดูเด็กบ้าง มันมีอยู่ที่สระแก้วมีรายการ ผมไปทั้งที่ถือไม้เท้าอยู่ ก็ไปเจอ ย้า ที่สนามแข่ง เห็นทักษะใช้ได้ และเป็นคนที่ทักษะดี รูปร่างดีด้วย เลยชวนมาเข้าอคาเดมี"

โค้ชเฮง-วิทยา เลาหกุล กุนซือของชลบุรี เอฟซี ในปัจจุบัน เล่าถึงวันที่เขาไปเห็นฟอร์มแข้งเด็กจากสมุทรปราการคนหนึ่ง ที่ลงเล่นและโชว์ฟอร์มเก่ง ในรายการไพร์ม มินิสเตอร์ คัพ เกมนั้น เขาทำประตูออกนำให้กับทีม จ.สมุทรปราการ และแม้ว่าจะแพ้ ทีม จ.ชลบุรี ไป แต่สายตาที่เฉียบแหลม ทำให้โค้ชเฮง ไม่รอช้าที่จะถามชื่อแซ่ และชวน ย้า ในตอนนั้นไปร่วมงานกับอคาเดมีทัพฉลามชลด้วยกัน

แต่ว่า ย้า บอกกับโค้ชเฮงว่า ขอเวลาไปคิดดูสักคืน แน่นอนว่าในเวลานั้น การย้ายโรงเรียนสำหรับ ย้า ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นการย้ายที่อยู่ไปซ้อมอย่างจริงจัง เป็นการจากบ้านครั้งแรก ในวันที่เขาในตอนนั้น มีอายุเพียง 11 ขวบ

ย้า ใช้เวลาคิดอยู่คืนเดียว ก่อนบอกกับพ่อว่า ผมจะลาออกจากโรงเรียน และไปอยู่ชลบุรี...

เดบิวต์

ชีวิตที่ชลบุรี เขาค่อยๆ ซึมซับและเรียนรู้ ซึ่งต่อยอดให้เขาเป็นเพชฌฆาตในกรอบเขตโทษ เขาเติบโตในอคาเดมีของชลบุรี โดยมีเบื้องหลัง คือคราบน้ำตา ที่เขาต้องจากบ้านมาไกล แต่แววมยุราของเขาเป็นส่วนหนึ่งในการพา ท่าข้ามพิทยาคม กวาดแชมป์ฟุตบอลเยาวชนทั่วสารทิศ และนั่นทำให้เขาต่อยอดก้าวสู่ทำเนียบทีมชาติไทยในระดับเยาวชน

"เขาเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มาก และเป็นผู้นำในสนาม ส่งเสียง ตะโกน สั่งเพื่อนร่วมทีม และที่สำคัญ เขาเป็นกองหน้าที่เป็น 1 ใน 50 คนที่มีพรสวรรค์ ซึ่งช่วง 17-18 ปี ตอนนั้น ย้าคือเก่งที่สุดในประเทศไทย หาตัวจับยาก เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกซ้อม" โค้ชเฮง กล่าวถึงศิษย์รักคนนี้

ขณะที่ ตระกูล ไทยสงคราม โค้ชวิทยาศาสตร์การกีฬา พูดถึง ย้า สมัยที่เล่นตราด เอฟซี ว่าเป็นแข้งที่ตั้งใจเล่นอย่างเต็มที่ในทุกครั้ง ไม่ว่ายามฝึกซ้อม หรือ ยามลงสนามจริง

"ย้า เป็นเด็กอัจฉริยะ เขารู้ว่าเวลาซ้อม กับ แข่งขันจริง ไม่ต่างกัน เขาใส่เต็มที่ แล้วเวลาแข่งเขาเต็มที่ ซึ่งมันมาจากวินัยล้วนๆ เขียนไม่กี่คำ แต่ทำยาก"

ด้วยพรสวรรค์ และความเก่งกาจ ทำให้สื่อนอกอย่าง เดอะ การ์เดี้ยน ยกให้เขาเป็น 1 ใน 50 แข้งดาวรุ่งน่าจับตามองของโลก เมื่อปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ ย้า ในวัย 17 ย่าง 18 ปี เขาได้ฤกษ์ประเดิมสนามกับชลบุรี เอฟซี การลงเล่นไทยลีก คือความฝันของใครหลายคน

แต่ศักยภาพในเวลานั้นของเขา เก่งกว่านั้น!

ย้าซัง

ปี 2017 คาโงชิมา ยูไนเต็ด ทีมในเจลีก 3 ตัดสินใจคว้าตัว ย้า ที่เพิ่งประเดิมสนามในไทยลีกเพียงไม่กี่เกม ไปร่วมทีมด้วยสัญญา 3 ปี การผจญภัยครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น แต่...

ช่วงเวลาที่ คาโงชิมา แม้จะเก่งจนถูกจับตามอง แต่สิ่งสำคัญคือเรื่องของกำแพงภาษา และการจากบ้านมาไกล ย้า ยอมรับว่า เป็น 'ความกดดันอันใหญ่หลวง' สำหรับตัวเขา ในวัยที่ยังไม่ถึง 20 ปีดี

"ผมไปญี่ปุ่น ตอนวัยที่ยังเป็นเด็กมาก ผมไม่ได้เลย เรียนผมไม่เอาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ภาษาอังกฤษ ตอนไปญี่ปุ่นก็ไม่ได้ ตอนนั้นมันคิดถึงบ้านด้วย เป็นเด็กคนหนึ่งที่ไปต่างประเทศแล้วต้องงอแงกลับบ้าน ตอนนั้นคือไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย"

"ตอนนั้นเราไม่รู้จะพูดกับใคร พอคุย มันเหมือนเราต้องใช้ความเข้าใจในรูปแบบวิธีการซ้อม ต้องเดาเอาว่าต้องซ้อมอะไรทำตามเขาเอา ผมฟังไม่รู้เรื่อง แต่ผมสามารถทำตามได้ แล้ววินัยเราตอนแรกที่ไปอยู่ยังไม่ดี ความเข้มข้นในเวลาซ้อมบ้านเขา เข้มข้นมาก"

ขณะที่ แชมป์-วงศ์ธวัช กันทรากรกิติ ล่ามของย้า ให้สัมภาษณ์กับ Football Tribe เมื่อปี 2018 ว่าช่วงเวลานั้น ย้า 'หมดไฟ' ในการเล่นแล้ว แต่ด้วยความฮึดสู้และกำลังใจ ทำให้ช่วงท้ายซีซั่น เขาเริ่มได้โอกาส และส่งผลถึงการติดทีมชาติไทยในระดับ U23 อีกด้วย

"ตอนพี่มา ย้าเขาหมดกำลังใจแล้ว พี่ไปเดือนสิงหาคม และย้าเขาอยากกลับบ้าน ตอนแรกย้าไม่เปิดใจเลย ลองสังเกตว่าตอนหลังๆ ที่พี่ได้เป็นไปล่าม ก่อนกลับมาไทย เขามีรอยยิ้มมากขึ้น"

"พอเริ่มคุย และย้ากลับมามีชื่อติดอีกครั้ง เขาเริ่มแฮปปี้ เปิดใจคุยกับเราทุกเรื่อง ผลงานดีขึ้น และได้เรียกกลับไปติดทีมชาติ เหมือนเราได้พาเขามายืนในจุดที่เคยเป็นได้ สภาพจิตใจ ความฟิต นำไปใช้ในทีมชาติ ตอนนี้เราโคตรดีใจที่เขากลับมาได้ เขาเป็นคนเก่งนะ เพื่อนร่วมทีมก็ยอมรับนะ"

ขณะที่ โค้ชเฮง มองเรื่องของการปรับตัว ที่ ย้า ไม่สามารถปรับในส่วนนี้ได้ ทำให้เรื่องของการเล่นที่ญี่ปุ่น ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก

"เรื่องทักษะความสามารถ มันอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ทักษะความสามารถ มันมีสิ่งที่เสริมคือ ความมุ่งมั่น ความกล้า การแสดงบุคลิกภาพ ซึ่งตรงนี้ ย้า เขามองข้ามและไม่ใส่ใจ"

"ที่สำคัญคือการไปอยู่ต่างประเทศ มันจะต้องเรียนรู้ วัฒนธรรม สภาพอาหาร อากาศ ภาษา แต่ ย้า เขาบอกว่า มาเล่นบอล ไม่ได้มาเรียนภาษา ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เขาคิดผิด"

5 เกมที่ญี่ปุ่น ว่าไปก็ไม่ได้แย่นัก สำหรับการออกไปเล่นต่างประเทศครั้งแรก แต่ชีวิตที่ญี่ปุ่น ดูจะแข็งเกินว่าเขาจะรับไหว ทำให้หลังจบปีนั้น เขาตัดสินใจกลับมาเมืองไทย กลับมาเล่นให้ ชลบุรี เอฟซี อีกครั้ง

พะโล้ยายฮวย

หลังจากกลับมาเมืองไทย ย้า ถูกแฟนบอลไทยวิจารณ์ถึงการไม่ดูแลร่างกายและวินัย จนถึงขั้นว่า โค้ชเฮง ออกมาเตือนลูกศิษย์รายนี้ว่าให้กลับมาโฟกัสฟุตบอลอย่างจริงจัง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

"ได้ยินมาอยู่เหมือนกันสำหรับเจ้าย้า ผมเอ่ยปากเตือนเขาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยมาตลอด สมัยนี้นักฟุตบอลหลายๆ คน หมดอนาคตเพราะเรื่องพวกนี้มาก็เยอะ ในรายของเจ้าย้านี่ถ้ายังเป็นแบบนี้เขาก็ไม่สมควรติดทีมชาติ" โค้ชเฮง พูดเมื่อปี 2018

และแม้ว่าจะถูกเรียกติดทีมชาติไทย U23 ชุดทำศึกซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ แต่ดูเหมือนว่า ร่างเพชฌฆาตดาวยิงจะถูกฝังกลบไว้แล้วหรือ? 

ปี 2020 ในวันที่ทีมชาติไทย U23 สร้างประวัติศาสตร์เข้าสู่รอบน็อกเอาท์ศึกชิงแชมป์เอเชียที่ ไทย เป็น เจ้าภาพ แต่ ย้า ต้องกลายเป็นผู้ชม จากอาการบาดเจ็บ ก่อนจะโยกย้ายไปที่ ตราด เอฟซี 

ตระกูล ไทยสงคราม มองถึง ย้า ในตอนนั้นว่าปัญหาหลักของเขา มาจากสภาพจิตใจ ซึ่งที่นี่ เขาค่อยๆ เค้นฟอร์มที่คุ้นเคยออกมา ผ่านลูกยิงไกล ใส่ พีที ประจวบ เป็นเครื่องหมายอย่างดีถึงคุณภาพฝีเท้าของเขา

"ตอนได้ตัว ย้า เรามองว่า เด็กคนนี้มันสร้างไม่ยาก เพียงแต่ เรามองตัวเด็กว่า บางครั้งเด็กมันโตเร็วเกินไป มันไม่ไปพร้อมวัย มันอยากมีเพื่อน เราเลยพูดกับ สะสม (พบประเสริฐ) เหมือนกันว่า ย้า เกร็ง และกลัวรุ่นพี่ในทีม ทำให้ความเป็นวัยรุ่น ออกมาไม่สุด"

"ย้าเป็นผู้เล่นคุณภาพคนหนึ่งโดยเฉพาะตำแหน่งหน้าต่ำ ซึ่งบ้านเราค่อนข้างจะหายาก เนื่องจากว่าในลีกเรามั่นใจผู้เล่นต่างชาติเยอะ ย้าถ้าได้รับโอกาสบ่อยๆ ผมคิดว่าเขาน่าจะเป็นผู้เล่นแถวหน้าของเมืองไทยเลยทีเดียว" พยงค์ ขุนเณร กุนซือตราด เอฟซี ในเวลานั้นกล่าว

ฟอร์มในปีนั้น ย้า ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ผลงาน 2 ประตูจาก 9 เกม แม้ไม่มากมาย แต่นั่นทำให้ความมั่นใจที่เขาเคยมี กลับมาอีกครั้ง!

ดาวรุ่งตลอดกาล?

ปี 2021 เขาตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่นอีกครั้งกับ เอฟซี ริวกิว แต่ 2 ฤดูกาลของ ย้า กลับไม่สวยสดงดงามเท่าใดนัก โดยเฉพาะฤดูกาลที่สองที่ไม่อาจสามารถพาทีมอยู่รอดในเจลีก 2

หลังหมดสัญญา เขากลับมาสู่อ้อมอกของทัพฉลามชลอย่างเงียบๆ ก่อนจะถูกส่งให้ พัทยา ยูไนเต็ด ยืมตัวในเลกที่สองของไทยลีก 2 ซีซั่นนี้

"เราให้เขาไปเล่นดิวิชั่นที่ต่ำกว่า เพื่อทดสอบสภาพจิตใจของเขา ถ้าเขาผ่านจุดนี้ไปได้ ผมว่าโอกาสเขาที่จะกลับมาสู่ความมืออาชีพยังมีอยู่ แต่ถ้าเขาไม่ปรับตัว และความมุ่งมั่น เขาต้องผ่านจุดนี้ไป ต้องมีความตั้งใจมากกว่าเก่า เพราะ ชลบุรี อคาเดมี มีเด็กๆ ที่จะขึ้นมาเยอะ ความคิดที่เป็นมืออาชีพ ย้าต้องปรับตัว" นี่คือสิ่งที่โค้ชเฮง ยังหวังเห็น ย้า กลับมาเป็น 'ไอ้ย้า' คนเดิม กลับสู่เส้นทางอีกครั้ง

จากจุดเริ่มต้นในสนามสาธารณะใกล้บ้าน สู่การเป็นหนึ่งในแข้งชาวไทยไม่กี่คนที่ได้เดินทางไปค้าแข้งถึงประเทศญี่ปุ่น เรายังหวังให้เขาลบคำปรามาสว่าเป็น “ดาวรุ่งตลอดกาล” เพื่อให้ภาพของเขาบนสนาม ลานกีฬาเคหะร่มเกล้า ลาดกระบัง หนึ่งในโครงการ 'Dream Stadium…สนามแห่งฝัน' กลายเป็นแรงบันดาลใจชั้นดีให้เด็กๆ ในพื้นที่แถวนั้น เดินตามรอย และกลายเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชาติไทยในอนาคตต่อไป

แหล่งอ้างอิง

  • https://www.youtube.com/watch?v=AygDMkT9DIY - แรงกดดัน พรสวรรค์ ลูกยิงครึ่งสนาม! | สิทธิโชค ภาโส | Hero Moment EP.1 (ZENSE Entertainment)
  • https://www.youtube.com/watch?v=K-JNVU5J3dY - ผมจะกลับไปแก้ไขอดีตที่เคยผิดพลาด | Ari magazine Talk (Ari Football)
  • https://football-tribe.com/thailand/2018/04/06/tribe-talk-champ-wongtawat/2/ - จากย้าสู่มุ้ย : เปิดชีวิต “แชมป์ วงศ์ธวัช” ล่ามคู่ใจแข้งไทยในญี่ปุ่น (Football Tribe Thailand)
  • https://mgronline.com/sport/detail/9610000053612 - "โค้ชเฮง" เตือน "เจ้าย้า" รีบปรับปรุงตัวเอง หลังเป็นข่าวติดโซเชียล-ผู้หญิง น้ำหนักเกิน (MGR Online)
  • สัมภาษณ์ วิทยา เลาหกุล 19 กุมภาพันธ์ 2567
แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ